22.12.53  13.30 น. ธรรมะหลวงปู่ แสดงธรรมที่ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


เจริญธรรม เจริญสุขท่านผู้บัญชาการ ท่านรองผู้บัญชาการ ท่านหัวหน้าพนักงานตำรวจ ที่รักทุกท่าน รวมทั้งญาติโยมพุทธบริษัท...
ที่จริงแล้วเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้นำ..ศักยภาพทางสติปัญญา การฟังธรรมเป็นหนึ่งในหลากหลายวิธีที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนมา สุสูสัง....
แต่ที่แน่ๆ การฟังเป็นเรื่องการได้กำไร ได้ประโยชน์ อะไรที่ไม่รู้ได้รู้ อะไรที่รู้แล้วก็รู้มากขึ้น
คนที่ไม่รู้จักสดับตรับฟัง จะกลายเป็นคนไม่ค่อยมีสาระ อยู่โดดเดี่ยว...เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวบ้านญาติโยม ...ชั้นทำโครงการมา 20 กว่าปีแล้ว ถวายเป็นพระราชกุศล
ชั้นมี 3 เรื่องที่สอนเค้าในระยะเวลาสั้นๆ คือ บริหารชีวิต คือบริหารกาย บริหารเวลา
วิธีบริหารจัดการชั้นสูงสุดที่เยี่ยมยอด คือต้องบริหาร 2 สิ่ง ไม่ใช่บริหารตัวเลข บุคคลากร แต่บริหาร เวลา นักบริหารที่ดี ถ้าบริหารเวลาไม่เป็น สุดท้ายจะขาดทุน ทองหายไป ยังหาใหม่ได้ เวลาหาใหม่ไม่ได้ เวลากัดกินสรรพสิ่ง ถ้าเราไม่ใช้เวลาปัจจุบันสูงสุด เราจะสูญเสียเปล่าประโยชน์ คนบอกว่าไปดูหนังฆ่าเวลา หน่อย ที่จริงเวลาเราไม่ต้องฆ่า มันกินกระดูกเรา มันกินเราอยู่ตลอดเวลา เราได้อะไรจากมัน นี่อีก 2 วันก็ฉลองกันอีกแล้ว ที่มันกินเราไปอีก 1 ปี มันจะมีอะไรน่าฉลอง  บางคนยังขาดทุนอีก เพราะทั้งปีไร้สาระ ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งที่เคารพ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงธรรมที่ทหารเรือ เผอิญชั้นเล่าความฝันให้เค้าฟัง ชั้นนอนอยู่ๆ ฝันไปว่า มีคนจำนวนมากมาถามว่า ท่านมีอะไรเป็นเครื่องอยู่เครื่องอาศัย ถามว่าเราได้อาศัยมันจริงๆ มันป้องกันแดด ฝน จากโจรภัย ข้าศึกศัตรู หมายถึง เครื่องอาศัยที่สำหรับประโยชน์ มันอาศัยเรา เราก็อาศัยมัน จบลงตรงว่ามันต้องตายจากเรา เราไม่ได้อยู่กับมัน กาลเวลามันกัดกินเรา
เรามีเครื่องอยู่เครื่องอาศัยแห่งกาย แต่ทั้งชีวิตเราไม่เคยหาเครื่องอยู่เครื่องอาศัยของจิต อารมณ์เลยเครื่องอาศัยของกาย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อยู่กับเราตลอดชีวิตไม๊ เดี๋ยวมันก็สูญสลาย
คนที่เค้าถามชั้นในฝัน ชั้นตอบเค้าว่า ชั้นมีความเพียรเป็นเครื่องอยู่เครื่องอาศัย คนรู้จักชั้นจะรู้ว่าชั้นไม่เคยอยู่นิ่ง
ที่จริง งานนี้ชั้นจะเบี้ยว เพราะช่วงเวลาปลายปีชั้นจะไปอยู่ป่า ทั้งปีไม่มีวันไหนชั้นจะไม่ทำงาน
บางที 5 ทุ่มจัดรายการวิทยุ กว่าจะได้นอนก็ตี่ 1 กว่า เราก็จัดเวลาปลายปี ไปอยู่ป่า
กองเลขาฯ เค้ารับนิมนต์แล้ว ชั้นถามเค้า ถ้าอย่างนั้นก็ไว้พรุ่งนี้ค่อยไป เพราะว่าถ้าเราไปคนเดียว เราก็จะหาความสุขใส่ตัวเอง เราสอนชาวบ้านให้มีจิตสาธารณะ แล้วเราหลีกลี้ ก็จะไม่ดี ไปช้าอีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร
มาที่นี่ เพื่อจะบอกพวกคุณว่า เครื่องอยู่เครื่องอาศัยของกาย สุดท้าย มันก็ตายจากไป
เครื่องอยู่เครื่องอาศัยอะไรที่ทำให้จิตผ่อนคลาย
เครื่องหมายของคนดี คือ กตัญญู กตเวทิตา
พระพุทธเจ้า... จงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ท่านโดยความไม่ประมาทเถิด ทั้งชีวิตชั้น.....
