24 เม ย 2554  13.1 น.  ธรรมะอาทิตย์ที่ 4  โดยองค์หลวงปู่พุทธะ

อิสระ
เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนคนดีที่รักทุกท่าน
วันนี้เป็นวันฟังธรรมประจำเดือน
เมื่อวานยังคิดว่า วันนี้ไม่ได้แสดงธรรม นึกว่าเค้าพัก เพราะสอนเณร เมื่อเช้าเห็นเค้ามา ก็

เลยต้องสอน
เมื่อกี้เข้ามา คนเป็นมะเร็งกรามช้าง เอายาพอกมะเร็งกรามช้างไปพอกแล้วคัน ยิ่งต้องพอก

เหมือนนายจิโรจน์ กินยามะเร็งปอดแล้วเจ็บ ยิ่งเจ็บยิ่งดี ถ้าเราทนได้ เหมือนยาข้อกระดูก

เสื่อม 3 วันแรกจะปวดมาก แต่หลังจากนั้น จะหาย
เพราะฉะนั้น ถ้าพอกแล้วคัน ก็ลดยาหน่อย ใส่เหล้าขาวมากหน่อย
สรุปแล้ว เวลากินยา หลายโรคเหมือนอาการรุนแรงขึ้น เราก็ต้องสังเกตุ คนเป็นอัมพฤกมา

3 ปี กินยาแล้ว ร้อนทุรนทุราย คันตามปลายมือปลายเท้า เป็นสัญญาณที่ดี แสดงว่า

ประสาทได้รับการฟื้นฟู ทำให้มันมีชีวิตชีวา จากสภาพเหี่ยวเฉา
เพราะฉะนั้น การกินยาต้องวิเคราะห์ ถ้าทนไม่ไหว นายจิโรจน์ หลวงปู่โทรฯ ทุกวัน
ยามะเร็ง หลังจากกลับจากป่า ได้มาหลายตัว ยาสูตรใหม่ ทดลองแล้ว ตับตัวเองแย่ เพราะ

ทดลอง
เมื่อเช้าสมเด็จฯ วัดราชบพิตร โทรฯมา  หลวงปู่ไม่อยู่ พระโต๊ดถามจะคุยไม๊ นึกได้มีองค์

หนึ่งคุ้นเคยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยท่านอยู่วัดเทพฯ แต่องค์นี้เป็นพระเลขาฯ พูดคุยถูกชตา

วัดสายธรรมยุต เวลาวัดมีงานก็จะมา
หลวงปู่จำผมได้ไม๊ องค์ที่หัวขาวๆ อ๋อ จำได้แล้ว กราบงามๆ 3 ที ได้เป็นสมเด็จฯ ผมไม่

กล้าเข้าไปเสนอหน้า
ก็คิดถึง
คำนี้ลึกซึ้งมาก
สุดท้าย ลูกศิษย์ผมเป็นชั้นราชฯ เป็นมะเร็งในตับ อยู่โรงพยาบาลศิริราช นั่นว่าแล้ว
นิมนต์หลวงปู่ไปดูหน่อย
พรุ่งนี้บ่ายๆ จะไปดูให้
อายุ 60 ปี
เดี๋ยวผมไปรอต้อนรับที่ศิริราช
วันนี้นัดสอบเณรภาคปฏิบัติ ยังไม่ไปไหนเลย
เล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์ความรู้
เณรรุ่นนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ มันสอนไม่ยาก เพราะมันไม่อยากฟัง
เด็กสมัยนี้ ไม่รู้จักฟังและไม่ชอบฟัง และมีโลกส่วนตัวสูงมาก
ใช้เสียงตะเบ็งให้ตาย จนต้องใช้มาตรการไม้เรียว
อีกเรื่อง อายุนิดเดียว ติดยา 13-14 ดูดบุหรี่ ติดยา
สุดท้ายอาตมาก็เลยต้องทำบุหรี่สูตรพิเศษ เทียนพรรษาต้นนึง ดูดจนหมดต้น ดูดจนปาก

