15 พ ค 2554 9.05 น. ถอดเทป องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ นำศิษย์กล่าวคำไหว้ครูเทพ ในพิธีไหว้ครู (2.30 นาที)
อุกาสะ อุกาสะ อุกาสะ
ข้าพเจ้าขออารธนาคุณตาฤษีทั้งหลาย
ซึ่งเป็นเจ้าตำหรับยาตามที่แพทย์ได้ประกอบกันมา
เพื่อรักษาสรรพโรคทั้งหญิงชาย
ขอโรควิบัติเบาคลาย ขอให้หายด้วยฤทธิ์ของยา
ผู้ข้า ขออาราธนาคุณครูบาอาจารย์ มหาเถร...เป็นประธาน...
ต่อไปนี้ ลูกหลานว่าตาม
ด้วยเดชที่ผู้ข้าไหว้ จงรุ่งเรืองเกรียงไกรในทิศทั้ง 4
สิทธิกิจจัง กิจจานุกิจ
หน้าที่และการงานทั้งหลาย จงสำเร็จเสร็จสมบูรณ์
อย่าได้ข้องขัด คั่งค้างเลยนา
สิทธิกัมมัง กิจจานุกิจ
การบำรุงรักษาของผู้ข้า จงหายขาดจากโรคา
มีปัญญารุ่งเรือง อยู่รอดปลอดภัย พ้นจากอันตรายทั้งปวง
การช่าง การปั้น การปฏิมา การก่อสร้าง การศิลปกรรม
การดนตรี ลีลาศนาฏศิลป์ การรับราชการ
การประกอบธุรกิจการงาน การค้าและการขาย
การบ้านและการเมือง การประกอบสรรพยา
การรักษาและเวชกรรม การรู้ใจทายใจ
การผูกรัก สร้างมิตร การมีสติ สมาธิ ปัญญา
การสั่งสมโพธิจิต โพธิปัญญา โพธิศรัทธา ในโพธิธรรม
จงลุล่วงสำเร็จสมบูรณ์บังเกิดผล อันเป็นเลิศประเสริฐ
ณ. บัดนี้ด้วยเทอญ
สิทธิการิยา ปัฎฐะโต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงมีชัยชนะต่อพญามารได้ฉันใด
ขอผู้ข้าทั้งหลาย จงเอาชนะโรคภัยทั้งปวง
และสรรพกิจน้อยใหญ่ได้ฉันนั้น
สิทธิลาโภ นิรันตะรัง
อีกทั้งลาภยศเกียรติคุณ สรรเสริญและบารมี
จงมีแด่ผู้ข้าทั้งหลาย ทั้งผู้มาและผู้ไป
ลาภยศหลั่งไหล เกียรติคุณเนืองนอง
สรรเสริญหนักแน่น ดั่งอุทกธาราที่หลั่งไหลกันมาในทิศทั้ง 4
ณ. กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญ
สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง
อำนาจ พลัง ตบะ ชัยชนะ
จงมีแก่ชาวสยาม และพวกข้าทั้งหลาย
ตลอดกาลนานเทอญ
สัพพะสิทธิ ภวันตุโว
ขอสรรพพรชัยทั้งหลายในปีโลกา ในมหาจตุธาตุวัฏฐานทั้ง 4
จงหลั่งไหลเข้ามาสู่ในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร
ของผู้ข้า ณ. บัดนี้เทอญ
15 พ ค 2554 9.15 น. ถอดเทป องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ อธิษฐานจิตในพิธีไหว้ครู (2.30 นาที)
ท่อนนี้ไม่ต้องว่าตามนะ ลูก
ด้วยเดชแห่งพระโพธิญาณในโพธิศรัทธา
ที่ข้ามุ่งมั่นปฏิบัติในโพธิธรรม
สั่งสมอบรมเจริญในทานบารมี สีลบารมี เนกขัมมะบารมี
ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี
อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี
จงเป็นเดช ศักดา อำนาจ พลังและตบะ สติและปัญญา
เมตตาที่จะสามารถเป็นที่พึ่งแก่หมู่สัตว์ ชนหมู่ตกทุกข์ได้ยาก
ผู้เป็นไข้ไม่สบาย ได้รับความลำบาก
ข้าจงมีเดชศักดา สติปัญญาและพลัง
ที่สามารถปลดเปลื้องช่วยเหลือให้พวกเขาเหล่านั้น
และสรรพสัตว์ทั้งปวง ให้พ้นจากการเจ็บป่วย
ทุกข์ภัย พ้นโรค พ้นภัย
ด้วยมหาปณิธานในโพธิญาณที่ข้าปรารถนา ณ. กาลบัดนี้เทอญ
