วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ต.ห้วยขวาง อ. กำแพงเสน จ.นครปฐม

บทที่ ๑๑ ปฏิบัติธรรม ปราณโอสถ ขั้นที่ ๑-๓ วิธีรวมกายรวมใจทีละจุด / ผ่อนคลาย คือปราณโอสถที่แท้จริง / รู้ลม

ปราณโอสถ กายรวมใจ รักษาใจไม่ให้กระเพื่อม

ปฏิบัติธรรม ปราณโอสถ ขั้นที่ ๑-๓  วิธีรวมกายรวมใจทีละจุด / ผ่อนคลาย คือปราณโอสถที่แท้จริง / รู้ลม

แสดงธรรมวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

สาระสังเขป

         สอนปฏิบัติธรรมปราณโอสถ ขั้นที่ ๑ กายรวมใจทีละจุดทั่วร่างกาย ให้รู้ภายในกายให้แจ่มชัด สำรวจตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เดินประคองจิตไม่ให้กระเพื่อม และไม่ส่งออกนอกกาย แล้วให้จิตพากายมายืนอยู่กับที่ สำรวจตามจุดต่างๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าให้ชัดเจน ขั้นที่ ๒ ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ปราณโอสถแท้จริงที่สะอาดไม่เร่าร้อน ไม่เสียดแทงจะเกิดมากขึ้นเมื่อผ่อนคลายได้นาน  ขั้นที่ ๓  รู้ลมว่าลมเข้าหรือออกอยู่ การรู้จัก เข้าใจมายาของจิต การรักษาจิตต้องใช้ทางสายกลางคือความพอดี กรรมฐานกองใดกองหนึ่งจัดการกับกิเลสสารพัดกองไม่ได้หมด พระพุทธเจ้าจึงต้องทรงประทานกรรมฐานถึง ๔๐ กอง เอาไว้สำหรับกำราบกิเลส

 

เนื้อหา

ลุกขึ้น​ยืน​ เตรียม​ปฏิบัติ​ธรรม 

๐ กายรวมใจ 

เบื้องต้น​ รู้แล้ว​ ขั้นตอน​ที่​ ๑​ ทำกายรวมใจ​ อย่างเดียว 

กายรวมใจ ไม่ได้อยู่ที่กลางกระหม่อม ไม่ได้อยู่จุดใดจุดหนึ่ง แต่อยู่ไปทั่วสรรพางค์กาย 

  • ให้อยู่ภายในกาย​ อยู่​ที่ฝ่ามือ​ ปลายนิ้ว​ หน้าผาก​ ท่อนแขน​ หัวไหล่​   ต้นคอ​ กะโหลก​ศีรษะ​ กระหม่อม​ หน้าผาก 
  • ฝึก​กายรวมใจ​ แบบรู้ตัวทั่วพร้อมแบบนี้​ เวลาเดินลมรู้ลม​และตามดูลม​ จะได้เดินได้ถูก​ เดินได้ช่ำชอง​ เชี่ยวชาญ 
  • ไปดูแต่จุดใดจุดหนึ่ง​อยู่อย่างนั้น​ เวลาเดินลม​ ตามดูลม​ ก็อยู่แต่จุดนั้น​ รู้แต่จุดนั้น​ จุดอื่นไม่รับรู้​ หรือรู้แบบผิวเผิน​ เพราะ​ไม่คุ้นเคย​ที่จะรู้ 

กายรวมใจ คือ รู้ภายในกายให้แจ่มชัด 

  • ไม่ต้องส่งใจออกนอกกาย​ ไม่ต้องคิดเรื่อง​ใดๆ  รู้อยู่​เฉยๆ​ ตั้งแต่​หัวจรดปลายเท้า 
  • ยังอยู่​ที่​ "กายกับใจ" รวมกัน​​ ไม่มีความคิดอื่น อย่าฟุ้งซ่าน 

 

๐ วิธีรวมกายรวมใจ คือ สำรวจตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า 

