เมื่อตอนที่แล้ว เราท่านทั้งหลายได้รู้จักประวัติท่านพระโมคคัลลานะกันมาบ้างแล้ว ที่นี้มาดูกันต่อ
พระมหาโมคคัลลานะ เป็นผู้มีความสามารถในการนวกรรม คือ งานก่อสร้าง ด้วยเพราะเมื่อครั้งเป็นคฤหัสถ์ ท่านได้ศึกษาเรื่องการก่อสร้างมาจนแตกฉาน
พระบรมศาสดาจึงทรงมอบหมายให้ท่านรับหน้าที่ นวกัมมาธิฏฐายี คือ ผู้ควบคุมดูแลการก่อสร้างวิหารบุพผาราม ที่เมืองสาวัตถี ซึ่งนางวิสาขาบริจาคทรัพย์สร้างถวาย
พระมหาโมคคัลลานเถระ เมื่อบวชแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ท่านมีความสามารถโดดเด่นในทางอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นเลิศ กว่าภิกษุทั้งหลาย ท่านสามารถแสดงฤทธิ์ ไปยังภพภูมิต่างๆ ของสัตว์ที่ไปเกิดทั้งยังแวะไปโลกสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ได้
ท่านได้พบเห็นสัตว์นรกในขุมต่างๆ ที่ต้องรับทุกขเวทนาจากผลกรรมที่ตนกระทำ และภพภูมิของเทพบุตรเทพธิดาที่ได้เสวยความสุขจากการทำกุศล คุณงามความดีไว้ในมนุษย์เช่นกัน ท่านได้นำข่าวสารของสัตว์นรกและของเทพบุตรเทพธิดาเหล่านั้น มาแจ้งแก่บรรดาญาติและชนทั้งหลายให้ทราบ ทำให้บรรดาญาติและชนเหล่านั้นพากันละเว้นกรรมชั่วลามกอันจะพาตนไปเสวยผลกรรมอันเผ็ดร้อนในนรกแล้ว พากันสร้างบุญกุศล อันจะนำตนไปสู่สุคติโลกสวรรค์
พร้อมกันนั้นก็พากันทำบุญอุทิศไปให้แก่ญาติของตน เหล่าชนบางพวกที่ไม่มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็พากันละทิ้งลัทธิศาสนาเดิมมาศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเดียรถีย์ทั้งหลายต้องเสื่อมจากลาภสักการะ เป็นอยู่ลำบากอดอยากขึ้นเรื่อย ๆ
มีเรื่องกล่าวไว้ในคัมภีร์ธรรมบทหมวดปิยวรรคและโกธวรรคว่าวันหนึ่ง พระเถระได้ขึ้นไปยังดาวดึงส์โลกสวรรค์ ด้วยอริยฤทธิ์ ได้เห็นปราสาทหลังหนึ่ง มีแสงแวววาวด้วยแก้วนานาประการ มีขนาดใหญ่ทั้งกว้าง ทั้งสูง มีนางเทพธิดาอยู่ในปราสาทนั้นจนเนืองแน่น
พระเถระจึงถามว่า “แม่เทพธิดา วิมานนี้เป็นของใคร (เกิดขึ้นเพื่อใคร) ?"
“ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ วิมานนี้เกิดขึ้นเพื่อนันทิยะ ผู้สร้างศาลา 4 มุข 4 ห้อง ถวายพระบรมศาสดา พวกดิฉันมาเกิดในที่นี้ก็ด้วยหวังว่าจะได้เป็นบาทจาริกาของนันทิยะนั้น แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่พบนันทิยะ เพราะท่านยังไม่ละอัตภาพจากโลกมนุษย์เลยขอพระคุณเจ้าได้โปรดนำข่าวสารไปบอกแก่นันทิยะให้ละอัตภาพมนุษย์อันเปรียบประดุจถาดดิน มาถือเอาอัตภาพอันเป็นทิพย์ ซึ่งเปรียบประดุจถาดทองคำล้ำค่าในโลกสวรรค์นี้ด้วยเถิด เจ้าค่ะ”
อันที่จริง วิมานนั้นได้เกิดขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์พร้อมกับขณะที่นันทิยมาณพ ได้สร้างศาลาจัตุรมุขมี 4 ห้อง ถวายแด่พระบรมพระศาสดาแล้ว หลั่งน้ำทักษิโณทก ตกลงบนฝ่าพระหัตถ์ของพระบรมศาสดา
พระเถระได้จาริกท่องเที่ยวไปยังสวรรค์ชั้นอื่น ๆ ได้พบเห็นวิมานทองของเหล่าเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายแล้ว ได้ไต่ถามเทพบุตรเทพธิดาเหล่านั้นว่า ทำบุญอะไร ให้ทานด้วยสิ่งใด จึงได้เสวยผลบุญ ได้รับทิพยสมบัติวิมานแล้ว วิมานทองอันงดงามยิ่งนัก เช่นนี้ เทพบุตรและเทพธิดาเหล่านั้น ต่างก็รู้สึกละอายที่จะบอกแก่พระเถระเพราะบุญทานที่พวกตนกระทำนั้นมีประมาณเพียงเล็กน้อย คือ
บางองค์เพียงแค่กตัญญูรู้คุณ กตเวทิตาตอบแทนคุณ แก่ผู้มีคุณก็ได้วิมาน
บางองค์บอกว่า เพียงรักษาคำสัตย์ จึงได้สมบัติคือวิมานนี้
บางองค์แค่ทำหน้าที่ของมนุษย์ที่ถูกต้องก็ได้วิมาน
บางองค์บอกว่า เพียงห้ามความโกรธ จึงได้วิมานนี้
บางองค์แค่พยายามที่จะเจริญภาวนาได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็ได้วิมานอันรุ่งเรือง
บางองค์บอกว่า เพียงถวายอ้อยน้ำข้าวแก่ผู้ทรงศีล จึงได้วิมานนี้
บางองค์บอกว่า เพียงแค่ตั้งความปรารถนาดี แผ่เมตตาแก่สัตว์ทั้งหลายจึงได้วิมานนี้
บางองค์เห็นผู้อื่นทำกุศล ก็ยินดีร่วมอนุโมทนา ก็ได้วิมาน
บางองค์บอกว่า เพียงถวายมูลผลาหารแก่ผู้ทรงศีลก็ได้วิมานนี้
บางองค์บอกว่า เพียงแค่รักษาศีลข้อเดียว ก็ได้วิมานนี้มา
บางองค์ชื่นชอบในการฟังธรรม ฟังสุภาษิตของปราชญ์ บัณฑิต ผู้รู้ ก็ได้วิมาน
บางองค์สนับสนุน ชักชวนในการฟังธรรม เผยแผ่ธรรมก็ได้วิมานอันอลังการ
พระเถระจาริกไปยังสวรรค์ชั้นต่าง ๆ พอสมควรแก่อัธยาศัยแล้วก็กลับมาสู่มนุษย์โลก นำข่าวสารที่ได้พบเห็นมาแจ้งแก่หมู่ชนทั้งหลาย ซึ่งต่างก็พากันศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ทำบุญสร้างกุศล เพื่อหวังผลอันเป็นสุขสมบัติในปรโลก
ยิ่งทำให้มหาชนเพิ่มพูนศรัทธาในพระพุทธศาสนาจำนวนมากยิ่งขึ้น เป็นผลให้บรรดานักบวชนอกศาสนาแต่ละลัทธิต่างขุ่นเคือง เดือดดาล อาฆาตต่อพระมหาโมคคัลลานะเป็นอันมาก
พุทธะอิสระ