ปราณโอสถ กายรวมใจ กรรมฐานในวิถีมรรคาปฏิปทา

ชื่อเรื่อง  ปฏิบัติธรรมกายรวมใจจิตอยู่ในกายมีกายเป็นเครื่องหมายแห่งใจ ๒

แสดงธรรมวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖  ช่วงบ่าย ณ.ศาลาปฏิบัติธรรม 

สาระสังเขป

         สอนปฏิบัติธรรม กายรวมใจ กายทุกจุดต้องรวมกับจิต ขั้นที่สอง ผ่อนคลาย

 

     

เนื้อหา

(กราบ) 

 

เตรียมปฏิบัติธรรม 

ลุกขึ้นยืน 

 กายรวมใจ เหมือนเดิม 

ใจรวมกับกาย 

 

ทำ กายรวมใจ 

ใจรวมกาย   

จิตนี้ตั้งมั่นอยู่ภายในกาย 

 

กายนี้ ไม่ใช่แค่หน้าผาก กลางกระหม่อม 

ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่หมายรวมไปถึงทุกจุด ทุกส่วนของกาย 

 

กาย มีทั้งภายในกับภายนอกด้วย ไม่ใช่มีเฉพาะแค่โครงสร้าง ผิวหนัง กล้ามเนื้อ 

มันหมายรวมไปถึง ตับ ไต ไส้ ปอด ม้ามหัวใจ นั่นคือ ส่วนหนึ่งของกายด้วย 

 

ให้ จิต ไปตั้งอยู่ในหัวใจ ดับ ปอด ม้าม ถุงน้ำดี กระเพาะ ลำไส้ นั่นเรียกว่า กายภายใน 

 

กายภายนอก คือ จิต ตั้งอยู่ในโครงกระดูก กลางกระหม่อม หน้าผาก โหนกคิ้ว โหนกแก้ม ฟันบน ฟันล่างกราม กะโหลกศีรษะ ต้นคอ กระดูกต้นคอ บ่า สันหลัง สะบัก ท่อนแขน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ นิ้วมือ หลังมือ 

ตั้งให้ทั่ว  

อย่าแค่จุดใดจุดหนึ่ง  

แล้วบอกว่า กายรวมใจ แล้ว นั่น  

   รวมแบบผิวเผิน  

   รวมแบบไม่จริงจัง 

สุดท้าย ไม่ได้มีคุณลักษณะอะไร คือ เอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ 

 

“รวม” ต้องรวมให้จริงๆ จังๆ ทั้งกายภายในและภายนอก 

 

อย่าไปผลีผลาม รีบร้อน รีบเร่ง 

ให้“รวม”และตั้งมั่นจริงๆ 

 

ใหม่ๆ เราจะ  

    ”รวม“ ตามจุดต่างๆก่อน  

    “รวม“ เป็นจุดๆ 

#ใจรวมอยู่กับกาย 

กะโหลกศีรษะ 

กลางกระหม่อม 

ไล่ลงไปเรื่อย 

…… 

 

เวลาที่ใช้คำว่า ”ใจรวมอยู่กับกาย“  

ใจกับกาย ต้องผนึกแนบแน่นกันอย่างแท้จริง โดยไม่มีอารมณ์ใดๆเข้ามาสอดแทรก ไม่ต้องคิดอะไร คำนวณ ใคร่ครวญอะไร 

แค่รู้อยู่ว่า นี่คือ กาย เป็นที่ตั้งแห่งใจ 

“รู้”อยู่ว่า  

ใจ อยู่ที่ สมอง กะโหลกศีรษะ 

ใจ ตั้งอยู่ที่หน้าผาก 

ใจ ตั้งอยู่ที่โหนกคิ้ว 

ใจ ตั้งอยู่ที่เบ้าตา  

อย่างนี้เป็นต้น 

…… 

 

ขยับย้าย “จิต”ไปตั้งอยู่ภายใน“กาย”แต่ละจุด จนช่ำชอง จึงเรียกว่า เรามีความสามารถที่จะควบคุม “จิต”ได้ 

 

จิต ที่เคลื่อนไปตามจุดต่างๆภายในร่างกาย ถ้าเราสามารถคอนโทรล ควบคุมได้อย่างช่ำชอง ชำนาญ และก็แม่นยำ นั่นแหละ เป็นวิธีการฝึกควบคุมจิต 

 

เมื่อควบคุมจิตได้ ก็จะควบคุมอารมณ์ได้ 

….. 