โอม คุ รุ เทวะ นะมามิ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง
สิทธิ ตะฐาคะโต สิทธิลาโภ สิทธิเตโช สิทธิอาโป สิทธิปฐวี
สิทธิบิดา สิทธิมาตา สิทธิครูบาอาจารย์
สิทธิอิศวร สิทธิองค์มา สิทธินารายณ์ สิทธิอินทา
สิทธิเทวา สิทธิราชา สิทธิพุทธา สิทธิธรรมา สิทธิสังฆา
สิทธิอรรถะ สิทธิอรหันตานัง
นะโมพุทธายะ มะอะอุ อิศวาสุ ปัญจะพุทธา นะมามิหัง สัพพะสิทธิ ภวันตุเม
15 พ ค 2554 10.45 น. ถอดเทป องค์หลวงปู่พุทธะอิสระ นำขอขมาพ่อแม่ ในพิธีไหว้ครู (20 นาที)
เอ้า เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขออาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณ
เจริญมนต์ถวายพรพระก็พอมั๊งครับ เดี๋ยวจะไม่ทันฉันเพล
ปะเคนของพระ ถวายจตุปัจจัย
พระให้พร
ญาติโยมชาวบ้านที่มีพาพ่อแม่มา ลูก
ลูกหลานใครมีขันอยู่ในมือ หันไปหาพ่อแม่ตัวเอง
ครูคู่แรกของชีวิตเรา
คือ ครูพ่อ ครูแม่ หันหน้าเข้าไปหาพ่อแม่
อยู่ตรงไหน แล้วไปนั่งคุกเข่าข้างหน้าพ่อแม่
แล้วก็กราบ 3 ครั้ง เออ
เจอหรือยัง เจอพ่อแม่หรือยัง
การไหว้พ่อแม่เป็นครูเรา ถือว่าเป็นมงคลสูงสุดในชีวิต ลูก
พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้
ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง
การบูชาบุคคลที่ควรบูชาทั้งหลาย ข้อนี้เป็นมงคลสูงสุด
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง การบำรุงมารดาและบิดา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง ข้อนี้เป็นมงคลสูงสุด
เสร็จแล้วก็น้อมตัวลง ลูกๆ ทั้งหลาย น้อมตัวลงต่อหน้าพ่อแม่
แล้วว่าตามหลวงปู่
คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ ผู้มีคุณทั้งหลายครับ
กรรมน่าติเตียนใดๆ ที่ลูกได้ก้าวก่ายล่วงเกิน
สบประมาทพลาดพลั้ง ต่อคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอารย์
และผู้มีคุณทั้งหลาย
ขอคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอารย์ ผู้มีคุณทั้งหลาย
โปรดจงอโหสิกรรมให้แก่ลูก ณ. โอกาสวันนี้
ซึ่งเป็นวันดี วันไหว้ครูของชาวครอบครัวธรรมอิสระ
ลูกๆ ทั้งหลายขอให้สัญญาตั้งจิตอธิษฐานว่า
จะตั้งใจเป็นคนดี พูดดี ทำดี คิดดี
เป็นลูกและศิษย์ที่ดีของคุณพ่อ คุณแม่
เพื่อให้พ่อแม่เย็นกายสบายใจ
คิดและหวังสิ่งใด จะได้สมความปรารถนา
และมีความสุขถาวร ยั่งยืน อายุยาวนาน
สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส จิตใจผ่องแผ้ว
และโปรดเมตตา กรุณาสั่งสอนอบรม
ชี้นำในสิ่งที่ถูกที่ควร ให้แก่ลูกได้ประพฤติปฏิบัติ
เพื่อความเจริญรุ่งเรืองสืบไป
ขอคุณพ่อ คุณแม่ ผู้มีคุณทั้งหลาย โปรดจงเมตตา
เอ้า เอาขันมอบให้กับพ่อแม่ ลูก
แล้วก็กราบลงไป 3 ที
เออ แล้วเดี๋ยวพ่อแม่เค้าจะได้เอาขันนี้
มาไหว้ครูพระ ครูเทพ ครูฤษี ต่อไป
ปีนี้ ถือว่าเป็นปีสุดท้ายของการไหว้ครูวัดอ้อน้อย
หลวงปู่จะใช้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ 2 ชนิด
สำหรับการรดน้ำพุทธาภิเษก หรือพุทธมนต์
ลงศีรษะให้แก่ทุกคนที่เข้ามารับการไหว้ครู
