ประเทศไทยมีประชาชนนับถือพระพุทธศาสนา ประกาศตนเป็นพุทธมามกะ พุทธบริษัทกันเกือบทุกคน
แต่อนิจจา กลับทำได้แค่มียี่ห้อเป็นพุทธเท่านั้น หาได้เข้าถึงซึ่งความรู้ การตื่น ความเบิกบานตามยี่ห้อที่ตนมีไม่
กี่ครั้ง กี่หน กี่คน กี่เหตุการณ์แล้ว ที่พุทธบริษัทจำกัดทั้งหลายต้องซึมเศร้า ปวดร้าว สิ้นหวังที่ถูกพวกอลัชชีเข้ามาหลอกล่อ สร้างภาพมายา ลวงตา ปิดบังสติปัญญาให้ต้องลื่นไหล ถลาไปเคารพศรัทธาในการอวดอ้างสร้างมายา โฆษณาความวิเศษ บริสุทธิ์บริบูรณ์ของตนเอง ด้วยกลอุบาย และแสดงมายาการจนโลกสมมุติหลงเชื่อ
กี่ครั้ง กี่คน กี่เหตุการณ์แล้ว ที่ถูกอลัชชีแสดงมายาล่อลวง ครอบงำ ทำไมบรรดาพุทธบริษัทจำกัดทั้งหลายถึงได้ไม่จดไม่จำกันบ้างเลย
แม้จะอ้างว่าตนโดนหลอก ตนเป็นเหยื่อก็ตามที
แต่ในมุมกลับกัน การที่ท่านทั้งหลายไปกราบไปไหว้ ไปศรัทธา โดยขาดสติปัญญาพิจารณาใคร่ครวญ
มันก็เท่ากับการสนับสนุนให้อลัชชีทั้งหลายเหิมเกริม กระทำผิด พูดผิด คิดผิด โดยมีบรรดาพุทธบริษัทจำกัด ผู้ขาดสติปัญญาทั้งหลายเป็นผู้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือ
พอเรื่องความเลวร้ายถูกเปิดเผย แดงขึ้นมาก็พากันมานั่งซึมเศร้า สิ้นหวัง หมดศรัทธา อมทุกข์ เบื่อหน่าย
ถามกลับไปว่า ใครเป็นคนทำ
หากพุทธบริษัททั้งหลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ใครมันจะมาสร้างมายาหลอกลวง ครอบงำเราได้
หากจะถามกลับมาว่า แล้วควรรู้อะไรเล่า
คำตอบคือ ก็รู้จักว่าโลกนี้มันมีอยู่สองอย่างคือ
โลกสมมุติ ซึ่งก็ต้องใช้หลักการแสดง การสร้าง การสั่งสม การเสแสร้ง การเสพ จึงจักดำรงอยู่ได้
ต่อมาก็ต้องรู้หลักของโลกปรมัติว่าทุกสิ่งมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอยู่จริง
แล้วใช้หลักนี้หันไปมองโลกสมมุติที่ดำรงอยู่ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเนืองนิจ
เมื่อรู้ได้ดังกล่าวมานี้ชีวิตจิตวิญญาณ ก็จะตื่นหลุดพ้นจากการครอบงำใดๆ ของโลกทั้งสองในทุกกรณี
จนเบิกบาน แช่มชื่น แจ่มชัด จนเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทุกชนิด
สรุปความว่า ผู้ที่เป็นพุทธบริษัทที่แท้จริงนั้น เขาต้องรู้เท่าทันในโลกสมมุติและโลกมายา
ตื่นจากการถูกครอบงำ และหลงผิด
เบิกบานจากการวาง ว่าง ดับ เย็น อย่างมีเสรีภาพ และอิสระในทุกลมหายใจ โดยมิต้องมุ่งหวังไปพึ่งพาอิงอาศัยในมายาการใดๆ แม้แต่มนุษย์ พรหม มาร และสิ่งอื่นใด
ดังบทโศลกที่เขียนเอาไว้เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ว่า
ลูกรัก
เจ้าจักสำคัญความนี้เป็นไฉน
คนที่ไม่รู้ธรรม ไม่เห็นธรรม
ไม่เข้าถึงธรรม ไม่มีธรรม
ย่อมไม่หยุด แสวงหา
ผู้ที่รู้ธรรม เห็นธรรม
เข้าถึงธรรม มีธรรม
ย่อมอิ่มเต็ม สงบเย็น อยู่เนืองนิจ
พุทธะอิสระ