ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่พราหมณ์ทั้ง ๘ ที่ได้รับบัญชาจากองค์ราชากาลิงคะ เจ้านครทันตปุระ ให้ออกเดินทางมาส่งพระราชสาส์น เพื่อเจรจาขอพญาช้างมงคลอันมีนามว่า อัญชนาสภะ เพื่อทำให้ฝนฟ้าตกลงมา และขับไล่ภัยทั้ง ๓ ที่กำลังครอบงำชาวเมืองทันตปุระ เป็นเหตุให้ชาวเมืองต้องรับทุกข์ยากเดือดร้อน จากความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บ
ข่าวนี้ล่วงรู้ไปถึงชาวเมืองกุรุ จึงพากันสกัดขัดขวาง ต่อต้าน ไม่ให้พราหมณ์ทั้ง ๘ ได้เข้าเฝ้าองค์ราชากุรุราช
พราหมณ์ทั้ง ๘ จึงปลอมตัวเป็นชายเร่รอน เที่ยวตระเวณขออาหารจากโรงมหาทานทั้ง ๕ ของนครกุรุ ที่องค์ราชาทรงตรัสสั่งให้ตั้งขึ้น เพื่อบริจาคมหาทานทุกวัน
ซึ่งพราหมณ์ทั้ง ๘ ต่างพากันแยกย้ายไปยังโรงทานละ ๒ คน เพื่อดักรอเข้าเฝ้าองค์ราชากุรุราช แต่ไม่ว่าพราหมณ์ทั้ง ๘ จะเฝ้ารอขนาดไหน องค์ราชากุรุราชก็ไม่เสด็จมาที่โรงทานสักที
พราหมณ์นั้นจึงแสร้งทำอุบายว่า อยากจะเข้าเฝ้าองค์ราชาเพื่อถวายพระพรขอบคุณที่องค์ราชากุรุราชทรงมีพระเมตตา ให้ข้าวให้น้ำแก่พวกตน
ชาวพระนครกุรุ และเจ้าพนักงานแจกอาหารจึงแจ้งแก่พราหมณ์ที่ปลอมตัวเป็นชายเร่รอนนั้นไปว่า
พ่อเอ๋ย เวลานี้หาใช้เวลาที่องค์ราชาจะทรงเสด็จลงมาตรวจเยี่ยมโรงทานไม่ หากเมื่อใดถึงกาล ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ อันเป็นวันธรรมสวนะ องค์มหาราชของเราจักทรงเสด็จลงมาตรวจเยี่ยมประชาชน
พราหมณ์นั้นจึงได้สอบถามชาวพระนครกุรุ ว่าองค์มหาราชจะทรงเสด็จไปตรวจเยี่ยมโรงทานทางทิศใดก่อน
มหาชนเหล่านั้นจึงกล่าว่า
ส่วนใหญ่จะทรงเสด็จมาตรวจเยี่ยมโรงมหาทานทางทิศตะวันตก เวียนประทักษิณไปทางทิศเหนือ และจบลงที่โรงมหาทานด้านทิศกลางมหานคร
พราหมณ์ทั้ง ๘ จึงสอบถามมหาชนนั้นว่า มหาชนส่วนใหญ่จักไปรอเข้าเฝ้ามหาราชในทิศไหนมากที่สุด ทิศใดน้อยที่สุด
มหาชนทั้งหลายจึงแจ้งแก่พราหมณ์นั้นว่า
มหาชนจักไปรอเฝ้ารับเสด็จที่โรงมหาทานในทิศกลางมากที่สุด ไปรอรับเสด็จที่ทิศตะวันตกน้อยที่สุด
พราหมณ์ทั้ง ๘ นั้นจึงได้ช่องด้วยพากันคิดว่า โชคเป็นของเรา มีอยู่ในทิศตะวันตกแล้ว พวกเราจักไปรอเฝ้ารับเสด็จอยู่ในทิศตะวันตกที่มีมหาชนรับเสด็จน้อยที่สุด
ครั้งถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ พราหมณ์ทั้ง ๘ ได้ไปรอเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นขอพระราชทานช้างมงคลแก่ราชากุรุราช
เช้าตรู่ของวันธรรมสวนะ ๑๕ ค่ำ องค์ราชาทรงเสด็จอยู่เหนือพญาช้างอัญชนาสภะ ดุจดังองค์อินทรา ทรงเสด็จเหนือพญาเอราวัณคชสาร ผู้ทรงฤทธิ์ในท่ามกลางหมู่เทพอารักขา
ขณะที่ขบวนเสด็จมาถึงโรงมหาทานทิศตะวันตก พราหมณ์ทั้ง ๘ จึงออกมาจากที่ซ่อน ทะลักดักหน้าขบวนเสด็จแล้วแสดงกิริยานอบน้อมตะโกนก้องร้องว่า
ขอพระมหาราชเจ้าจงทรงพระเจริญ จงมีชัยชนะต่อความตระหนี่เถิด พระเจ้าข้า
องค์ราชากุรุราช ทรงทอดพระเนตรเห็นดังนั้นจึงทรงให้สัญญาณแก่พญาช้างให้หยุด เพื่อจะไม่ทำอันตรายต่อบุรุษเร่รอนทั้ง ๘ แล้วทรงตรัสขึ้นว่า
ท่านผู้เจริญ ท่านทั้งหลายต้องการสิ่งใด เหตุใดจึงมาขัดขวางทางช้างเดินเช่นนี้เหล่า
พราหมณ์ทั้ง ๘ จึงกล่าวขอพระราชทานอภัยโทษที่พวกตนบังอาจมาขัดขวางทางเสด็จพระราชดำเนิน พวกข้าพระองค์ได้รับความทุกข์ยาก อดอยาก หิวกระหายอย่างแสนสาหัส ขณะอยู่อาศัยในนครกาลิงคะ ของพระเจ้ากาลิงคราช ได้ประสบภัยแล้งมาหลายปี พืชพันธุ์ธัญญาหาร หมู่มนุษย์และสัตว์ต่างอดอยากล้มตายลงเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งยังเกิดโรคระบาดขจายไปทั่วพระนคร บัดนี้องค์ราชากาลิงคราชได้ร่างพระราชสาส์น ให้พวกข้าพระองค์นำมาทูลถวายพระองค์ เพื่อขอพญาช้างมงคล อัญชนาสภะ ที่ทรงเป็นพระราชพาหนะ ไปยังพระนครกาลิงคะ
เพื่อยังให้เกิดฝนตกลงมา และขับเสนียดจัญไร อันตรายจากโรคาพยาธาตุทั้งปวง ที่กำลังระบาดสร้างความทุกข์ยาก เดือดร้อนแก่มหาชนชาวกาลิงคะ อยู่ทุกวันนี้พระเจ้าข้า
 
จบแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ
 
พุทธะอิสระ