  • "กาย"อยู่กับที่อยู่แล้ว​ แต่​ "ใจ" ไม่นิ่ง​ ไม่อยู่กับที่​  ก็ให้มันเชื่องลงโดยการอยู่ที่หัว​ อยู่​ที่หน้าผาก​ จมูก​ ปาก​ คาง​ คอ​ ​ทรวงอก ไล่เรื่อยไปจนถึงอยู่ที่ลิ้นปี่​ ช่องท้อง​ เหนือสะดือ​ ใต้สะดือ แยกไปที่หน้าขา​ ๒​ ข้าง​ หัวเข่า​ ท่อนขาด้านบน​ ท่อนขาด้านล้าง​ ข้อเท้า​ ฝ่าเท้า 
  • อย่าอยู่​ที่ใดที่หนึ่ง ไม่อย่างนั้น​ เวลาตามดูลม​ รู้ลม​ จะกลายเป็นว่า​ลมเดินไม่ถ้วน เพราะถ้าบังคับ​ให้มันอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง​ จะกลายเป็นการเพ่ง​แล้วจะเครียด 

๐ ออกเดิน 

ลอง ใจพากาย ออกเดิน เดินแบบชนิดให้ กายกับใจ รวมกันอยู่ 

เดิน ประคองจิตไว้อย่าให้กระเพื่อม ให้ตั้งมั่นอยู่เฉพาะภายในกาย 

  • ไม่คิด​อะไร​ ไม่วิตกอะไร​ ไม่กังวล​ใดๆ 
  • ไม่ฟุ้งซ่าน​ ไม่สับสน​ ไม่สับส่าย 
  • มี​ "จิต" ตั้งอยู่​ "รู้" เฉพาะ​ภายใน​กาย​ ตั้งแต่​หัวจรดปลาย​เท้า​ ไม่ใช่จุดใดจุด​หนึ่ง 
  • ทำประหนึ่ง​เหมือน​ผู้มีกำลัง​ เดินประคอง​หม้อ​น้ำมนต์​ไว้บนหัว​ ไม่ให้น้ำมันหรือน้ำมนต์​กระฉอก 

  ยืนอยู่กับที่ 

จิตพากายมายืนอยู่กับที่อยู่ กายกับใจยังรวมกันอยู่ 

ลองสำรวจตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าให้ชัดเจน 

จิต​ อยู่ที่กลางกระหม่อม 

จิต​ อยู่ที่กะโหลก​ศีรษะ 

จิต​ อยู่ที่ลำคอ 

จิต​ อยู่ที่หัวไหล่​-ไหปลา​ร้าทั้ง​ ๒​ ด้าน 

จิต​ อยู่ที่ท่อนแขน​ด้านบน​ ๒​ ข้าง 

จิต​ อยู่ที่ข้อศอก​ ๒​ ข้าง 

จิต​ อยู่ที่ท่อนแขน​ด้านล่าง​ ๒​ ข้าง 

จิต​ อยู่ที่ข้อมือ​ ๒​ ข้าง 

จิต​ อยู่ที่ฝ่ามือ​ ๒​ ข้าง 

จิต​ อยู่ที่นิ้วทั้ง​ ๑๐ 

ขยับจากนิ้วทั้ง​ ๑๐​ มาอยู่ที่ฝ่ามือ​ ๒​ ด้าน​ ตามมาที่ข้อมือ​ ท่อนแขน​ ๒​ ข้าง​ ข้อศอก​ ๒​ ข้าง​ ท่อนแขน​ด้านบน​ ๒​ ข้าง​ หัวไหล่​ ไหปลาร้า​ ๒​ ข้าง​ สะบักไหล่​ ๒​ ข้าง​ 

  

มารวมตัวที่สันหลังและกระดูกสันหลัง​ตั้งแต่บนลงล่าง 

ก้นกบ​และตะโพก​ ๒​ ข้าง​ ขาพับ​ ๒​ ข้าง​ น่อง​ ๒​ ข้าง​ ข้อเท้า​ ๒​ ข้าง​ ส้นเท้า​ ๒​ ข้าง​ ฝ่าเท้า​ ๒​ ข้าง​ นิ้วเท้า​ทั้ง​ ๑๐​  หลังเท้า ๒​ ข้าง​ ข้อเท้าและตาตุ่ม​ ๒​ ข้าง​ หน้าแข้ง​ ๒​ ข้าง​ หัวเข่า​ ๒​ ข้าง​ ท่อนขาและหน้าขาด้านบน​ ๒ ข้าง 

... 

