นับตั้งแต่องค์พระบรมศาสดาทรงตรัสรู้ และทั้งแสดงปฐมเทศนาจนได้ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ มาเป็นปฐมอริยสาวกแล้ว
ทรงพิจารณาว่าจะยังให้พุทธธรรมให้ขจรขจายไปได้อย่างไร
จึงได้ทรงเห็นว่า เจ้าลัทธิบูชาไฟทั้ง ๓ คือ อุรุเวลกัสสปะ นทีกัสสปะ และคยากัสสปะ ซึ่งมีศิษย์ติดตามถึง ๑ พันคน มาเป็นกำลังหลักในการเผยแผ่พุทธธรรม
หลังจากทรงได้ชฎิลทั้ง ๓ และสานุศิษย์ มาเป็นพุทธสาวกแล้ว จึงทรงเสด็จไปโปรดพระราชาพิมพิสารจอมราชาแห่งแคว้นมคธ
พระเจ้าสุทโธทนะราชาแห่งกรุงกบิลพัสดุ์
พระเจ้าปเสนทิโกศลจอมราชาแห่งแคว้นโกศล
พระเจ้าจัณฑปัชโชติจอมราชาแห่งแคว้นอวันตี
พระเจ้าอุเทนจอมราชาแห่งแคว้นวังสะ
เหลานี้คือวิธีเผยแพร่พระพุทธธรรมคำสั่งสอนขององค์พระบรมศาสดา
แม้พระธรรมวินัยได้ตั้งมั่นอยู่ในแว้นแคว้นต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับของมหาชนคนทั้งในและนอกชมพูทวีปแล้ว องค์พระมหากษัตริย์ ราชา ผู้ทรงเลื่อมใส ศรัทธา ในพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดาก็ทรงทำหน้าที่ประกาศตัวเป็นพุทธมามกะ ทรงปวารณาตนเป็นผู้อุปถัมภ์ บำรุงพระพุทธศาสนา สืบๆ กันมาจนถึงพระเจ้าอโศกมหาราชหลังจากพระบรมศาสดาทรงปรินิพพานแล้วเมื่อประมาณ ๓๐๐ กว่าปี
พระพุทธศาสนาก็เจริญ ขจรขจายมาได้ด้วยอาศัยร่มพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์ในแต่ละแผ่นดิน
หมู่คณะสงฆ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันส่วนใหญ่ ต่างพากันระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่องค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกยกย่องพระพุทธศาสนามายาวนานสืบๆ มา
โดยเฉพาะในแผ่นดินไทย ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า ที่พระพุทธศาสนายังมีอยู่ เจริญอยู่ ทั้งศาสนธรรม ศาสนทายาท และสาธารณวัตถุ ล้วนเกิดมาจากการสนับสนุน รักษาสืบต่อมาจากพระมหากษัตริย์เป็นกำลังในการผลักดันทั้งสิ้น
แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน อนิจจังไม่เที่ยง นักบวชของพระพุทธศาสนาทั้งพระ ทั้งเณร บางจำพวก ผู้มีคุณธรรม ความกตัญญู กตเวทิตาอันเสื่อมถอยต่างพากันดาหน้าออกมาย่ำยีวิพากษ์วิจารณ์ แซะ แกะ กัด กร่อน บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เสื่อมถอย
ทั้งที่ทุกๆ พระองค์ทรงมีอุปการคุณต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งมาเป็นเวลาช้านาน
นักบวชพวกนี้คือพวกหนอนบ่อนไส้ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างได้วางใจ
ยังจำได้ว่า เมื่อครั้งองค์พ่อหลวง ร.๙ ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี วัดอ้อน้อย มูลนิธิธรรมอิสระ โดยพุทธะอิสระได้ขอพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวชเพื่อนำมาขยายให้ใหญ่ขนาด 32x42 นิ้ว พร้อมใส่กรอบ แล้วจัดพิธีเทวาพิเศษ โดยมีเจ้าคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์มาเป็นประธาน แล้วแจกถวายไปตามวัดต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตทั้ง ๑๘๐ ประเทศ
หลังจากพุทธะอิสระนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปถวายให้แต่ละวัดทั่วประเทศไทย ๓๕,๐๐๐ แล้วต่อมาให้ลูกศิษย์และตนเองไปเยี่ยมตามวัดต่างๆ ได้เห็นบางวัดนำเอาพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวชไปซุกไว้ใต้บันไดบ้าง ในห้องเก็บของบ้าง
พอมีคนเข้าไปขอซื้อก็นำออกมาขายหน้าตาเฉยเลย
เช่นนี้หากใครอยากจะพิสูจน์ว่า วัดไหนไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์พ่อหลวงทรงผนวช หรือมีแต่เอาไปซุกไว้ที่ที่ไม่เหมาะสม ก็ให้รู้ไว้ว่า นั่นคือที่อยู่ของพวกหนอนบ่อนทำลายสถาบันและพระพุทธศาสนา
 
พุทธะอิสระ