 

“จิต”อยู่กับ”กาย“ 

”กาย“เป็นที่ตั้งของ “จิต” 

…… 

 

ตั้งมั่นจน ”จิต“นี้กลายเป็น มนินทรีย์ คือ เป็นใหญ่กว่า“กาย“ 

……. 

 

ขยับขึ้น # ขั้นที่ ๒ ผ่อนคลาย 

ต้องรู้กำลังของจิตด้วย รู้สภาพความเป็นไปแห่งจิต 

 

ฉะนั้น กระบวนการผ่อนคลาย ไม่ใช่หมายถึง ไม่อยู่กับกาย 

 

“จิต”ยังอยู่ภายใน “กาย” แต่อยู่อย่างผ่อนคลาย 

มี”สติ“รู้ตัวทั่วพร้อม 

”จิต“ไม่ได้หลุดออกจาก“กาย” 

…… 

 

พา จิต ที่ผ่อนคลาย ออกเดิน 

…….. 

 

เดินพร้อมกับ”จิต“ที่อยู่ใน”กาย“ ไม่ใช่หลุดออกนอกกาย 

……. 

 

“จิต”ไม่ได้ออกจาก“กาย” แต่ผ่อนคลาย 

….. 

 

ต่อ 2 

 

๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ช่วงบ่าย ณ.ศาลาปฏิบัติธรรม ช่วงปฏิบัติธรรม กายรวมใจ โดย องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ…2 

……. 

 

กลับเข้าที่ 

กำหนด”จิต“ ตั้งไว้ตามจุดต่างๆภายใน “กาย“ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ฝึกให้ชำนาญ 

 

ฝึกที่จะคุม”จิต“ให้ได้ก่อนที่จะมาคุม “ธาตุ”ภายในกาย 

 

วิชาปราณโอสถ สำคัญ คือ เริ่มต้นจาก 

    การคุมจิต 

    ขยับเป็นคุมธาตุภายในกาย 

     คุมอณูของธาตุภายในกาย 

 

แต่ทั้งหมดต้องเริ่มต้นมาจากคุมจิต และคุมลมหายใจ ที่เรียกว่า คุมธาตุภายในกาย 

…….. 

 

อย่างที่บอก คุมจิตได้ ก็คุมอารมณ์ได้ 

…….. 

 

ยังอยู่ที่ กายรวมใจ หรือ ใจตั้งอยู่ในกาย 

ไม่ใช่สับส่าย ทุรนทุราย แล่นตามอารมณ์พาไป 

 

อย่าให้หลุดออกนอกกาย 

…… 

 

ในบรรยากาศของช่วงเวลานี้ ทำให้จิตนี้โลดแล่นได้ง่าย จิตจะโลดโผน กระโจน ทะยานออกไปนอกกายได้มาก 

 

พอจิตหลุดลอดออกไปนอกกายมาก ความผิดพลาดเกิดมาก อันตรายเกิดมาก ความล้มเหลว เสียหาย ล่มสลายก็เกิดมาก ความประมาท มัวเมาก็มีมาก 

ไม่ได้เป็นมงคลต่อสุคติภพ ต่อชีวิต และไม่เป็นมงคลในปีต่อไป วันต่อไป เดือนต่อไป นาทีต่อไป และชีวิตต่อไป 

 

สิ่งที่ดีที่สุด คือ รักษากายกับจิตให้รวมกัน 

    อย่าให้กระโจน โลดแล่นออกไปข้างนอก 

    อย่าให้อยู่ในอำนาจการครอบงำของวัน เวลา นาที ขบวนการเฉลิมฉลองที่ทำให้เรามัวเมา ประมาทใดๆ 

 

เพราะความประมาท พระพุทธเจ้าตรัสเตือน  เป็นหนทางแห่งความฉิบหาย ความตาย 

 

เราประมาทกันมาเยอะล่ะในหนึ่งชีวิตของแต่ละคนในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

 

ไม่รู้ว่า อีกกี่เวลาเราจะอยู่ได้ ถ้ายังจมปลักอยู่ในวังวนแห่งความมัวเมาประมาท 

 