คือ สังข์พระเวท กับสังข์พุทธมนต์
เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เค้าจะจัดสถานที่
หลังจากพวกเราทานข้าวแล้ว ก็จะมาเข้าแถวกัน
มารับน้ำมุรธาภิเษกบนเศียรเกล้า
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ก่อนจะรับ
คงได้ฟังโอวาทคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ว่า
จะทำภาระกรรมและหน้าที่อะไรสืบไป
หลังจากนั้น ก็รับของที่ระลึก
ซึ่งจะมีพระผง น้ำพระทัยปกเกล้าปกกระหม่อม
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชีนีนาถ
ทรงพระราชทานแจกันดอกไม้มาถวายแก่อาวาสนี้
หลวงปู่ก็เก็บรวบรวมไว้ทำเป็นผงพระ แล้วก็แจกพวกเราสืบไป
งั้น เดี๋ยวหลังจากทานข้าวแล้ว เค้าจะมีอาณัติสัญญาณว่า
จะเริ่มพิธีอะไรยังไง
ช่วงนี้ ก็เป็นหน้าที่ของพิธีกรที่จะทำหน้าที่
แนะนำให้เราประพฤติภาระกรรมให้มันถูกต้อง
ตรงต่อสถานที่ สิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชนสืบไป
• โอวาทปีนี้ คือ มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังสร้างสรรค์พัฒนาให้ต่อ
เนื่องอยู่เนืองๆ ทุกลมหายใจเข้า ออก / มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังมารังสรรให้
เกิดพัฒนาการ ไม่หยุดพัฒนากาย และพัฒนาใจ
• ข้อที่ 1 มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังสร้างสรรค์พัฒนาให้ต่อเนื่องอยู่
เนืองๆ ทุกลมหายใจเข้า ออก
• อย่าหยุดนิ่งต่อการพัฒนา
• ข้อที่ 2 จงตระหนักสำนึกเสมอๆอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกว่า
• กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง กัดกินชีวิตสัตว์
• แม้ที่สุด มันก็กัดกินชีวิตเรา
• เราจะสามารถกำหนดชาติภพที่เราจะไปได้
• เพราะเราแข็งแรงมากพอที่จะมีอำนาจเหนือกฎแห่งกรรมทั้งปวง
• อย่าเผลอ อย่ามัวเมา ประมาท อย่าขาดสติ
15 พ ค 2554 12.10 น. ถอดเทป กรรมฐานของครูคนนี้ในปีสุดท้ายแห่งการไหว้ครู โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ
วันนี้เป็นวันไหว้ครูพระเวท
เป็นการไหว้ครูที่ต้องถือว่าเป็นตำนาน เป็นประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่ต้องจารึกในตำนานว่า
พรั่งพร้อมไปด้วยสานุศิษย์ ทั้งฆราวาส และพระ
ถึงแม้ว่าจะเป็นปีสุดท้าย แต่ก็ต้องของชื่นชมว่า สำเร็จไปด้วยดี แม้มีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ก็
เป็นอุปสรรคที่ทุกคนช่วยขจัดอุปสรรคขวางหนาม
พฤติกรรมเป็นพฤติกรรมในการไหว้ครูอย่างหนึ่ง เป็นภาระกรรมของศิษย์ที่จะแสดงความ
กตัญญูต่อครู ถนอม เกื้อกูล สนับสนุน แม้ที่สุดก็กำจัดอุปสรรคต่างๆ
เราช่วยกัน เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก
การไหว้ครูครั้งแรกที่บอกว่าเป็นตำนาน ก็เพราะว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
ใครได้รับน้ำในวันนี้ ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อันสำเร็จประโยชน์ ได้รับน้ำมุรธาภิเษก ผู้เข้าใจ