บวมเป็นครุฑ
เมื่อวานสอบ มีคนสอบไม่ได้กับคนสอบได้
สอบท่านั่งไม่ได้ ก็สอบท่ายืน ท่าเดินไม่ได้
เหมือนคนไทยปัญญาอ่อน เลือกนักการเมือง เอาถูกใจ ชอบใจ แล้วกูก็เลือก
เรื่องง่ายๆ ชี้ให้เห็นว่า ไม่รักษาสิทธิ์ตัวเอง คนไทยเป็นอย่างนี้ ก็ได้นักการเมืองเลวๆ ชั่วๆ
เมื่อวานลูกน้องเสแดงมา ผมมากราบขอโทษอาจารย์ปู่ ไปคบคนชั่ว เดินทางผิด ติดคุกไป

ปีกว่า
ผมรู้สึกเสียใจมาก
ลูกศิษย์กู บวชตั้งแต่อยู่คลองเตย หลวงปู่รู้ไม๊ เดี๋ยวนี้มันทำเป็นโรงเรียนนะ สอนให้ออกสื่อ
เราก็นั่งฟังมัน สอนเณรไปด้วย
แล้วมึงคิดว่า ยังมีเจ้าอยู่ไม๊
หลวงปู่ก็รู้ พ่อแม่ผมมาจากเมืองจีน
แล้วมึงทำทำไม
ผมไม่รู้
ลือกันจนกระทั่ง ในหลวงไม่มีแล้ว
มันแสดงความเลวร้าย ลือถึงขนาดนี้
แล้วรุ่นมึงกี่คน
10 กว่าคน
เป็นหมด
กูไม่รู้นะเนี่ย กูอยู่เบื้องหลังเสื้อแดง
ตอนนี้กลับใจหรือยัง
กลับแล้วครับ
บอกลูกหลาน เป็นสรุปว่า ถ้าพรรคไหนมีพฤติกรรมสงสัยว่า จะล้มเจ้า อย่าไปเลือกมัน ถ้า

ใครถาม บอกหลวงปู่บอก กูยอมติดคุก
หมาขี้ต้องมีมูล สถาบันล้มเจ้า ต้องมีคน ไม่อย่างนั้นตั้งไม่ได้ มันแฝงในชุมชน ตามหมู่บ้าน
เอาอุดมการณ์เลวร้ายเข้าไปใส่
อีกเรื่องๆ สุดท้าย คือ เรื่องการสอนสามเณร ต้องสอนเยอะหน่อย เพราะสามเณรอยู่ตรงนี้

หลวงปู่ให้เขียน กำจัดจุดดำ
ทำให้รู้ว่า พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกไม่เป็น เณรอยู่ด้วยกัน เค้ารู้ว่า ใครดี ใครชั่ว บางคน ตั้งแต่

บวชมานี่ ยังไม่ได้แปรงฟันเลย บอกแปรงหาย แต่มียาสีฟัน 3 หลอด บอกว่า เจอ ขโมย

ไง
มีตั้งเป้าว่า จะขโมยให้ได้ 2,000 แล้วจะแบ่งกันด้วย เพิ่งได้ 250
สอนธรรมะอะไร แค่แคะสนิมออกก็แย่แล้ว เหมือนที่ผ่านมา แค่ความชั่ว ก็หมดเวลาแล้ว
ธรรมะจะไปเรียนอะไร ใส่เข้าไปได้ยังไง ในขยะเต็มถัง
ไม่ได้สอนอะไร แค่สำรอกขยะเก่า
หลวงปู่พร่ำสอนให้มีสติ
พระที่นี่ ดูความสงบไม่ได้
ที่อื่น มีความสงบ แต่นั่งทับขี้ไว้
หลวงปู่สั่งไว้ก่อนบวช อย่าให้ตังค์ อย่าให้โทรศัพท์
ขนาดหลวงปู่พูดปากฉีกถึงรูหู ก็ไม่ฟัง
ถามว่าหลวงปู่สอนธรรมะอะไร หัวมีแต่ขยะ แค่จะล้างขี้ออก ก็หมดเวลาแล้ว
หลวงปู่ลงศาลาสอนทุกวัน ถามว่าได้อะไรกลับมาบ้าง ได้ขี้กลับมา ลูกหลานได้สะอาดกลับไป
กูอยู่กับพวกไร้สาระ กูรู้สึกผ่อนคลาย
ที่รู้ๆ คือ สอนไม่ยาก แต่มันยากมากที่จะให้มันฟังเรา
รุ่นนี้ หลวงปู่สอนเรื่องสติ ให้ดูสติ
สอนวิชาใหม่ๆ กูไม่เคยสอนพวกมึง
หลวงปู่ให้เณรแสดงให้ดู
มึงรู้ไม๊ คนขี้ขโมย กูให้ทำอะไร กูจำลองขุมนรกขุมนี้ให้มันเห็นเลยล่ะ
ให้มันแบกข้าวสาร10 โลใส่หม้อ ไม่รู้เข็ดหรือเปล่า
ให้พ่อแม่มันรู้ว่า ลูกหลานมัน
ประจานก็ไม่ว่า ปีหน้าไม่มีคนมาบวช กูสบาย
ข่งท้ายนี้เป็น email เล่าช่วงที่หลวงปู่ให้เณรแสดงให้ดู
From: Sompan Sompan <This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.>
Subject: สวัสดีค่ะ คุณป้าสบายดีไหมคะ
To: "P dheernuj" <This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.>
Date: Sunday, April 24, 2011, 9:47 PM
สวัสดีค่ะ
 