มารวมตัวที่ท้องน้อย 

เอว ๒​ ข้าง​ ช่องท้อง​ใต้สะดือ​ ช่องท้องเหนือสะดือ​ ซี่โครง​ด้านหน้าซ้าย-ขวา​ ลิ้นปี่​ ทรวงอก​​ ไหปลาร้าด้านหน้าซ้าย-ขวา​ ลำคอด้านหน้า​ กรามซ้าย-ขวา​ คาง​ ริมฝีปากล่าง​ ริมฝีปากบน​ ใต้จมูก​ สันจมูก​ โหนกแก้ม​ซ้าย-ขวา​ เบ้าตาซ้าย-ขวา​ โหนกคิ้วซ้าย-ขวา​ หน้าผาก​ กะโหลก​ศีรษะ​ด้านหลัง 

 

๐ ขยับขึ้นขั้นที่ ผ่อนคลาย 

ไม่ได้ให้คิดเรื่อง​อื่น  

ผ่อนคลาย​กาย 

ผ่อนคลาย​ใจ 

ผ่อนคลาย​กล้ามเนื้อ​ ระบบประสาท 

ผ่อนคลาย​ข้อกระดูก​ เส้นเอ็น​ พังผืด 

๐ นั่งลงด้วยความผ่อนคลาย 

  • ทุกอย่าง​ผ่อนคลาย สมอง​ ระบบประสาท​สัมผัส​ทั้งปวงทั้ง​หมด  กล้ามเนื้อใบหน้า​ ข้อกระดูก​ กล้ามเนื้อ​ไหล่​ กล้ามเนื้อ​สะบัก​ กล้ามเนื้อ​ท่อนแขน​ เส้นเอ็น​และพังผืด​ ทั้งหมด​ผ่อนคลาย 
  • ขณะที่ผ่อนคลาย​ กายรู้ใจ ใจรวมกาย ไม่มีวอกแวก​ไปทางอื่น 
  • ถ้าผ่อนคลาย​แล้วแวบ​ออกไปทางอื่น​ แสดงว่า​ หลุดแล้ว 
  • อยู่กับความผ่อนคลาย​โดย​ไม่มีความคิดใดๆ​ เข้ามาแทรก 
  • สำรวจ​ดูตั้งแต่​หัวจรดปลาย​เท้า​ ตรงไหนขมึงทึงตึงเครียด โดยภาพรวมต้องผ่อนคลาย​ตั้งแต่​หัวจรดปลายเท้า 
  • ยังอยู่​กับความผ่อนคลาย​ให้นานที่สุด โดยไม่ปรากฏ​อาการถีนมิธะ​ ความง่วงเหงาหาวนอน 

 