รู้สรรพวิชาทั้งปวง
อาจจะมีบางคนเข้าใจว่า สิ่งที่ได้รับ เฉยๆ แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสาธุชนคนใฝ่ดี
ต้องมีพัฒนาการอยู่เนืองๆ อยู่เป็นนิจ ถ้าหยุดพัฒนาการ ก็ใฝ่ดีไม่ได้
ชั่วชีวิตหลวงปู่ ทุกลมหายใจ เป็นคนไม่เคยหยุดนิ่งต่อการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นภายนอก
หรือภายใน
เมื่อคืนนอนอยู่ ฝนตกตี 1 ตื่นขึ้นมา คิดว่า ลูกหลานมันจะอยู่อย่างไร ทั้งที่ตัวเองก็ปวดตับ
เพราะฉะนั้น ตัวเองจงอยู่ด้วยความว่าง ไม่มีสังขารจากการเจ็บป่วยก็ไม่มี
เป็นโชคที่คนได้นอนแล้วตื่นตอนดึกๆ ถือเป็นโชคดีของผู้มีความเพียรอยู่เป็นนิจ
เพราะว่า เราได้มีโอกาสพัฒนา สำรอกสนิมขุมในไขกระดูกให้ลดน้อยถอยลงไป
คนไม่คิดพัฒนา ก็จะคิดว่า กูโชคร้ายเหลือเกิน หายากิน นอนนับลูกแกะ ก็ยังนอนไม่หลับ
เพราะว่า ไม่มีพัฒนาการ ชีวิตอยู่ด้วย กิน กาม เกียรติ์ โกรธ
คนที่แสวงหา ปลดเปลื้องความเป็นอิสระ ก็จะรระลึกรู้อยู่เนืองๆ ทำทุกอย่างอย่างเป็นผู้รู้
ปีนี้วันไหว้ครู ให้โอวาทอะไร
ปีที่แล้ว โอวาท คือ เรียนรู้ชีวิต ศึกษาวิชา ลุถึงปัญญา นำพาชีวิต
พอให้ความรู้อย่างนี้ไปแล้ว ก็แค่บทท่องจำ ไม่คิดจะยกระดับจิต วิญญาณตนให้สูงขึ้น
ปีนี้จะเปลี่ยน คือ ของเก่าคงดีไว้
ปีนี้ โอวาทคือ มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังสร้างสรรค์พัฒนาให้ต่อเนื่องอยู่เนืองๆ
ทุกลมหายใจเข้า ออก / มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังมารังสรรให้เกิดพัฒนาการ
ไม่หยุดพัฒนากาย และพัฒนาใจ
ถ้าหยุด ก็ไม่ต่างอะไรกับซาก ท่อนไม้ ซากที่ยืนอยู่ ซากที่เดินอยู่ ซากที่นอนอยู่
ไร้สำนึก ไร้มโนธรรม เหลือไว้แต่..........
เพราะฉะนั้น คำโอวาทปีนี้ มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังสร้างสรรค์พัฒนาให้ต่อเนื่อง
อยู่เนืองๆ ทุกลมหายใจเข้า ออก
ชีวิตของนักบวชที่แท้จริงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ กินกาม เกียรติ ซกมก เน่าเหม็น อ้างว่า
เหนื่อยลำบาก วุ่นวาย สับสน อ้างบ่อยๆ สุดท้ายเอาตัวเองไปรอด
เพราะฉะนั้น จะทำอย่างไรให้ตัวเองรอด คนอื่นรอด คือ ไม่หยุดพัฒนาการ เราเข้าถึง
คุณ..........แล้วหรือยัง
หลวงปู่มักจะพร่ำสอนอย่างนี้ ไม่ใช่พร่ำสอนอย่างเดียว ทำให้ดูว่า ชีวิตไม่ใช่ กิน กาม เกียรติ์
ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน
เอกลักษณ์และสัญญลักษณ์อันเป็นคุณ ซึ่งต่างจากเดรัจฉาน เหนือกว่าเดรัจฉาน ที่แสวงหา
ของโปรด
ไม่ใช่มีปัญญาคิด แต่เอาตัวไม่รอด ถึงเวลาทุกข์แล้วเอาตัวไม่รอด แก้ปัญหาไม่ได้ ก็ไม่ต่าง
อะไรกับเดรัจฉาน ไปดูรังนกสิ บางชนิดสวยงาม สัตว์ 4 เท้า ปลวกมีบ้านอยู่อย่างโตกว่า
ตัวกี่เท่า
ถ้าเรายังไม่มีพัฒนาการสูงกว่าปลวก กับนก ก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน
เค้าให้เกิดมาชาตินึง ให้เท่าปลวก นก เหรอ ไม่ใช่พัฒนาสูงกว่า เท่านั้นเหรอ
หลวงปู่ถามตัวเองมาชั่วชีวิตว่า...........
