11.07.2553 14.45 น. วัดอ้อน้อย
ธรรมะกลางเดือน – หลวงปู่พุทธะอิสระ
เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนคนดีที่รักทุกท่าน
นั่งฟังแนวทางเศรษฐีใหม่
เล่าให้ฟังตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ (5-10 ก.ค. 2553 หลวงปู่ไปเวียดนาม)ได้ประสบการณ์ที่ยากลืมเลือน ........นั่งวงเหล้า
เอาตังค์ไปจ่ายเค้า ไปหาช่างที่สมาคมช่าง
รัฐบาลรับรองดูแลสมาคม เราไปหารองนายกสมาคม
ลงเครื่องบินฮานอย มีรถมารับ
คุยกันผ่านล่ามที่เราจ้างไป
เค้าจะจ้างเอาอะไรเยอะแยะ
มีคนหนึ่งพูด หลายคนลงนั่ง
อ้างประวัติ อ้างอาชีพ
ฟังอยู่พักใหญ่ๆ ถามว่าคุณจะเอาเท่าไหร่
บอกพวกที่ไปด้วยก่อนพบพวกนี้ว่า เดี๋ยวกูต้องเจอพิธีเลี้ยงน้ำชา
มิน่าสหรัฐแพ้เวียดนาม
เค้าบอกว่าจะเอา สามแสน
บอกไม่ว่า ทำอะไรได้บ้าง ค่าติดต่อคนงาน ค่าเดินทาง ค่าทำเรื่อง
เค้าเชิญกินข้าวด้วย หมดไปชั่วโมงกว่า
ใกล้เที่ยง กูขอกินข้าวก่อน เรียกอาหารมา
สมาคมเค้าคือตึกแถวเล็กๆ เปิดพัดลม แอร์ไม่มี ปิดหน้าต่าง
คนเวียดนามดูดบุหรี่ทุกคน
ยกกับข้าวมา พวกนี้บอกให้จัดที่ต่างหาก
จะมีผู้หญิงเข้าเสิพ กูเป็นอะไรขี้ตอมแมลงวัน
เค้ามีพระมาด้วย พระ 4 องค์
ช่างฝีมือบางคนมาจากใกล้ๆวัดที่เค้าอาศัย
สักพักหลวงพี่รินเหล้าแจก รับเองด้วย แถมรินให้เราอีก
คนเวียดนาม นอกจากชา บุหรี่ ยังมีเหล้า
คุยไปคุยมากินข้าวได้สักพัก คนทางโน้นคุยไป กินไป
สุดท้าย สามแสน 17 คน มันเว่อร์ไป เพราะว่าคุณไม่ได้ประกันความเสี่ยงให้ผู้จ้าง ผู้รับจ้าง
เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องทำอะไร แค่คุณบอกมาว่ามีคนงานกี่คน
เดี๋ยวฉันเอาคนของฉันทำ
เค้าก็ยังบอกว่า สามแสน
คบกันด้วยใจ เกี่ยวอะไรกับสามแสน
ยังไม่เห็นคนงาน เราไม่โง่ให้สามแสน
พอล่ามแปลจบ มันลุกขึ้นยืน ตบโต๊ะ เลิกไม่เอา
สุดท้ายอ้ายนั่นไปแล้ว คนที่เหลือเห็นหลวงปู่หน้าเฉย
ถามว่าสมาคมเลี้ยง ถ้าเป็นตัวแทนของรัฐบาล
ถ้ารัฐบาลทำแบบนี้ น่าอาย เค้าก็เลยขอโทษ
ฉันจะขอไปดูคนงานก่อน แล้วจะบอกว่า เอา ไม่เอา
ถามว่าใครจะพาไป ติดต่ออีกวัน รุ่งขึ้นเราจะได้คนงาน คิด 150000-200000
บอกไม่เอา คิดเป็นหัว
คิดหัวละ 200 วอน
คิดยาก
กูให้มึง แสนหนึ่งแล้วกัน
หนึ่งแสนต้องทำอุบัติเหตุให้ลูกน้องคุณด้วย จะหักจากลูกน้อง
กูไม่โง่ โง่เป็นอาจารย์มึงไม่ได้หรอก
คุณยิ่งเรียกมากเท่าไหร่ ลูกน้องคุณจะยิ่งแย่ เพราะฉันจะหักจากลูกน้อง
ตกลงแสนหนึ่ง เหมาหมด แต่เครื่องบินเราออก วันที่ 19 นี้