ปราณโอสถที่แท้จริง ยิ่งอยู่กับความผ่อนคลาย​ได้นานเท่าไหร่​  

"ปราณ" สะอาดที่ไม่เร้าร้อน​ที่ไม่ทิ่มแทง​ ไม่เสียดแทงจะเกิดมากขึ้น​  

 จึงจะเป็น​ปราณโอสถ​ที่แท้จริง 

ปราณที่เร้าร้อน เสียดแทง ทิ่มแทง นั่นไม่ใช่โอสถ 

๐ ขยับขึ้นขั้นที่   

อยู่กับลมหายใจ ขั้นนี้เรียกว่า รู้ลม 

  • ลมเข้าอยู่​ "รู้"ว่าลมเข้า 
  • ลมออกอยู่​ "รู้"ว่าลมออก 

๐ ลุกขึ้น​ยืน กลับไปเริ่มนับ ๑ ใหม่ 

๐ กายรวมใจ 

  • ไล่อย่างที่สอน จิต​ ตั้งไว้ทีละจุดๆ 
  • ไล่ย้อนขึ้น​-ย้อนลงๆ​ ให้ช่ำชอง​ เชี่ยวชาญ​ ชำนาญ​จน​ "จิต"ตั้งมั่นอยู่ใน​"กาย"โดยรวมทั้งหมด 
  • ไปทีละจุด​ ช้าๆ​ ขัดๆ ตั้งแต่​กะโหลก​ศีรษะ​ด้านบนลงไปจนถึงฝ่าเท้า ไปทีละเรื่อง​ ทีละข้อ​ ทีละส่วน 
  • แต่ละข้อ​ แต่ละอวัยวะ​ แต่ละส่วนให้ชัด  เวลาจิตไปจับ "จิต"ไปอยู่ในตำแหน่งไหนต้องชัดในตำแหน่ง​นั้น​ อย่าคลุมเครือ 

ครั้งแรกๆไม่ชัด​ ทำต่อไป..​  

ทำจนกระ​ทั่ง​เห็นกระดูกศีรษะ​ชัด​ ต้นคอชัด​ หัวไหล่ชัด​ บ่าชัด​ ไหปลาร้าชัด​   ท่อนแขน​ชัด​ ข้อศอก​ชัด​ ท่อนแขนด้านล่างชัด​ ข้อมือ​ ฝ่ามือ​ นิ้วมือ 

ทุกอย่าง​ชัดหมด 

๐ ลองขยับขึ้นสู่ขั้นที่ ผ่อนคลายด้วยตัวเอง ยังโงกง่วงอีกมั้ย 

๐ ขยับขึ้นขั้นที่ รู้ลม 

ลมเข้าอยู่​ หรือลมออกอยู่ 

หายใจเข้า​ ภาวนา​ว่า​ สัตว์​ทั้งปวง​จงเป็น​สุข 

หายใจออก​ ภาวนา​ว่า​ สัตว์​ทั่งปวงจงพ้นทุกข์ 

ยกมือไหว้พระกรรมฐาน นั่งลง 

....... 

(กราบ)​ 

วันนี้​ ผลประกอบการ​ไม่ค่อยดี ขาดทุน​ จะว่าขาดทุน​ก็ไม่เชิง​ จะเท่าทุนก็ไม่ใช่​ ก้ำกึ่ง​ๆ​ อาจจะเป็นเพราะโลภมากไป​ หวังมากไป​ อยากได้เกินไป​ จิตไม่อยู่​ในทางสายกลาง คร่ำเคร่ง​ คร่ำเครียด​มากไป​ เลยผลตอบรับไม่ค่อยสวย​ หลุดๆ​ ลุ่ยๆ​ ขาดๆ​ วิ่นๆ 

เตรียม​ตัวแผ่เมตตา​ ถวายพระราชกุศล อะไรที่อยากมากไปจะไม่สำเร็จ​ประโยชน์​ เพราะอำนาจ​แห่ง​ความอยากเข้าไปขวางกั้น การปฏิบัติ​ธรรมเป็นอารมณ์​ที่ละเอียด​อ่อน​ เป็นสภาวธรรมที่ไปข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า​ จะได้มายาก ยิ่งทุรนทุราย 

 

๐ จิตนี้ ต้องเข้าใจมายาของมัน 

หนักเกินไปก็ไม่ยอม​ ขู่เข็ญ​มากไปก็ต่อต้าน​ ปล่อยมากไปก็เหลิง​ ไม่อยู่ในอาณัติ​ ไม่อยู่ในโอวาท 

ฉะนั้น​ ต้องพอดีๆ​ เรียกว่า​ ทางสายกลาง​ แต่ต้องเฝ้าระวัง 

การจะรู้จัก​ เข้าใจจิตแสดงว่า​ เราต้องมีพลังมากพอ​ เหมือน​กับนายโคบาลผู้เลี้ยงโค​ 