เราทำอะไรเพื่อหวังให้คนอื่นมีความสุข เราจะมีจิตใจกว้างขวาง
งานเป็นเครื่องซักฟอกตัวเอง ความรู้ความสามารถก็จะเพิ่มพูนมากขึ้น
เวลาชั้นสอนนักศึกษาปริญญาเอก ท่านจะต้องรู้ปัญหา อยู่ที่ว่า.......
ถ้าเมื่อใดที่เราใช้เงื่อนไขของเวลามาใช้ประโยชน์มากที่สุด
รู้ไม๊ว่า ทำไมเค้าเรียกชั้นว่า หลวงปู่ พรรษาแรกชั้น เค้าก็เรียกหลวงปู่ เพราะชั้นไม่เคยใช้เวลาให้เปล่าประโยชน์ อยู่เพื่อไหว้ตัวเองได้ ไม่ใช่ให้คนอื่นมาไหว้ ไม่ใช่อวดดี ทั้งที่ไม่มีดีจะอวด
การสร้างเครื่องอาศัยในจิตวิญญาณ สำคัญมาก เพราะมันสามารถอาศัยได้ข้ามภพข้ามชาติ
อยู่ร่วมกัน 2 ปี อาจจะต่างคนต่างไปหรือตายจาก
พระพุทธเจ้าสอนให้เรามีเครื่องอาศัยในใจเรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา สติ หรือเรียกว่า สำนึกในความรับผิดชอบ เช่น กตัญญู กตเวทิตา เหล่านี้ก็คือเครื่องอาศัยทางจิตได้
ขณะที่ไปฉลอง อย่าลืม 2 คน ที่เฝ้ารออยู่ที่บ้าน
มันข้ามภพข้ามชาติ ซึ่งต่างจากเครื่องอาศัยทางกาย
เพราะฉะนั้น คนมีปัญญา เค้าจะคิดเครื่องอาศัยที่ยั่งยืน ข้ามภพข้ามชาติได้
ถามกลับไปว่า มันอาศัยได้จริงๆ หรือเปล่า ที่จริงชั้นนั่งบนรถ ชั้นคิดอยากพูดเรื่อง ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
คนที่สามารถทำลายความคับแคบ ตระหนี่ในใจได้ เค้าจะเป็นสรณะ เป็นฮีโร่ของทุกคน
ปัญหาคือ ทุกวันนี้ เรามีฮีโร่น้อยมาก เพราะทุกวันนี้ มัวแต่จ้องบริหารชีวิตคนอื่น
อีกเรื่อง นอกจากบริหารเวลาแล้ว บริหารอารมณ์ กำไรตัวเลขแต่ขาดทุนอารมณ์ อย่าทำเลย เพราะไม่มีความสุข มีมากๆ ไปทำไม เมื่อไม่มีความสุขทางอารมณ์ ชีวิตจะมีความหมายอะไร
ผู้มีสติปัญญา ชาญฉลาด ต้องรู้จักบริหารอารมณ์ให้เป็นสุข