งานนี้ไม่ได้หาคนงานอย่างเดียว
ไปดูลู่ทางขายหอมจัง
ดูว่าพระไม่สะดวก แต่มูลนิธิ 2 ปีที่ผ่านมาไม่ทำอะไร
ใน line สินค้าภายนอก 20 กว่ารายการ
ดอกบัวคู่ ขายยาสีฟันอย่างเดียว สบู่ยังทำไม่ได้
ทุกวันนี้ ขายยาสีฟันอยู่ แพงมาก กล่องละ 70-80 บาท เพราะว่าเค้าลงโฆษณามาก
คราวที่แล้วหลวงปู่เอายาสีฟันกับยาบ้วนปากไป
เค้าชอบ เพราะกลิ่นบุหรี่หาย คราบบุหรี่ไม่มี
แต่สั่งซื้อทีละ โหล สองโหล
เราเห็นลู่ทาง
ไปดูช่างทำรองเท้า ให้ได้รองเท้าเหมาะกับสรีระ
ต้องตัดคู่ใคร คู่มัน
เวียดนามมีไฟเขียวในใจ นั่งข้างหน้าเหยียบเบรกตลอด มอเตอร์ไซแยะมาก
รถติดเป็นชั่วโมง แววอดอาหาร
ที่จริงข้างหลังมีอาหารอยู่หลังรถ แต่เราไม่พูด
อากาศเวียดนาม 40 องศา
ประสบการณ์อีกอย่างคือ ไม่ได้กินข้าว แต่ไปดูเค้ากินข้าว
เกิดมาในชีวิต ต้องไปดูเค้ากินข้าว
ยังมีหน้ามาถามว่ากินไม๊
พระเวียดนามกิน 3 มื้อ มื้อไหนหิวก็กิน
รวมๆ สรุป ได้เห็นว่า ไปเที่ยวนี้ไม่ได้เสียเที่ยว
ได้ประสบการณ์ตรงว่า การเป็นพระในวินัย อยู่ต่างเมือง ไม่ได้อยู่ง่าย
แสดงว่าไฟกูแรง กูก็นั่งคอยหลบ
แต่ลาว พม่า ไม่ค่อยเข้าใกล้พระ
แต่มีคนจากอินโดนีเซีย กับสิงคโปร์ จะใส่ยี่ห้อเค้า
เราทำด้วยตัวของเราเอง เรารู้ว่าของดีมีคุณภาพเป๋นอย่างไร
หลวงปู่ให้ idea ว่า ปีแรก อย่าคิดว่าจะได้กำไร
กำไร คือ คนได้ใช้สินค้า
ใช้ศรัทธาเป็นตัวนำการค้า
ทุกเย็นหลวงปู่จะสอนผู้ค้า ให้มีจิตใจโอบอ้อมอารี
คนเวียดนามต้องซื้อด้วยเงินสดตลอด
เราต้องไปทำอะไรที่สวนต่อโลก
หาคนไว้ใจได้ ให้เค้าให้เครดิต
ทุกเย็น หลวงปู่จะเฝ้าห้อง
พอกลับมาก็จะมาติว วิเคราะห์ตลาด
เหมือนหลายหน้าที่ในคนเดียว
ส่วนหนึ่งก็ภูมิใจ เมื่อก่อนมีเซลล์ ขายแว่นตามาบวช
หลวงปู่ช่วยจนได้เป็นเจ้าของโรงพลาสติก
คิกถึงก็มีความสุข ที่ทำให้คนทำการค้าเจริญรุ่งเรือง
ถามว่าทำไมเราไม่ใช้มืออาชีพ
บอกแล้วว่า วิถีการตลาดของโลกนี้มี 2 ประการ
-ของแย่ ราคาถูก
-ของดีราคาแพง
อย่าได้เปรียบ ได้ไม๊ แต่ก็อย่าเสียเปรียบ
เราช่วยกันให้สินค้าดี ราคาถูกลง
สร้างศรัทธานำสินค้า
หอมจังหลวงปู่ ใช้แล้วมันติด
ของทุกอย่างมีคุณค่า คนได้ใช้ ก็กำไรแล้ว
คนกระจายสินค้า ต้องมีคุณธรรมในจิตใจ
จะเอาการค้านำศาสนา
เวียดนามเอาศาสนาไว้ไหว้ แต่ไม่ได้เอาไว้พึ่งพา แก้ปัญหาทางอารมณ์
หลวงปู่คิดว่าจะใช้การค้านำการศาสนา
ให้มีศรัทธาอย่างซื่อตรง
เค้ายังมีการไหว้พระพอสมควร
มีโอกาสไปเยี่ยมวัดที่มีพระเผาตัวตาย
มีพระแก่นั่งรถจากฮานอยไปโฮจิมิน 8 ช.ม.