  • ถ้าไม่ฉลาดจะคุมโคไม่อยู่​ 
  • ถ้าโง่เขลา​ โคก็ฉุดกระชาก​ลากถู​ ดีไม่ดีโดนโคขวิดตาย 

จิตนี้คึกเหมือนดั่งโค​ ถ้าไม่รู้จักผ่อนคลาย​บ้าง​ ดึงเชือกให้ตึงบ้าง บางขณะถ้าอยากฟุ้งนัก​ เอ้า เห็นเหตุเกิดทุกข์​ เห็นทางดับทุกข์​  ข้อปฏิบัติ​ของความดับทุกข์​นั้นมีอยู่ในมรรควิถีทั้ง​ ๘​ ประการ​ อย่าง​นี้เป็น​ต้น 

ถ้าจิตลั้ลลา รื่นเริง​มากไปก็ดึงให้สงบเสียบ้าง ด้วยกระบวน​การ​จับมา 

ภาวนา​ พิจารณา​ เจริญ​ส​มาธิ​ ต้องมีกุศโลบาย​ ต้องรู้จักจิต​ รู้จักมายาที่อยู่ในจิตของตัวเอง 

 
ไม่มียาอะไรที่สำเร็จประโยชน์ได้ทุกโรค  
กรรมฐานกองใดกองหนึ่งจัดการกับกิเลสสารพัดกองไม่ได้หมด 

พระพุทธเจ้าจึงต้องทรงประทานกรรมฐานถึง​ ๔๐​ กอง​ เอาไว้สำหรับกำหราบกิเลส บางคนใช้กองที่​ ๓​๘​-๓๙​ ยังไม่จบเลย ๔๐​ก็ยังไม่จบ​ ต้องสองรอบเป็น​ ๘๐​ ก็มี​ เพราะจิตนี้พอกพูน​ สั่งสมอบรมมาเป็นอสงไขย​ แต่ที่สั่งสมอบรมมาไม่ใช่บุญ​ ไม่ใช่กุศลกรรม​ คุณ​งามความดี​ เป็นอกุศล​เสียส่วนใหญ่ไม่ใช่สุคติภพ​ เป็นทุคติเสียส่วนใหญ่ 

รู้ได้อย่างไร? 

รู้จากวันทั้งวันเสพอารมณ์ สร้างภพสุคติ หรือทุคติ 

ถ้าเมื่อใด​วันใดที่เราระลึกได้ว่า​ นี่กูยังตกอยู่ในทุคติ​ เพราะอารมณ์​จิตเสพไว้​ สร้างทุคติภพอยู่ครึ่งวันแล้ว​ ครึ่งวันต่อไป​นี้ กูจะพยายาม​ทำสุคติ วันหนึ่งขยับขับเคลื่อน​ไปสูุ่สุคติบ้าง  ก็ยังดีกว่าที่จะไปจมปลักอยู่ในทุคติ 

สุคติ​ คืออะไร 

ทุคติ​ คืออะไร 

ทุคติ คือ จิตนี้มีอารมณ์ 

สุคติ คือ จิตนี้ไม่มีเจตสิก เครื่องปรุงใดๆ พูดง่ายๆ คือ ไม่มีอารมณ์ 

"อย่าทำอารมณ์ให้เป็นอะไรแล้วเราจะได้ไม่มีอาลัยในอารมณ์"  
เคยอ่านหรือเปล่า​ ใครเขียน (หลวงปู่)​ สุดหล่อเขียน 

กราบพระ 

อะระหัง​ สัมมา... 

 

ปุจฉา :  ปฏิบัติ ปราณโอสถ ขั้นที่ ๑ เกิดอาการเคร่งเครียด ขมึงทึงกลางกระหม่อม จึงทำขั้นที่ ๒ ผ่อนคลายไม่ได้ กรุณาชี้แนะ 

วิสัชนา : ทำไมจะทำผ่อนคลาย ไม่ได้ .. 