วันนี้คุณป้าไปที่วัดหรือปล่าวคะ หนูไม่เห็นคุณป้าค่ะ 
 
วันนี้หลวงปู่ฯ ท่านเมตตาให้พระพี่เลี้ยงคัดเลือกหลานเณรรุ่นเล็กกลางใหญ่  รุ่นละ 3 องค์

จำนวน 12 รูป มานั่งในกลางศาลา หันหน้าออกทิศทั้ง 4 ด้าน ๆ ละ 3 รูป แสดงการ

ปฎิบัติธรรมด้วยวิธีการเคลื่อนไหวนิ้วมือตามขั้นตอนต่างๆ ประกอบจังหวะเพลงที่เราใช้

ประกอบแทนการเดิน  โดยมีญาติโยมนั่งดูกัน ซึ่งหนูคิดว่าหลานเณรนั้น สามารถสะกด

ญาติโยมให้อยู่กับกรรมฐานนั้นๆ ที่แสดงนั้นได้ระดับหนึ่ง รู้สึกเพลิดที่ได้ชมและรู้สึกดีที่

ได้นั่งฝึกตามในบางขั้น เวลาผ่าน สักครู่  น่าจะประมาณ 15 นาที ตามท่าไม่ทัน แต่ก็

รู้สึกชื่นชม สาธุ สาธุ   หลังจากนั้น หลวงปู่ฯ ท่านกล่าวว่า ที่เณรทำเป็นเพียงแค่ส่วนเดียว

ไม่ใช่ได้ทั้งหมด  แล้วท่านก็เมตตาแสดงให้ลูกหลานดูเป็นบุญตา หนูรู้สึกว่าสามารถสะกด

ญาติโยมได้ทั้งศาลา ท่วงท่าที่นิ้วมือท่านพลิ้วไหว นุ่มนวลสงบ เบาสบายมาก ทำให้จิตเรา

ผ่อนคลายไปด้วย รู้สึกเป็นสุขทีเดียวค่ะ
 
หลังจากนั้นหลวงปู่ ฯ จึงให้เราๆ เดินประกอบจังหวะ โดยท่านทบทวนกระบวนท่าขั้นที่  1

-10 ให้ แต่มีการเพิ่มเติมรายละเอียดเข้าไป ในเรื่องของการสังเกตุกายให้ชัดยิ่งขึ้น เช่น

ในเรื่องของการก้าวเดิน การถ่ายน้ำหนัก การรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ

กระดูก ข้อพับ ท่านกล่าวว่าหากผู้ที่เคยฝึกวิชาคลำกระดูกมาแล้วก็จะสามารถเห็นโครง

กระดูกได้เลย  ในขั้นที่ 9 นั้นท่านให้ประกอบหายใจเข้า-ออก แบบอัปสรสวรรค์แต่ลง

ไปถึงเท้า  ส่วนขั้นที่ 10 นั้นก็จะเหมือนกับทุกอาทิตย์สำหรับรุ่นพี่ทั้งหลายที่ฝึกมานาน

แล้ว คือเดินแบบขั้นที่ 1 แต่ก็จะมีการถ่ายเทปราณไปที่กลางกระหม่อม ฝ่ามือ นิ้วชี้สอง

ข้าง เป็นต้น นั่นเอง
 
หนูก็พอจะระลึกได้เท่านี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
 
แตง