12.12.53 5:20 น. ทองผาภูมิ
ผมก็แย่เหมือนกัน เสาไฟไม่ยอมเดินตรง มันบังคับมันไม่ได้ มันไปตามแรงดึงดูดของโลก
เมื่อคืนไปถึง ...ไปเลย มาตื่นอีกที ได้ยินเพลงพญาโศก เดินขึ้นสะพานมานี่ น้ำจะดูดลงสะพาน
แม่ครัวโว้ย เอาซุปตั้งอุ่น เดี๋ยวจะไปปรุงรส
พระที่ป่วยเบาหวาน เบาเค็ม มาหรือเปล่า ไปลากมาบอกวัตร แล้วค่อยกลับไปนอน
หมอไปวัดน้ำตาล ความดัน
ไปที่อื่น เค้าให้กินยา มาที่นี่ กูเสียเลือดโว้ย เสียไปเลย
ตอนเช้านี้จะบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง ตอนเที่ยงๆ จะมีชาวบ้านมารับทาน ( 150 ครอบครัว)
พวกอายุมากๆ อันตราย เดี๋ยวเส้นเลือดแตกอีก เดินขึ้นเนิน ขึ้นเขา ความดันมันจะแกว่ง
อ้ายพวกนี้มันตักขี้ มันได้อะไรจากขี้ว่ะ
เดี๋ยวเช้านี้ กินอีกไม๊
ไปปลงสังเวช
มี กูก็แดกอีก
ตัวเล็กลงไม๊
รู้สึกไม๊ว่า ตัวต้องเล็กลง ถ้าไม่เล็กลง ต้องลงหลุมขี้
ตักขี้แล้วตัวต้องเล็กลงกว่าเก่าแยะ
กูให้ไปตักขี้เพื่อให้ลดมานะ ทิฐิ ความอวดดี ไม่ใช่ให้ขี้หมดหลุม
ถ้าอย่างนั้นก็แต่งโคโยตี้ได้ ใส่ทูพีสได้สิ
ซุปกับข้าวหลาม อย่าเลยนะ ให้เล่นแต่เปลือกไม้ไผ่
หมอไปดู เจาะเบาหวาน เมื่อกี้ เค้าเพิ่งจะเยี่ยวแล้ว
มนัส เป็นเรื่องของการลงทัณฑ์ที่ให้พระสงฆ์....................
สีละยันตา คือ
ทัณฑ์ที่พระสงฆ์สั่งลง จะต้องเข้มงวด
ลงทัณฑ์ในขั้นต่อมา คือ มนัส
เพราะงั้น กิจกรรมนี้สำคัญยิ่ง จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ซื่อตรง หลักคิดให้.........
อย่าทำอะไรตามใจ ต้องทำลายอัตตา ความเย่อหยิ่ง เห็นถูกต้องตามทำนองครองธรรม
เห็นว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย จะดับเหตุ ต้องด้วยมรรคาปฏิปทา มรรมีองค์ 8
ถ้าเป็นทำนองครองธรรมของโลก คือ มีความกตัญญู กตเวทิตา
ต้องถือว่าพระอาจารย์กรรม ท่านมีคุณ ท่านเมตตากรุณาเรา เพื่อให้เรายกศีลให้เทียบเท่าพระสงฆ์
มนัสต้องสำนึกในคุณของพระอาจารย์กรรม ถ้าไม่สำนึก ก็เหมือนขี้ลอยน้ำ
ต้องไม่เห็นพระมนัสเดินสวนกับอาจารย์กรรม ต้องอ่อนน้อม ทำความเคารพ
ถ้าทำอย่างนี้ได้ ก็ถือว่าสำเร็จประโยชน์
ออกจากมนัส เข้าสู่...... ท่านจะรู้สึกโล่ง โปร่งเบา สบาย อาการเหล่านี้เป็นอานิสงส์ของผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ใครก็ทำให้ท่านไม่ได้ ต้องเกิดขึ้นกับตัวท่านเอง
12.12.53 9.50 น. ทองผาภูมิ
โรงเจเสร็จ กูจะต้มข้าวต้มขาย
ปุจฉา
วิสัชนา เราเห็นขยะก็อย่าเข้าใกล้ ไปพิจารณาทำไม หลวงปู่เขียนบทโศลกไว้ว่า
กำจัดขยะเก่า ไม่เพิ่มขยะใหม่ ทำของดีที่มีอยู่แล้วให้ผ่องใส