กายรวมใจ อย่าทำให้ใจหลุดออกจากกาย ไม่ต้องส่งความรู้สึกนึกคิดออกไปนอกกาย อยู่ภายในกายเฉยๆ จะอยู่ ตรงไหน ก็ได้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกลางกระหม่อมอย่างเดียว อยู่ที่ฝ่าตีนก็ได้  

อยู่ที่ฝ่ามือ ที่ปลายนิ้ว อยู่ที่หน้าท้อง ทรวงอก อยู่ที่กระดูกสันหลัง  

กระโหลกศีรษะ อยู่ที่ตา ที่หู ที่จมูก ที่ลิ้น อยู่ได้หมด ไม่จำเป็นจะต้องอยู่แต่กลางกระหม่อมอย่างเดียวแล้วไม่ขยับขยายเคลื่อน ถ้าอย่างนั้นก็ขมึงทึงตึงเครียด 

กายกว้างศอกยาววาหนาคืบ ไม่ใช่แค่นิ้วเดียวอยู่ที่กลางกระหม่อมที่ไหน กายอยู่แค่กลางกระหม่อมหรือ ฉะนั้นทำผิดก็เลยได้ผลผิดๆ แบบนั้น 

คำว่า กาย ไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่ง  

ส่วนกระบวนการผ่อนคลาย คือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ระบบประสาทผ่อนคลาย ร่างกาย เส้นเอ็น ข้อกระดูก ทุกอย่างในร่างกายผ่อนคลายหมด ไม่ใช่ไปผ่อนคลาย ข้างนอก  ผ่อนคลายในกาย รอบๆ กายทั้งภายในและภายนอก จบ (สาธุ) 

 

ปุจฉา   :  ปฏิบัติปราณโอสถ ขั้นที่ ๓ รู้ลม เข้า-ออกที่จมูก และผิวหนังเคลื่อนเข้า-ออก ร้อน-เย็น เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือไม่่ 

วิสัชนา :  "ลม"ไม่ได้เข้าแค่จมูก ทวารทั้งหลายในร่างกาย "ลม"สามารถ เข้าและออกได้เสมอ 

จมูก ช่องปาก ช่องหู กระบอกตา แม้รูขุมขน ลมออกได้หมดและเข้าได้หมด 

คนที่เรียนรู้ จนจิตรวมกายอย่างชัดเจน จะเห็นว่าอวัยวะที่เป็นท่อลมไม่ใช่มีแค่จมูกซ้าย-จมูกขวา มีไปทั่วสรรพางค์กาย ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง 

ถ้าตามดู รู้ชัดเบื้องต้นขั้นแรกๆ ก็ดูเฉพาะท่อใหญ่ ๆ  

ท่อใหญ่ ๆ มีที่ไหน : ช่องจมูกกับช่องปาก นี่เขาเรียกท่อลมช่องใหญ่ๆ หรือท่อใหญ่ๆ 

ส่วนตามรูขุมขน ผิวหนัง เป็นท่อย่อยๆ ท่อเล็กๆ ซึ่งว่ากันจริง ๆ แล้วมันมากกว่าลมที่ออกและเข้าจากท่อใหญ่ด้วยซ้ำ จบ (สาธุ) 

 

แหล่งข้อมูล

หลวงปู่พุทธะอิสระ.  (๒๕๖๖).  ปฏิบัติธรรม ปราณโอสถ ขั้นที่ ๑-๓  วิธีรวมกายรวมใจทีละจุด / ผ่อนคลาย คือ

ปราณโอสถที่แท้จริง ใน ปราณโอสถ: กายรวมใจ รักษาใจไม่ให้กระเพื่อม,

(น.๒๑๗ - ๒๒๗). นครปฐม: มูลนิธิธรรมอิสระ

หลวงปู่พุทธะอิสระ แสดงธรรม และปฏิบัติธรรม ช่วงบ่าย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ วันที่ ๒๘

กรกฎาคม ๒๕๖๕, สืบค้น เมษายน ๒๕๖๗ จาก https://www.facebook.com/issaradham/videos/760500141820649/

Qr Code

39 | 6 สิงหาคม 2024, 14:50
บทความอื่นๆ