10.12.54  ทองผาภูมิ
04.30 น.
พระอยู่ข้างนอก อนุญาตให้สวมหมวกได้ น้ำค้างมันแรง
ไม่รักษาร่างกายให้อบอุ่น อาศัยยาอย่างเดียว ยาอะไรก็รักษาความโง่ไม่ได้
สุดท้ายไม่สบาย ก็อยู่ไม่ได้ ความโง่ที่ไม่รู้จักบริหารจัดการ ใครก็ช่วยไม่ได้
บริหารตัวเองไม่ได้ ก็ยากที่จะเป็นที่พึ่งคนอื่นได้  ตัวเองยังเอาตัวเองไม่ได้ เอาคนอื่นรอดยาก
หลวงปู่รักษาอุณหภูมิในร่างกาย ใส่อังสะหลายชั้น ดูแลเครื่องใน ตับ ไต ปอด
แขนขาก็รักษาตามเหตุตามปัจจัย
เมื่อคืนตื่นตั้งแต่ตีสองครึ่ง มันว่างจนไม่มีอะไรให้นอน
นอนทำไม ก็เลยไปไหนต่อไหน เรื่อยเปื่อย เลอะเทอะ
อาคันตุกะยามค่ำคืนสวดมนต์กันข้ามคืนให้หลื้มไปหมด
05.35 น. 
เช้าๆ จำไว้เป็นคติประจำใจ   ดื่มน้ำให้พุงกาง อิ่มน้ำก่อนอิ่มข้าว 
จุลทรีย์ในช่องปาก ช่วยย่อย เป็นประโยชน์ลำใส้ ในกระเพาะอาหาร
กลั้วคอแล้วกลืน ไม่ใช่บ้วนทิ้ง .....ที่กินน่ะ ซากปลา ซากไก่ ปากเรานี่เคี้ยวศพทั้งนั้น
ผักเป็นศพไม๊  เป็น  ถ้าไม่เป็นศพ ก็ขึ้นในกระเพาะ
สัตว์ มนุษย์ อยู่ได้เพราะซากศพ
ปีก่อน ใครเค้าเอาตังค์มาสร้างห้องน้ำ ...ไม่คุ้ม กูไปสร้างห้องน้ำวัดหมด
ปีหนึ่งใช้หนเดียว ไม่คุ้ม
6.30 น. หลังปฏิบัติธรรม
มนุษย์จะรู้ไม๊ว่า มนุษย์เราไม่ได้แตกต่างกัน
ที่แตกต่างกันคือ นิสัยและสันดาน แม้พี่น้องออกมาจากท้องแม่เดียวกัน
ทั้งหมดอยู่ที่การฝึกปรือในอดีต ปัจจุบัน และส่งผลต่อไปในอนาคต
ถ้าเราไม่ตั้งใจ เรากำลังสร้างปมปัญหาที่คลายไม่ได้ในอนาคต
เราไม่ชัดเจนต่อคำที่พูด สูตรที่คิด
แค่พูด ก็อ้อมค้อม ไม่ตรงไปตรงมา เพราะฝึกแบบนั้นมาตลอดชาติ
เราจะสังเกตเห็นว่า คนที่พูดอ้อมค้อม ไม่ชัดเจน คนฟังต้องใช้ความพยายาม...
คนอธิบายใช้เวลานานมาก กว่าเราจะรู้ว่าเค้าพูดอะไร
มนุษย์แบบนี้ เค้าเรียก มนุษย์ไม่สำเร็จประโยชน์
ถ้าจะสำเร็จประโยชน์ ต้องใช้ทรัพยากรมาก เสียเวลามาก
กรรมฐาน เป็นยาแก้โรค แก้สันดาน
ผู้มีกรรมฐานสูงสุด จึงจะตัดจากสันดานได้ คือ พระอรหันต์
นิสัยไม่ดี สันดานดิบ พระอรหันต์ พระพุทธเจ้าตัดได้
ถ้าเราไม่ฝึก เราจะปนเปื้อนไปหมด ไม่รู้อะไรจริง อะไรเท็จ
เค้ามาหลอก ก็เชื่อ เค้ามาหลอก ก็หลง เพราะว่า ไม่ตั้งใจจริง ทั้งหมดเป็นการสั่งสมมา..
ชั่วชีวิตหลวงปู่ ไม่ชอบคือ ความคลุมเครือ ตลบตะแลง .......
