ตอนที่แล้วจบลงตรงที่ ตอบปัญหาอาคันตุกะยามราตรีที่สงสัยว่า พุทธะอิสระปฏิบัติในทศบารมีทั้ง ๑๐ ประการได้อย่างไร เห็นท่านมีชีวิต ใช้ชีวิตเหมือนปกติ แล้วจักช่วยเหลือวรรพสัตว์ได้อย่างไร
ตอนที่แล้วจึงตอบมาถึง สัจจะบารมี
วันนี้มาตอบในข้ออธิษฐานบารมี
 
ตอบ :
การตั้งความปรารถนาเอาไว้ในใจ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในจิตใจ แม้ที่สุดการตั้งวิธีคิด วิธีทำ วิธีพูด รวมทั้งข้อปฏิบัติที่เคร่งครัดชัดเจน สร้างความเจริญก้าวหน้า พัฒนากายจิตให้บรรลุ วัตถุประสงค์ในแต่ละวัน เพื่อเป้าหมายสูงสุดในบันปลายสุดท้ายของชาติภพ
การทั้งหมดนี้ต้องทำควบคู่ไปกับสัจจะบารมีถึงจะสำเร็จประโยชน์สมปรารถนา เป็นรูปธรรมจับต้องได้จริง ดังที่ตั้งไว้ในใจ เช่นนี้จึงได้ชื่อว่า บำเพ็ญอธิษฐานบารมี
 
ตอบ :
แผ่เมตตาปรารถนาให้สรรพสัตว์ทั้งปวงเป็นสุข สัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์พร้อมทั้งเพียรพยายามทำทุกวิถีทางที่สามารถช่วยเหลือ เกื้อกูลอนุเคราะห์แก่เพื่อนสรรพสัตว์ผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย
แม้ที่สุดต้องมีเมตตาต่อตนเองไม่ทำ ไม่พูด ไม่คิดให้เป็นเหตุให้ตนเองต้องได้รับทุกข์ โทษภัยจากการกระทำ พูด คิดของตนเอง เช่นนี้จึงได้ชื่อว่า เป็นผู้บำเพ็ญเมตตาบารมี รวมทั้งต้องมีเมตตาได้แม้กระทั้งผู้ที่เป็นศัตรูและคิดร้ายต่อเรา
 
ตอบ :
การวางเฉยต่อเหตุแห่งการบีบคั้นของอารมณ์และบีบคั้นทางกายเข้ารุมเร้า หลอกล่อ ทำร้ายทางจิตใจ
รวมทั้งสิ่งที่รุมเร้าทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์กุศลหรืออกุศล ก็ไม่ควรปล่อยให้มาทำให้จิตใจกระเพื่อม
แม้จักถูกรุมเร้า รุมทำร้ายทั้งทางกาย ทางจิตใจ ก็ควรรักษาจิตวางเฉย
จิตตั้งมั่นอยู่ในอุเบกขารมณ์ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกบุคคล และทุกเรื่องราว ดังคำโศลกที่กล่าวเอาไว้ว่า
 
ลูกรัก
เจ้าจงอย่าฝากชีวิต
เอาไว้บนฟองน้ำลาย
ที่กระดกอยู่บนปลายลิ้นชาวบ้าน
 
ลูกรัก
สัจจะและความจริงใจ
คือเครื่องเสริมสร้างบุคลิกภาพ
และความสำเร็จ
เหล่านี้คือชีวิตของการบำเพ็ญโพธิบารมีของพุทธะอิสระ
 
พุทธะอิสระ