คนว่าหลวงปู่จอมโปรเจค เพราะว่าช่วยทำให้เกิดพัฒนาการทางกายและใจ
ถ้าคนไม่ทำอะไร ก็ไม่ต่างกับเดรัจฉานตอนตาย ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉานรอวันตาย
คำสอนปีนี้ อาจจะดูรุนแรง แต่ถือว่าเป็นปีสุดท้าย ก็ต้องเคาะให้แรง
เรียนรู้ชีวิต ศึกษาวิชา ลุถึงปัญญา นำพาชีวิต เพียงแค่ท่อง
ยังไม่ลงมือทำเลย ยังปล่อยให้เหมือนกับหมู หมาอ้วน มันไม่ใช่อยู่เพื่อรอความตาย
พวกนี้ ใกล้ตาย จะทุรนทุราย สุดท้ายทุกข์คติเป็นที่หวัง
คนไม่ประมาท แม้ความเจ็บป่วยเกิดขึ้น เราจะมีสติ เรียนรู้อย่างเป็นผู้กระทำ ไม่ใช่
ถูกกระทำ
แม้ชีวิตหลังความตาย เราก็กำหนดได้ เพราะมีพัฒนาทางกายและใจอย่างสมบูรณ์
เหมือนรถดี เครื่องดี แถมคนขับแข็งแรงดี เชื้อเพลิงดี ก็ถึงเป้าหมาย
แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เป็นเครื่องเก่า ต้องนั่งประคอง เราหวาดผวา สะดุ้งกลัว เหมือนสุนัขขี้เรื้อน
ในหน้าร้อน ก็ไปหาที่เย็น
มีปัญหาในอินเตอร์เนท ลูกน้องวุ่นวาย
ไม่ยาก สอนให้มีปัญญา พัฒนาการ ถ้าเราจะลาออก อย่างนั้น คุณก็ไม่ต้องหายใจ
การหนี เหมือนเดรัจฉาน
เพราะว่า ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นปัญหา
ถ้าเรียนจะหนีตลอดเวลา ตัวเราคือตัวปัญหา
หลวงปู่ไม่เคยหนีปัญหา เข้าไปศึกษา แก้ไข ดวยลำแข้ง 1 ตัว 1 หัว
นี่คือ พัฒนาการอย่างหนึ่ง ชของตระกูลหนึ่ง ชื่อเรียกว่า ศากยวงศ์ วงศ์แห่งผู้กล้า
ในฐานะที่หลวงปู่เป็นผู้สืบทอดศากยวงศ์
จึงอยากจะบอกท่านทั้งหลายว่า คำปรารภข้อแรก
มีชีวิต มีลมหายใจ......
ใช้พลัง ทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาทางกายและทางใจ อย่างซื่อตรงต่อความเป็นจริง จริง
จังต่อตัวเองในการพัฒนาการ จับจ้อง
ทำอย่างไรให้มีพัฒนาการ พัฒนาการอย่างไรให้สูงกว่าเดรัจฉาน ต่อมา เรื่องที่ทำ คำที่พูด
สูตรที่คิด เหมือนเดรัจฉานไม๊
นั่นคือสัญชาตญาณ กิน กาม เกียรติ ของที่โปรด
ปลวกบางรังสร้างเท่าตึก 3 ชั้น ยืนต้องแหงนคอตั้งบ่า มันอยู่สุขสบายด้วย ข้างในเย็น
พัฒนาการสูงกว่ามนุษย์ เย็นโดยไม่ต้องใช้เครื่องเย็น
เรายัง............
2 จงตระหนักเสมอว่า กาลเวลากัดกินสรรพสัตว์ แม้ชีวิตเรา
ตอนฉันเพล ก็ถามพระด้วยกัน อายุเท่าไหร่ 72 ท่านล่ะ 74 อายุก็มากๆ กันแล้วนะ
อย่าเพิ่งตายนะ
เดี๋ยวตายก่อนแล้ว คนที่อยู่จะไปคุยกับใคร คนที่อยู่ ไม่รู้ใจ แล้วจะไปคุยอะไร แต่เวลาอยู่
ก็อย่าเผลอ
แต่ไม่ต้องไปแก้กรรมนะ ไปสแกนกรรม เพราะว่า หลวงปู่ไม่ชอบอยู่บนซากศพชาวบ้าน
อยากบอกท่านที่รักทั้งหลายว่า กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง
อย่าขาดสติ ตรึกและวิตกในรูป รส กลิ่น ก็วางๆ ลงเสียบ้าง
ตรึกในกุศลยามเช้า ยามบ่าย ยามเย็นบ้าง
ต่อมา ก็กุศลประจำสัปดาห์
ต่อมา ก็ตรึกถึงกุศลทุกลมหายใจ
จิตมีลักษณะ 4 อย่าง
รับ จำ คิด รู้
อย่าใช้ตัวรับนำตัวรู้ ต้องรู้ก่อน แล้วจึงเลือกรับว่า ของดี ของไม่ดี
ทั้งหมดจากพัฒนาการ ไม่มัวเมา ไม่ขาดสติ
ปีนี้ โอวาทมี 2 ข้อ
1 มีชีวิต มีลมหายใจ ได้พลัง ใช้พลังสร้างสรรค์พัฒนาการ
2 จงตระหนักเสมอว่า กาลเวลากลืนกินสรรพสิ่ง เห็นโทษ เห็นภัยของกาลเวลาและความ
มัวเมาของความประมาท
สุดท้ายจะจมอยู่ในบ่อทุกข์ มีทุกข์........