มองโลกตามความเป็นจริง อย่างเข้าใจรู้จักอย่างชนิดไม่เปลืองตัว เปลืองใจ อยู่อย่างไร อย่าเก็บอารมณ์คนอื่นมาคิด ทำในสิ่งที่มั่นใจว่าถูกต้องประโยชน์สุด ตาอยู่สูง เอาไว้มอง หู2 ข้างอยู่ระหว่างสมอง ฟังแล้วคิด ดู ดม ดูด รู้จักคิด ไม่ใช่เหมือนชักโครก ที่ไม่รู้จักคิด ดูดอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นจึงอยากบอกว่า เข้าใจ รู้จัก ภาระกรรมหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคมมนุษย์ การงาน สิ่งแวดล้อม แม้ที่สุดรู้จักบริหารอารมณ์ ไม่ให้ชีวิตรุงรังเป็นทุกข์เกินไป แม้ที่สุด ไม่ได้ซักกะตัง
ก็ยังมีความสุข
1 บริหารเวลาสำหรับนักบริหาร
2  บริหารเวลา
บริหารเวลา อารมณ์ ชีวิต ให้ได้ประโยชน์สูง ประหยัดสุด
หลวงปู่ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร มีอยู่ครั้งไปนอนโรงพยาบาล เป็นไข้เลือดออก เป็นที่รู้กันว่า หมอไม่มียารักษา เผอิญโรงพยาบาลสมุทรปราการครบรอบ อยากฟังธรรม หมอประจำตัวบอกว่า อย่าไปเลย เกล็ดเลือดมันต่ำมาก 60-70 กระทบนิดเดียวเลือดออกไม่หยุด เราก็เลยบอกว่า หมอ งานรับเค้าไว้แล้ว ไม่เป็นไร ชั้นว่าชั้นกลับมาได้ ถอดถุงน้ำเกลือได้ไม๊ ไม่ได้ หมอเค้าเอาใบมาให้เซนต์ รู้ไม๊ใบอะไร โรงพยาบาลจะไม่รับผิดชอบ ถ้าเป็นอะไรไป ชั้นไปแสดงธรรมตั้งแต่บ่ายถึง 4 โมงเย็นแล้ว กลับมานอนโรงพยาบาล
คนที่คับแคบ เอาเปรียบ ไม่มีใครอยากคบ แค่เพียงคุณมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว คุณมีเสน่ห์แล้ว อยู่ในป่า นกมากินน้ำในฝาบาตร....
อยู่กับป่า เป็นราชาสัตว์ อยู่วัดเป็นขี้ข้า
ในฐานะที่คุณเป็นสันติราษฎร์ ทำอย่างไรใช้บังคับกฏหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ จะต้องไม่เห็นแก่ตัว เพราะว่าสุดท้ายจะเห็นแก่ญาติ แต่ถ้าไม่เห็นแก่ตัว เราจะไม่เห็นแม้หน้าอินทร์หน้าพรหม 40กว่าปี ชั้นเป็นนักบวช ชั้นไม่เคยเหยียบเท้าเข้าบ้านเลย เพราะเราสวดอยู่ทุกวัน..
