เอวัมเม  สุตัง            
    อันข้าพเจ้าคือ พระอานนทเถระ   
    ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ว่า             
เอกัง  สะมะยัง  ภะคะวา    
    สมัยหนึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
สาวัตถิยัง  วิหะระติ  เชตะวะเน                            
    เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันวิหารอาราม
อะนาถะปิณฑิกัสสะ  อาราเม            
    ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี   ใกล้เมืองสาวัตถี
อะถะ  โข  อัญญะตะรา  เทวะตา                            
    ครั้งนั้นแลเทพยาดาองค์ใดองค์หนึ่ง
อะภิกกันตายะ  รัตติยา    
    ครั้นเมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว
อะภิกกันตะวัณณา        
    มีรัศมีอันงามยิ่งนัก
เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา              
    ยังเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง
เยนะ  ภะคะวา  เตนุปะสังกะมิ       พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่โดยที่ใด       
                                                ก็เข้าไปเฝ้า ณ ที่นั้น
อุปสังกะมิตวา  ภะคะวันตัง          ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว   จึงถวาย
อะภิวาเทตวา                            อภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
เอกะมันตัง  อัฏฐาสิ                  ได้ยืนอยู่ในท่ามกลางส่วนข้างหนึ่ง
เอกะมันตัง  ฐิตาโข สาเทวะตา     ครั้นเทพยดานั้น    ยืนอยู่ในที่ควรส่วน
                                                ข้างหนึ่งแล้วแล
ภะคะวันตัง  คาถายะ อัชฌะภาสิ    ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า    ด้วยคาถาว่า...            

        พหู  เทวา  มะนุสสา  จะ      หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก
มังคะลานิ  อะจินตะยุง                ผู้หวังความสวัสดี
อากังขะมานา  โสตถานัง            ได้คิดหามงคลทั้งหลาย
พรูหิ  มังคะละมุตตะมัง               ขอพระองค์จงเทศนามงคลอันสูงสุด
    อะเสวะนา  จะ  พาลานัง         ความไม่คบชนพาลทั้งหลาย 1
ปัณฑิตานัญจะ  เสวะนา              ความคบบัณฑิตทั้งหลาย 1
ปูชา  จะ  ปูชะนียานัง                ความบูชาชนควรบูชาทั้งหลาย 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                 ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ปะฏิรูปะเทสะวาโส  จะ            ความอยู่ในประเทศอันสมควร 1
ปุพเพ  จะ  กะตะปุญญะตา            ความเป็นผู้มีบุญ  อันทำแล้วใน
                                                 กาลก่อน 1
อัตตะสัมมาปะณิธิ  จะ                  ความตั้งตนไว้ชอบ 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    พาหุสัจจัญจะ  สิปปัญจะ          ความได้ฟังแล้วมาก 1  
                                                 ศิลปศาสตร์ 1
วินะโย  จะ  สุสิกขิโต                 วินัยอันชนศึกษาดีแล้ว 1
สุภาสิตา  จะ  ยา  วาจา             วาจาอันชนกล่าวดีแล้ว 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                 ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    มาตาปิตุอุปัฏฐานัง                ความบำรุงมารดาและบิดา 1
ปุตตะทารัสสะ  สังคะโห              ความสงเคราะห์ลูกเมีย 1
อะนากุลา  จะ  กัมมันตา              การงานทั้งหลายไม่อากูล 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                 ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ทานัญจะ  ธัมมะจะริยา  จะ       ความให้ 1  ความประพฤติธรรม 1
ญาตะกานัญจะ  สังคะโห              ความสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย 1
อะนะวัชชานิ  กัมมานิ                  กรรมทั้งหลายไม่มีโทษ 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    อาระตี  วิระตี  ปาปา               ความงดเว้นจากบาป 1
มัชชะปานา  จะ  สัญญะโม            ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา 1
อัปปะมาโท  จะ  ธัมเมสุ               ความไม่ประมาทในธรรม
                                                 ทั้งหลาย 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    คาระโว  จะ  นิวาโต  จะ           ความเคารพ 1  ความไม่จองหอง 1
สันตุฏฐี  จะ  กะตัญญุตา               ความยินดีด้วยของอันมีอยู่ 1     
                                                 ความเป็นผู้รู้อุปการะอันท่านทำ
                                                 แล้วแก่ตน 1
กาเลนะ  ธัมมัสสะวะนัง                 ความฟังธรรมโดยกาล 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ขันตี   จะ  โสวะจัสสะตา          ความอดทน 1  ความเป็นผู้ว่าง่าย 1
สะมะณานัญจะ  ทัสสะนัง              ความเห็นสมณะทั้งหลาย 1
กาเลนะ  ธัมมะสากัจฉา                ความเจรจาธรรมโดยกาล 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                   ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ตะโป  จะ  พรัหมจะริยัญจะ        ความเพียรเผากิเลส 1
                                                  ความประพฤติอย่างพรหม 1
อะริยะสัจจานะ  ทัสสะนัง               ความเห็นอริยสัจทั้งหลาย  1
นิพพานะสัจฉิกิริยา  จะ                 ความทำพระนิพพานให้แจ้ง 1
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    ผุฏฐัสสะ  โลกะธัมเมหิ             จิตของผู้ใด  อันโลกธรรมทั้งหลาย
จิตตัง  ยัสสะ  นะ  กัมปะติ              ถูกต้องแล้วย่อมไม่หวั่นไหว
อะโสกัง  วิระชัง  เขมัง                ไม่มีโศก ปราศจากธุลีเกษม
เอตัมมังคะละมุตตะมัง                  ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด
    เอตาทิสานิ  กัตวานะ              เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย
                                                  กระทำมงคลทั้งหลายเหล่านี้แล้ว
สัพพัตถะมะปะราชิตา                    เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง
สัพพัตถะ  โสตถี  คัจฉันติ              ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง
ตันเตสัง  มังคะละมุตตะมันติ           ข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุดของ
                                                 เทพยดา  และมนุษย์ทั้งหลาย
                                                  เหล่านั้นแล.