12.10 น.
พิธีขอขมา ถวายตัวเป็นศิษย์และ
เมื่อปรารถนาจะอยู่ใกล้ครู ก็อยากจะฝากพวกท่านให้ตระหนักรู้อยู่เนืองๆ ว่า ครูคนนี้ไม่ได้
ต้องการศิษย์ มีแต่ศิษย์ต้องการครู
ครูคนนี้มีชีวิตเพื่อไหว้ตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครมาไหว้ มาเคารพ
อาจจะเกิดจากผลแห่งการไหว้ตัวเอง จนเป็นที่ประจักษ์
เลยเป็นความต้องการของชนทั้งไกลและใกล้.........
ขึ้นอยู่กับว่า ท่านผู้นั้นสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อครูผู้นี้ไม่ต้องการศิษย์ แต่เผอิญได้ศิษย์ที่ไม่มีเงื่อนไข ข้อแม้ ข้อจำกัด ครูคนนี้ก็จะทำ
ทุกวิถี แม้ป่นเป็นแป้ง ก็จะทำทุกวิถ๊
ชั่วชีวิต ครูคนนี้ก็จะทำ
เหมือนกับไวยากรณ์ที่เขียนไว้ว่า ลูกรัก ชั่วชีวิตนี้ของพ่อ ไม่ต้องการ
ศิษย์.............
ชั่วชีวิตของพ่อ ไม่อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ความใหญ่ยิ่งของพ่อก็พอแล้ว ใหญ่ยิ่งต่อพระ
ธรรม...
อดอยากในป่า ดีกว่าเป็นหมาในบ้าน นี่คือสันดานของครูคนนี้
ชั่วชีวิตของพ่อ ชีวิตคือการต่อสู้ ปัญหาคือ การเรียนรู้ ศัตรู คือ ครูของเรา
เหล็ก
สถานการณ์ สร้างวีระบุรุษ เรื่องที่ยากที่สุด สร้างมิตรแท้
ถ้าให้พ่อเลือกอยู่กับมิตรและศัตรู ...
เหล่านี้เลยทำให้ศิษย์กลายเป็นศัตรู
เมื่อไหร่ที่ศิษย์กับครูเป็นมิตร เมื่อนั้นเป็นความฉิบหาย
เป็นศิษย์กับครูที่สอนวิชาแห่งความเป็นจริง คือ ชีวิตที่อยู่ในทำนองครองธรรม ที่เชื่อว่า
สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ดีชั่วเลวหยาบ
เชื่อว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ชีวิตที่อยู่ในทำนองครองธรรม ที่คิดให้ได้ และไม่คิดเป็นอื่นว่า ทุกสิ่งเป็นทุกข์ ทุกข์มาจาก
เหตุ
ถ้าคิดให้ได้อย่างเนืองๆ นี่คือ ศิษย์ของครู
จงมีชีวิต ทำ พูด คิด ให้ได้อยู่ในทำนองครองธรรม
ถ้าทำได้ จึงจะเรียนกรรมฐานขั้นสูง
วันพรุ่งนี้ จะเริ่มสอน ก็คือ
พระพุทธเจ้า ไม่มีอะไร
พระพุทธเจ้า ไม่ได้อะไร
พระพุทธเจ้า เป็นตัวแทนของผู้ไม่เหลืออะไร
สุดท้าย พระพุทธเจ้า คือความว่างอย่างไร้ขอบเขต
นั่นคือ พระพุทธเจ้าที่แท้จริง
นี่คือ กรรมฐานของครูคนนี้ในปีสุดท้ายแห่งการไหว้ครู
จงเข้าถึงพระพุทธเจ้าที่..... และว่างอย่างไร
ขอบเขต......
ใน......