หลอกลวงตัวเอง  ชั่วและเลว
ถ้าไม่ทำ ก็หยุด เลิก
จะเห็นว่า เวลาหลวงปู่ทำอะไร จะทำอย่างจริงๆ จังๆ ใครมาขัดขวาง จะรู้สึกขัดเคือง
เพราะว่า เรากำลังฝึก ทำให้สันดานเราบิดเบี้ยว ทำให้เราสันดานเสีย
ปากทำอย่าง คิดอย่าง พูดอย่าง ...สันดานเสีย
เพราะฉะนั้น ฝึกเป็นคนทำอะไรจริงๆ จังๆ เสียบ้าง
เดินจังหวะ ให้ทุกจังหวะชัด
จะเพ่งความว่าง ก็ว่างให้ได้จริงๆ
ฟัง ก็ต้องฟังจริง ไม่ต้องคิด เสียเวลา
เราชอบสับสน ไม่รู้ว่า ฟัง คือ ฟัง   คิด คือ คิด
เราแยกไม่ได้ ความคิดเราจึงผิดพลาดเสมอ
มีชีวิตอยู่ด้วยขาดทุน
เวลาคิด ไม่รู้จักว่า คิดอย่างไร ไม่เสีย
เพราะว่า ไม่พัฒนา ไม่ฝึกปรือ ไม่ใช้สติปัญญา
เพราะฉะนั้น คนเราไม่มีอะไรแตกต่างกัน แตกต่างกันที่ นิสัย และสันดาน
และอะไรเป็นตัวตกแต่งสันดาน ไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นกรรม
ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่มีเจตนาจะทำ นั่นแหละ คือ นิสัยและสันดานที่เราจะสั่งสม
ชาติต่อไป เราก็จะปลิ้นปล้อน เราจะพอใจในสิ่งนี้ และทำตนเป็นคนแบบนี้
แต่ถ้าเราจับจ้อง จริงจัง กับคำที่พูด สูตรที่คิด ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
และทั้งหมดนี้ เป็นตบะ อำนาจ เป็นคุณธรรมของเรา
การทำได้ จะเป็นตบะ อำนาจ คุณธรรม ใครเห็นก็เกรงกลัว ครั่นคร้าม เพราะว่ามีเดช มีศักดา
เพราะว่า เรามีพฤติกรรมชัดเจน
เดี๋ยวนี้ พูดอะไรยังไม่ชัดเจน ..เวลาไหว้ครูตอนไหน.....
ในครัวเสียงให้ลั่น เค้ากำลังปฏิบัติธรรม อะไรควรส่งเสียง....
....เพราะไม่เป็นสัตบุรุษ คือ ไม่เป็นบุรุษ สตรี ผู้ตื่น...ทั้งหมดจากสันดาน
ชีวิตหลวงปู่ ไม่มีครูฝึกสอน น่าอนาถ
แต่พวกมึงน่าอนาถกว่าอีก ทั้งดัน ทั้งถีบ...
เอ้า  เตรียมตัวเจริญพระพุทธมนต์ เปิดหน้า 31   6.45 น.
9.00 น. ปฏิบัติธรรม
10.30 น.  สูตรสำเร็จขั้นที่ 3  ตัวจะเบาขึ้น
ถ้ายังระมัดระวังในการก้าว ยังไม่ถือว่า สำเร็จ
ถ้าสำเร็จ การก้าวไม่มีข้อกังขาว่า เราจะก้าวผิด ก้าวพลาด
ขั้นที่ 4 คือ แถมลมเข้า และ ออก จะปรุงเป็นชีวะ
ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆ
อย่างน้อยๆ เราก็ได้ลงมือทำอะไรได้บ้าง อดทนอย่างยิ่ง ตั้งความปรารถนาอย่างยิ่ง
เดี๋ยวก็ได้เอง ถ้าไม่ทำ จะนิสัยเสีย สันดานเลว
บอกแล้วมนุษย์ไม่ได้ต่างกัน  ต่างกันตรงนิสัยและสันดาน
ต้องอดทนและขยัน มนุษย์ต้องอดทนที่จะฝึกได้มากกว่าเดรัจฉาน
กลางคืนดึกๆ รู้ไม๊ กูไปดูพวกมึง กลัวงู เงี้ยวจะไปกัดพวกมึง .......นึกว่า มึงขู่
ทำไมกูให้พักถึงบ่าย 2  กูไม่อยากสอนคนป่วยกับคนหลับ
ภาคบ่าย จะสอนสุญญตะ อย่าหลับ ได้เจอหลุมขี้แน่
14.00น.  หลวงปู่เล่าประวัติตัวเอง....
ที่เล่าให้ฟังขนาดนี้ ...เพื่อที่จะค้นหาตัวเอง ต้องเด็ดขาด เด็ดเดี่ยว และจริงใจ
ไม่ใช่ทำเล่นๆ ทำแบบขอไปที
เข้าพรรษาที่ 3 ทำกลด ออกพรรษา นั่งรถไฟไปลงอีสาน ...อำเภอวาริน.... คำ

ซาอี
หมู่บ้านสมสะอาด ขาดใจดิ้น ไปอยู่ถ้ำพระโพธิสัตว์บ้าง ...ถ้ำผีบ้าง แถวอำเภอวาริน
เค้าว่ามีงูแยะ ..ได้ผล  ออกจากถ้ำ หาตัวเองเจอ ความหมายว่า พึ่งตัวเอง มันกระจ่างชัด
เล่าให้ฟัง...ต้องกล้าเผชิญ กล้าที่จะตาย ไม่ใช่อย่างพวกเรา หนาวนะ...