มองโดยรวมว่า ขยะคือ ขี้ เห็นขี้อย่าเอาไม้ไปเขี่ย ก็ไม่เหม็นแล้ว
เห็นแล้ว ละมัน วิธีละ ก็สอนแล้ว
ปุจฉา
วิสัชนา ทำไมจิตเคลื่อนยาก ลากไม่ไป ก็เพราะจิตมันอ่อน เมื่อกี้ขึ้นมา กูก็ให้คนช่วยดันกูขึ้น
ปุจฉา
วิสัชนา ก็บ้าสิ
ปุจฉา เวลาเดินปราณ ใช้จิตอย่างเดียว ไม่ใช้ลมได้ไม๊เจ้าคะ
วิสัชนา ไม่ใช้ลม ก็ไม่ใช่ปราณ ต้องมี อาหาร อากาศ อาการ พลังของจิต ก็คืออารมณ์
คุมอารมณ์ให้อยู่ ควบอารมณ์ให้ได้ นั่นแหละพลังจิต รักษาอารมณ์ให้คงที่ จะเกิดพลังจิต
ปราณเกิดจาก อารมณ์ จิตที่เป็นหนึ่ง กับอากาศ คือ ลมหายใจที่เข้าและออก
3 อย่างรวมเป็นหนึ่ง ก็เป็นพลังอันวิเศษ
ปุจฉา
วิสัชนา ถ้าอยากฝึกให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งกายและจิต ต้องขมิบก้นทุกครั้ง จะทำให้การขับถ่ายแข็งแรง ปิดก๊อกสนิท ถ้ารู้จักฝึกอย่างนี้ ก๊อกไม่หลวม เกลียวไม่หวาน
บอกแล้วว่า ธรรมะมีไว้ใช้กับชีวิต ไม่ใช่มีไว้ประดับ
หลักสำคัญในการเดิน
ขั้นที่ 1 จิตตั้งไว้ที่หน้าอก
ขั้นที่ 2 ผ่อนคลาย
ขั้นที่ 3 บอกไปหมดแล้ว
ขั้นที่ 10 แม้ที่สุด วางไว้ตามรูขุมขน และเส้นผม
ปุจฉา เด็ก 9 ขวบ เป็นมะเร็ง
วิสัชนา เดินลมอักษรสวรรค์ แล้วเอาจิตตั้งไว้ที่กระหม่อมจะดีขึ้น รวมทั้งโรคความจะเสื่อม
ปุจฉา
วิสัชนา ยาคลายเครียดหมอ จะบอกว่าไม่มีโทษ ไม่มีหรอก ไม่จริง เอาไปรักษาโรคที่วัด จำเณรที่บ้าได้ไม๊ ไม่เห็นต้องกินยา ยังหาย
ข้อมูลถ้าไม่ชัดเจน อย่ามาให้รักษา แม้อยากให้รักษา ก็ไม่รักษา ไม่จ่ายยา
ปุจฉา
วิสัชนา ทอดกฐินเป็นล้าน ทำบุญปีเป็นแสน แต่ค่าขยะ 30 บาท ไม่จ่าย เพราะเค้าไม่คิดว่าจะได้บุญ ถ้าเค้าเข้าใจว่านี่คือ บุญ ทำไมเค้าจะไม่ให้
ปุจฉา
วิสัชนา พรายน้ำเป็นภูติ เป็นลักษณะสัมภเวสี หาภพชาติเกิด รูปร่างอย่างไร จะอธิบายหมด ก็จะหาว่าเป็นญาติกู
สิ่งที่หลวงปู่อยากพูด เราทั้งหลายที่มาปฏิบัติ เราไม่ได้ใส่หน้ากากมา ไม่มีตำแหน่ง เป็นเพียงแค่ผู้มีศรัทธา คุณงามความดีในการเจริญบารมีทั้ง 10 นั่นคือ สั่งสมอบรมทัศสะบารมี จะทำให้ชีวิตเราแข็งแรง มีสาระในชีวิตสูงส่งตามวัตถุประสงค์ที่เราหวัง เราได้สละเวลาเพื่อมาสั่งสมอบรม
สิ่งหนึ่งที่หลวงปู่อยากบอกก็คือว่า ในนี้ ไม่มีอันตรายสำหรับกาย วาจา ใจ
แต่ก้าวต่อไป ทุกก้าวมีอันตราย มีอันตรายทุกหย่อมหญ้า ถ้าไม่มีขันติที่จะต่อสู้ เราจะกลายเป็นคนเพลี้ยงพลั้ง พ่ายแพ้
เพราะฉะนั้น ทำอย่างไรให้เราต่อสู้กับสภาพแวดล้อมภายนอก นั่นคือ หลวงปู่เพียรพยายามสอน เราจะได้สามารถประยุกต์ .... เป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีชัยชนะเสมอ
นี่คือสิ่งที่หลวงปู่.....