เผาตัวเอง ไม่ยอมที่นายกฯ เวียดนามให้ประชาชนถือคริสต์
เผาตัวเอง ตัวไหม้ แต่หัวใจไม่ไหม้ ก็ยังอยู่ ถือโอกาสไปเยี่ยม
คิดว่าวิถีคิดการตลาด การเข้าถึงผู้ค้า
เจตจำนงหลวงปู่ต้องการกระจายสินค้าสู่ผู้ใช้โดยตรง โดยไม่ใช้ของแพง
ดอกบัวคู่ 3 ปี แต่ยังขายไม่ได้ เพราะแพง
กำไรของหลวงปู่คือ คนได้ใช้สินค้า
การลงทุนมีความเสี่ยง เพราะว่าเราต้องไปปล่อยเครดิต
ในเวียดนามไม่มี แต่เราจะทำ
เปอร์เซ็นต์ในกำไรชองผู้ค้า จะลดลงตามปริมาณเครดิต
สรุปกูทำทุกเรื่อง แม้วิธีคิดว่าอย่าตามตูดคนอื่น ทุกเรื่อง
ตอนนี้มีตัวแทนที่ติดต่อผู้ค้า
แต่ยังเจรจาข้อตกลง
แต่อยากบอกลูกหลาน อย่าหวังกำไร
วันต่อมาหลวงปู่ได้มีโอกาสไปเดินตลาด
สินค้าสมุนไพรมีอยู่ไม่เกิน 12 ตัว ไม่มากเหมือนจีน
เพราะว่าเค้าไม่ค่อยเข้าใจสมุนไพร
คนเวียดนามไม่มีคนอ้วน ขยัน อดทน
หาความอ้วนยาก ส่วนใหญ่ผอมแต่แข็งแรง ขยัน ค่อยข้างเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ต้องให้เค้าเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
มีวิธีกระจายสินค้าอยู่ 2 อย่าง
ที่จริงหลวงปู่จ้างคนมาทำได้ จ้างซีอีโอ หาบุคลากร
แต่มาคิดอีกที กูมีลูกหลานทั่วแผ่นดิน
ก็ต้องดูแลใส่ใจ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เป็นภูมิปัญญาที่สั่งสมมาแต่อดีต ก็ต้องเป็นสมบัติของแผ่นดิน
เปิดโอกาสให้ถาม 5 ข้อ
ปุจฉา แม่ป่วยหนัก ถ่ายท้อง อาเจียน เกลือแร่ต่ำ หมอให้อาหารทางสายยาง
วิสัชนา ที่จริงเป็นเรื่องอันตราย ที่ต้องให้คนแก่มาต่อสายยาง
อย่าทำให้มันดูแย่ขนาดนั้น ไม่สมควรเลย ทำให้คนไข้เสียกำลังใจอย่างยิ่ง ไม่แนะนำ
แค่ถ่าย 3 สัปดาห์ ถ้ายังกลืนน้ำข้าวได้
วิธีแก้ไม่ยาก คือ หาปลาทะเลที่ไม่ผ่านการแช่ฟอมาลีน หรือเอาดีเหลือมาสตุ
ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่น ให้ดื่ม มื้อต่อมาสลับ น้ำผึ้ง กับน้ำข้าว หรือนมแพะ