อยากบอกว่า กูเป็นหลวงปู่ ไม่ใช่เพราะคนยัดเยียด ตั้งให้ แต่สามารถ...
พรรษาที่ 3 กูเดินทั้งปี เจอหลวงปู่แหวนออกมารอหน้าวัด เรียกอาจารย์ปู่
เพิ่งมารู้วันที่ 2-3 ที่อยู่กับแกว่า คนเรียก หลวงปู่แหวน
ออกทุกปี เหนือ อีสาน ใต้ ไปจนไม่รู้จะไปไหน   เบื่อไป
จนสมภารบอก ไปอยู่ที่อื่นเฮอะ....
อ้ายเชาวลิตนี่แหละ ศิษย์รุ่นแรก ..ไม้อัดไทย
อยากบอกท่านทั้งหลายว่า ที่ฝึกเรียนอยู่นี่ ไม่ได้เศษเสี้ยวหนึ่งของชีวิตหลวงปู่
..นี่มีคนคอยสั่งสอน...เพราะฉะนั้น ควรขวนขวาย
สิ่งสำคัญ อยู่ที่ใจ 
ใช้เวลาฝึกนานไม๊
ก็คงจะนาน
เพราะหลวงปู่สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานาน แต่พวกเรา ปัจจุบัน ไม่สั่งสม ..ก็กลายเป็นขี้ข้า
บอกแล้วว่า มนุษย์ไม่มีอะไรแตกต่าง นอกจากนิสัยกับสันดาน
ณ. วันนี้ นิสัยกับสันดานไม่ตรง เรียกว่า พฤติกรรมไม่ชัดเจน
อยู่ในครัว เห็นชัดๆ บอกให้ยกของ ยังกำตะหลิวอยู่ ของที่ยกก็หก
วิธีคิด มันต้องสั่งสมมาเก่าก่อน
เพราะว่า การสั่งสมมาไม่ดี
สำคัญที่สุด ไม่ฝึกฝน ไม่ฝึกหัด ไม่พัฒนาตัวเอง
คนอื่นสอนเราได้เป็นบางเวลา แต่ตัวเราสอนเราได้ทุกเวลา
ชีวิตกู มีคนสอน กูไปถึงไหนแล้ว ไม่ติดดินแล้ว หรือกูเกิดก่อนคนที่จะสอน
ให้ไปพัก 5 นาที เดี๋ยวมาฝึกสุญญตสมาธิ
14.50 น.
ฝึกจิตยากกว่าฝึกกาย
ฝึกปราณเป็นการฝึกกาย
ฝึกจิต ทำได้ยากกว่าที่เดินจังหวะ
แต่ถ้าไม่ฝึก ก็ยิ่งไม่ได้
อะไรยิ่งยาก หลวงปู่อยากทำ ...ว่าเราสามารถ แกร่งกล้า องอาจ ยืนหยัดกับอุปสรรค
คิด ขีด   ถ้าไม่เฉย ขีด
ถ้าไม่คิด ไม่ต้องขีด
เฉยๆ ในที่นี้ คือ จิตมันเฉยๆ
จิตเฉย พฤติกรรมก็เฉย
ผูกจิตไว้ในกายในกาย
เมื่อใจว่าง สมองว่าง แม้ลมหายใจก็ผ่อนคลาย
19.45 น.  ปฏิบัติธรรม
ว่าง ไม่ต้องขีด
เห็นความว่างภายในเป็นอารมณ์ คือ ว่างภายในกายตน
เพ่งอยู่กับความว่าง นิ่งอยู่กับความว่าง
อาศัยความว่างเป็นเครื่องอยู่
ว่าง ไม่ต้องขีด
แม้ลมหายใจ ก็ไม่จัดเป็นความว่าง
ต้องลึกมากๆ
ความว่างในที่นี้ ต้องลึกกว่าลมหายใจ
ว่างถึงขนาดสมองโล่ง โปร่งเบา สบาย
กายเบา ตัวเบา ที่บาลี เรียก ลหุตา
แม้ที่สุด มันว่างจนไม่มีตัวตน
ใจว่างแล้ว ทำอะไรก็ได้  ดูราหู ก็ใจว่างได้
ความว่างไม่ปรุงในอายาตนะทั้ง 6
พิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  ว่างโดยใช้ปัญญาพิจารณา
แต่ว่างแบบเพ่ง เป็นสุญญตสมาธิ
....นั่งแข่งกับกัสสปะมุนี อยู่ได้ 3 วัน ไม่หนาว ไม่ร้อน ........
20.55 น.  วันนี้ ผลงาน....  ...พรุ่งนี้ให้ตื่นตีห้า