จะสอนให้เรา 3 อย่าง บริหารเวลา อารมณ์ กายกับชีวิต
สุดยอดนักบริหาร ต้องไม่ทิ้ง 3 อย่างนี้
สุดยอดของการบริหารเวลา ต้องทุกย่างก้าว ยังประมาทไป ต้องทุกลมหายใจ
การบริหารเวลาอย่างไม่คุ้มค่า ไม่ได้สาระ แม้มีเงินมาก สุดท้ายก็ขาดทุนชีวิต อารมณ์ เวลา
หลวงปู่คิดว่าหลวงปู่ได้ทำหน้าที่แล้วอย่างซื่อตรง ถูกต้อง ตามทำนองครองธรรม
ธรรมะของพระพุทธเจ้า
-สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
-เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
-ทุกข์มีอยู่ เหตุแห่งทุกข์.......
วิถีโลก ธรรมะของชาวบ้าน คือ
1 กตัญญู กตเวทิตา สำนึกคุณบิดามารดา สำนึกคุณธรรมชาติ สรรพสิ่ง และคุณธรรมชาติรอบกาย
2 มีหิริ โอตัปปะ
ทั้งหมดนี้แฝงอยู่ในคำสอน และหลักปฏิบัติ เหมือนเมื่อวาน หลวงปู่สอนว่า ผิดต้องออกจากหมู่
เพื่อออกไปแก้ไข มันแฝงอยู่ในคำสอน สำคัญว่า เราสามารถแยกแยะได้ไม๊
พวกเราทำให้หลวงปู่มีความสุข เพราะมีพัฒนาการทางอารมณ์ จืต ไม่ได้ปล่อยเวลาให้สูญเสีย
เรามีความสามารถพร้อมที่จะทำภาระหน้าที่ของตน และผู้อื่น เพราะเราแข็งแกร่งทางอารมณ์
รู้จักคุณค่าของครูบาอาจารย์ เราจึงทำแบบไม่เกี่ยงงอน ไม่ใช่หลวงปู่ไม่สังเกตุ ทั้งหมดนี้มาจาก
ความอ่อนน้อมถ่อมตน ผู้บริหารมาตักขี้ สอนให้รู้ว่า ลดมานะ ทิฐิ อีโก้น้อยลง
ทำให้หลวงปู่รู้สึกภาคภูมิ และมีความสุขมาก
เที่ยวหน้าไม่ใช่ตัก แช่ด้วย จะมีความสุขมากขึ้น
ไม่มีใครมา ดี กูจะได้ไม่เหนื่อย
ออกไปสู่โลกภายนอก เจ้าเล่ห์เพทุบาย ตลบตะแลง วางใจไม่ได้ มั่นใจไม่ถูก และไม่รู้สึกว่าปลอดภัย เพราะงั้น เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างสง่างาม ไม่พ่ายแพ้
เหนื่อยนัก พัก
หิว.........
ถ้าคิดแบบนี้เป็น จะกลายเป็นแรงบันดาลใจของตัวเราเอง....เป็นพลังของแผ่นดิน
แต่ถ้าคิดแบบนี้ไม่เป็น เราจะเป็นคนอ่อนแอที่สุดในโลก และเป็นตัวปัญหา
เพราะฉะนั้น แก้ที่ตัวให้ได้ก่อน
จบแล้ว เหนื่อยแล้ว กินเสร็จ กูนอนเลย พรก็ไม่ให้ เสียนิสัย กินแล้วนอน เลือดมันลง....
หลวงปู่ให้พรตอนท้ายว่า
ขอเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย ท่านท้าวจาตุมมหาราชิกาทั้งสี่ และบริวาร จงสดับ
ด้วยอำนาจผลบุญ คุณความดี ในทาน ศีล สมาธิ และปัญญา ที่ข้าได้สั่งสมอบรมมา เจริญ
ภาวนาและบ่มเพาะต่อหมู่ลูกหลานและสัตว์ทั้งปวงในครั้งนี้ และคุณความดีในทานบารมีธรรมทั้งปวงที่ได้สั่งสม อบรมมา จงเป็นตบะเดชะ พละวะปัจจัย ส่งผลให้ลูกหลานของข้า รุ่งเรืองเจริญ สำเร็จประโยชน์ มีสติ ปัญญารุ่งเรืองดั่งพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน-มีทรัพย์สินเนืองนองดั่งมหาสมุทรทั้งสี่ มีบารมีธรรมเท่าเมล็ดทรายในคงคา นที คิดและหวังสิ่งใด จงสำเร็จผล –
เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพปลอดภัย
> ขอโพธิญาณของข้าจงรุ่งเรืองเจริญในภพภูมิต่อๆไป มีอำนาจ พลัง ตบะ ชัยชนะ และความ
> สำเร็จ ทรัพย์ ลาภ กำลัง และสติ ปัญญาดุจดั่งพระอาทิตย์ยามเที่ยงวันด้วยเทอญ
>
> หลวงปู่พุทธะอิสระ
> ๑๒ ธันวา ๕๓