งานฝังลูกนิมิตรที่วัดชั้น 10 วันไม่มีมหรสพ การเล่น ให้ชาวบ้านมาขายของ ไม่เก็บตังค์ แต่ต้องรักษาความสะอาด ไม่มีที่พิเศษสำหรับใคร ทุกคนเท่ากันหมด คือจับสลาก แม้แต่ญาติชั้น รู้ไม๊ญาติชั้นคือใคร แม่
ชั้นเขียนบทโศลกไว้พันกว่าบท หนึ่งในนั้นเขียนว่า ขอเพียงไหว้กายนี้ได้....... ชีวิตเจ้าก็ไม่กลัวตายแล้วล่ะ ตลอดชีวิตชั้นไม่ได้หวังว่าตัวเองจะเป็นสุข แต่หวังว่าชาวบ้านจะพ้นทุกข์อย่างไร
อย่าไปพึ่งรูป รส กลิ่น เสียง สมบัติ เพราะนั่นเป็นชั่วคราว ไม่ถาวร แต่พึ่งสิ่งที่เป็นที่พึ่งถาวร
เมื่อเรามีที่พึ่งที่ยั่งยืนถาวร เราจะไม่กลัวอะไร เราจะงดงาม มีสง่าอยู่เสมอ
ถ้าไม่มีที่พึ่งที่ถาวร เราจะขลาดเขลา และหวาดกลัว
ชีวิตชั้นไม่เคยพกของขลัง พกพระ ไม่เคยสะดุ้ง พระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชั้น คือ พระสติ ไม่ต้องปลุก สติ สัมปชัญญะจะเตือนเรา เผชิญปัญญาอุปสรรคได้เสมอ ตายทุกคน แต่ตายดี ตายไม่ดี
ถ้าถามชั้นว่า ควรมีอะไรเป็นที่พึ่ง มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ท้ายที่สุดอย่าเห็นแก่ตัว ทำ 3 อย่างนี้แล้ว จะเป็นมงคลของชีวิต เป็นมงคลของแผ่นดิน
คุณลองหลับตาดูว่าผู้พิทักสันติราษฎร์ มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่พวกพ้อง........
เห็นแก่ตัว สุดท้าย จบลงตรงคำว่า ไม่เห็นกับกฏหมาย
จงเป็นผู้ไม่เห็นแก่ตัว มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย
ทิ้งเวลาให้ถาม ท่าน ผ บ นั่งจดใหญ่เลย เค้ามีอัดเทปไม่ใช่เหรอ
อยากบอกว่า ชา กาแฟ เลยเที่ยง ไม่ควรดื่ม ผู้หญิงกระดูกพรุนง่าย ขาดฮอร์โมนก่อนวัย หมาก็เข้าใกล้ไม่ได้
ปุจฉา  ข้ามภพข้ามชาติมีจริงหรือครับ สามารถพิสูจน์ได้อย่างไร
วัสัชนา  เมื่อวานนี้มีไม๊ ปีที่แล้วมีไม๊  ปีหน้ามีไม๊ จบ
คุณรู้ไม๊ทำไมชั้นถึงพูดถึง มีน้ำใจ รู้จักให้ เพราะสังคมทุกวันนี้เกิดจากความเห็นแก่ตัว
ไม่เห็นแก่ตัว ก็จะไม่แก่หน้าใคร คนเราเมื่อเห็นแก่ความเที่ยงธรรม....
สังคมที่มันรุมร้อน เกิดจากคนเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่หลักการ แต่เห็นแต่บริษัทบริวาร
ในฐานะที่คุณมีหน้าที่แก้ปัญหาสังคมในระดับหนึ่ง ถ้าคุณเห็นแก่ตัว แล้วสังคม ชาตินี้จะพึ่งใคร
ปุจฉา ...
วิสัชนา  วิปัสนา หมายถึง อุบายเรืองปัญญา หนทางแห่งการมีปัญญา สมถะ ศาสนาอื่นก็สอนกัน แต่ศาสนาอื่นไม่ได้คือ วิปัสนา คือปัญญา
วิถีของมนุษย์ คือสัตว์สังคมชั้นสูง ถ้าขาดน้ำใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน
ที่จริง การปล่อยวางเป็นเรื่องดี ถ้าเข้าใจ รู้จัก วางแล้วว่าง ดับแล้วเย็น
สำคัญที่สุด คือ สำนึกต่อแผ่นดิน บรรพบุรุษ สำนึกในหน้าที่ มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ไม่เห็นแก่ตัว
ทุกคนเป็นญาติเป็นพี่น้อง ถ้าไร้สำนึก มึงกับกูต้องตีกัน ถ้ามีสำนึก เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างผ่อนคลาย สบายใจ
ความเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