แม้นที่สุดสุคติภพก็จะตีบตัน สั้นลง เหลือไว้แต่ทุคติภพ 

 

ทีนี้ จะไปร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ความเมตตาจากใครคงยาก เรายังไม่เมตตาตัวเราเองในขณะที่เรามีกำลังวังชา มีชีวิต 

 

เมื่อหมดกำลังวังชา หมดชีวิต จะให้ใครเขามาเมตตา 

…… 

 

ยกมือไหว้พระกรรมฐาน เอาหนังสือสวดมนต์มา 

 

(กราบ) 

 

ต่อด้วยเจริญพระพุทธมนต์ 

24 ธ.ค 66 14:50 น. ณ.ศาลาปฏิบัติธรรม ช่วงเจริญพระพุทธมนต์โดย องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ 

(กราบ) 

……. 

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต 

        ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น 

อะระหะโต 

        ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส 

สัมมาสัมพุทธัสสะ 

        ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง  

(ว่า ๓ ครั้ง) 

 

บทสรรเสริญพระพุทธคุณ 

(ผู้นำ) อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ 

(รับ)   วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู 

        อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ 

        สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ 

(ผู้นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับ) สุวิสุท ธ สันดาน 

ตัดมูลกิเลศมาร                  บ มิหม่นมิหมองมัว 

หนึ่งใน พระทัยท่าน              ก็เบิกบานคือดอกบัว 

ราคี บ พันพัว                     สุวคน ธ กำจร 

องค์ใดประกอบด้วย              พระกรุณาดังสาคร 

โปรดหมู่ประชากร                มละโอฆกันดาร 

ชี้ทางบรรเทาทุกข์               และชี้สุขเกษมศานต์ 

ชี้ทางพระนฤพาน                 อันพ้นโศกวิโยคภัย 

พร้อมเบญจพิธจัก-               ษุ จรัสวิมลใส 

เห็นเหตุที่ใกล้ไกล               ก็เจนจบประจักษ์จริง 

กำจัดน้ำใจหยาบ                สันดานบาปแห่งชายหญิง 

สัตว์โลกได้พึ่งพิง                 มละบาปบำเพ็ญบุญ 

ข้า ฯ ขอประณตน้อม            ศิระเกล้าบังคมคุณ 

สัมพุทธการุณ                     ญภาพนั้น นิรันดร ฯ 

(กราบ) 

หลวงปู่ : ช่วงนี้แหละ เรียกว่าใช้จิต “ตัวจิตน้อม” หรือเรียกว่า ใช้มโน 

คิดเป็นจิต 

น้อมไปเป็นมโน 

น้อมเข้ามาก็เป็นมโน 

ใช้ จิตมโน ให้สมบูรณ์ เต็มที่ 

 

ต่อ 

บทสรรเสริญพระธรรมคุณ 

(ผู้นำ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม 

(รับ)   สันทิฎฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก 

        โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ 

(ผู้นำ) ธรรมะคือ คุณากร     (รับ)   ส่วนชอบสาธร 

       ดุจดวงประทีปชัชวาล          แห่งองค์พระศาสดาจารย์ 

       ส่องสัตว์สันดาน                 สว่างกระจ่างใจมล 

       ธรรมใดนับโดยมรรคผล        เป็นแปดพึงยล 

       และเก้ากับทั้งนฤพาน          สมญาโลกอุดรพิสดาร 

       อันลึกโอฬาร                     พิสุทธิ์พิเศษสุกใส 

       อีกธรรมต้นทางครรไล          นามขนานขานไข 

       ปฎิบัติปริยัติเป็นสอง            คือทางดำเนินดุจคลอง 

       ให้ล่วงลุปอง                     ยังโลกอุดรโดยตรง 

       ข้า ฯ ขอโอนอ่อนอุตมงค์       นบธรรมจำนง 

       ด้วยจิตและกาย (กราบ) 

หลวงปู่ : เสียงสวด เสียงสาธยายที่ออกจาก “มโน” หรือออกจากจิต ออกจากใจ สำเนียงจะแตกต่างจากเสียงสวด เสียงสาธยาย ที่ออกจากสมอง ออกจากแรงขับเคลื่อนของสมอง 

 

