สำหรับพ่อแล้ว คำว่ามนุษย์สมบัติปู่เจ้าสอนพ่อว่า มันไม่ใช้แก้วแหวน เงินทอง เพชรนิลจินดา หรือเรือกสวนไร่นา บ้านเรือนคฤหาสน์ อันใหญ่โตโอฬาร และลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
มนุษย์สมบัติที่ปู่เจ้าสอนพ่อนั่นก็คือ
การเสียสละ แบ่งปัน (บริจาคทาน)
การรักษาศีล อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
การเพียรพยายาย กระทำจิตของตนให้ตั้งมั่นแจ่มใส
การมีสติตื่นรู้ ในทุกเรื่องที่เราทำ ในทุกคำที่เราพูด ในทุกสูตรที่เราคิด
การขวนขวาย สั่งสม อบรมตนให้เป็นคนที่มีปัญญา
การลด ละ เลิก วาง ว่างปราศจากตัวกูให้ได้ในทุกขณะจิต
ปู่ของเจ้ายังกำชับพ่อว่า แก้วแหวน เงินทอง เพชรนิลจินดา หรือเรือกสวนไร่นา บ้านเรือนคฤหาสน์ บริษัท บริวาร หญิงชาย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
แม้ที่สุดเมื่อเราตาย วันสุดท้ายมันก็นำติดตัวเอาไปไม่ได้
แต่พ่อมาคิดดูว่า มันจะดีเอามากๆ หรือไม่ หากขณะที่เราดำเนินชีวิตอยู่ ก็ทำหน้าที่ในทุกกรณีให้สมบูรณ์ แก้วแหวนเงินทอง ทรัพย์สมบัติทั้งหลาย
เมื่อมันได้มาก็นำมาเป็นวัตถุส่งเสริม สนับสนุนให้การเสียสละ แบ่งปันกว้างขวาง ยิ่งใหญ่ ไพศาล
ทรัพย์ทั้งหลายที่ได้มา ก็ใช้มันให้ส่งเสริม สนับสนุนศีล สมาธิ สติปัญญาให้เจริญรุ่งเรือง
ลาภ ยศ สรรเสริญสุข เมื่อมันมีมาก็เอาไปสร้างเครือข่าย ลด ละ เลิก วาง ว่าง ดับ เย็นตัวกูให้แผ่ขยายให้กว้างขวาง
เช่นนี้จึงถือว่า คนฉลาดใช้กิเลส มีแต่คนโง่ เท่านั้นที่ถูกกิเลสใช้
หรือรู้จักสมมุติ
อยู่กับสมมุติ
ใช้สมมุติ
ได้ประโยชน์จากสมมุติ
ให้ประโยชน์กับสมมุติ
ท้ายที่สุดอย่ายึดติดสมมุติ
พุทธะอิสระ