นมแพะถ้าหาไม่ได้มาเอาที่วัด ดื่มสลับกัน แค่ 3 วัน ก็จะดีขึ้น
ไม่แนะนำยาสมุนไพร เพราะมันจะบีบกระเพาะ
อย่างพวกเราอายุเหลือน้อย แค่เครียดลงกระเพาะ ก็ถ่ายแล้ว
ปุจฉา ผ่าตัดไต ข้างซ้าย เมื่อ 17 ก พ 53 อายุ 70 ปี มีอาการเจ็บแผล บวมท้องข้างซ้าย หมอบอกว่า เป็นเนื้องอก นัดทำ MRI ต ค 53
วิสัชนา โดนหลอกตัดไตไปขายแดกแล้วมั๊ง ตอนเซ็นต์ ให้เค้าตัด ต้องดูว่าสาเหตุอะไร
อย่างนี้แน่นอนเลยว่าขายไตกิน ไปหาสาเหตุจากโรงพยาบาล ยอมไม่ได้
หมอผ่าตัดหาเงินได้ดี ไม่สนใจว่างอกไม่งอก
คนไข้มาหาหลวงปู่ หมอจะตัดทั้งนั้น ตัดแล้วงอกไม่ได้
นี่น่าจะเสียไตไปแล้ว กลับไปโรงพยาบาล หาสาเหตุทำไมถึงตัดไต
อย่าปล่อยให้คนพวกนี้ลอยนวล
ถ้าให้หลวงปู่วิเคราะห์ น่าห่วง มันขายกันไม่ใช่ แสนสองแสน เป็นล้าน
คนมีอันจะกินเท่านั้นที่จะได้เปลี่ยนไต
ขอร้องเถอะ อย่าให้หมอตัด
ปุจฉา
วิสัชนา โรคบางโรคหาสาเหตุไม่ได้ ต้องรออาการปรากฏก่อนอาจเป็นปี
บางครั้งจิตใจเครียด เลือดสูบฉีดไม่ได้ นานๆก็ซีดผอมได้ ต้องเอามาตรวจ
ปุจฉา ฝึกเดินกรรมฐานที่บ้าน ครั้งละ 1 ช.ม. ขณะเดินไม่เหนื่อย เดินแล้วเหนื่อย
วิสัชนา ต้องดูว่าความดันปกติไม๊ ชีพจรปกติไม๊ ต้องปรับสมดุล
บางทีเราไม่ได้ดูสภาพร่างกายตัวเอง นอนไม่พอ พักผ่อนไม่พอ
ช่วงเดิน สุขได้เสพจากกรรมฐาน
แต่พอเสร็จแล้วเหนื่อย ก็ต้องหากรรมวิธี
ช่วงหลวงปู่เจ็บหลัง ระหว่างเดินรู้สึกดี แต่หลังจากเดิน จะรู้สักเจ็บ
ต้องดูร่างกายด้วย อาจจะรับน้ำหนักมากไป
สรุป อย่าหักโหม อย่ารวดเร็ว ดูว่าเราทนได้แค่ไหน
หมายเหตุ วันนี้เป็นวันแรกที่หลวงปู่ให้รับพระหลวงพ่อผาสุขปิดตาถือไว้ระหว่างปฏิบัติ
คำภาวนาที่หลวงปู่ให้พวกเราภาวนาขณะกำองค์พระ ขณะจิต ปราณ กาย รวมเป็นหนึ่ง
โอม อะ อุ มะ นะ โม พุท ธา ยะ
ปัญ จะ พุท ธา นะ มา มิ หัง
สัพ พะ สิ ท ธิ ภะ วัน ตุ เม
หลังปฏิบัติ คืนพระที่หลวงพี่