ต่อ 

บทสรรเสริญพระสังฆคุณ 

(ผู้นำ) สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

(รับ)   อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

        ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

        สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

        ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฎฐะ ปุริสะปุคคะลา 

        เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

        อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย 

        อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ 

(ผู้นำ) สงฆ์ใดสาวกพระศาสดา     (รับ) รับปฎิบัติมา 

        แด่องค์สมเด็จภควันต์              เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- 

        ลุทางที่อัน                          ระงับและดับทุกข์ภัย 

        โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร            ปัญญาผ่องใส 

        สะอาดและปราศมัวหมอง          เหินห่างทางข้าศึกปอง 

        บ มิลำพอง                          ด้วยกายและวาจาใจ 

        เป็นเนื้อนาบุญอันไพ-              ศาลแด่โลกัย 

        และเกิดพิบูลย์พูนผล               สมญาโอรสทศพล 

        มีคุณอนนต์                          เอนกจะนับเหลือตรา 

        ข้า ฯ ขอนบหมู่พระศรา-            พกทรงคุณา 

        นุคุณประดุจรำพัน                   ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ 

        พระไตรรัตน์อัน                      อุดมดิเรกนิรัติศัย 

        จงช่วยขจัดโพยภัย                 อันตรายใด ใด 

        จงดับและกลับเสื่อมสูญ ฯ 

(กราบ) 

 

ต่อ 

บทสรรเสริญคุณบิดามารดา 

…….. 

 

ต่อ 

บทสรรเสริญคุณครูอาจารย์ 

…….. 

 

ต่อ บท 

นมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศ 

…….. 

 

บทแผ่เมตตา คาถาเทพรัญจวน 

……. 

 

ขอผลบุญนี้ จงเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งธรรมอันเลิศ สติอันเลิศ สมาธิอันเลิศ ทรัพย์อันเลิศ สุขภาพอันเลิศ อายุอันเลิศ ปัญญาอันประเสริฐ จงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าในชาติปัจจุบันนี้ เทอญ 

 

(หลวงปู่อธิษฐาน:  

ขอผลบุญนี้ จงเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งโพธิศรัทธา มุ่งมั่นปฏิบัติในโพธิธรรม จนลุถึงโพธิจิต และโพธิปัญญา ตรัสรู้ในพระโพธิญาณในอนาคตกาลด้วย เทอญ 

ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข 

ขอสัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์) 

 

อะระหัง สัมมา… 

…. 

 

(กราบ) 

 

หลวงปู่ : ขอบคุณ ขอบใจ ที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพสวดศพโยมแม่ คุณย่าอัมพร ทองประเสริฐ  

ขออนุโมทนาลูก ให้ทุกท่านรุ่งเรือง ร่ำรวย โชคดี มีความสุข มีสติปัญญาดั่งพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ทุกท่าน ทุกคน เทอญ 

 

ระมัดระวังจิตให้ดี ช่วงจังหวะเวลานี้ เป็นช่วงอันตราย 

 

ข้าวปลาอาหาร ตุนๆเอาไว้บ้างนะโว้ย ข้าวสาร ซื้อติดมือไปบ้าง จะแพง เพราะตอนนี้แพงจริงๆ ข้าวไม่พอจะขาย แต่รัฐบาลเอาเงินไปแจกชาวนาเกวียนละ ฿๑,๒๐๐ แจกเพื่อ? ไม่เข้าใจแจกทำไม? 

 

หลายประเทศเขาไม่ส่งออก เพราะเขากลัวความมั่นคงทางอาหารว่า จะเสียสมดุล แต่ประเทศเราตะบันจะไปขายให้ฟิลิปปินส์ ๒ ล้านตัน 

 

ถ้าปีหน้า เริ่มขายข้าวได้ มึงเตรียมหาข้าวราคาแพงๆกิน 

 

ตอนนี้มีตังค์ ก็ซื้อไว้ก่อนล่ะกันลูก 

กูให้วัดสั่งไว้ ๕ ตัน เพราะที่นี่ เดือนหนึ่งใช้ ๕๐๐ กิโลฯ ใช้เยอะ 

 

ให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัย รุ่งเรือง เจริญ ทุกคน ลูก ธรรมะรักษา (สาธุ) 

ไป บ้านใครบ้านมัน 

 

บทความอื่นๆ