เห็นข่าวข้าราชการตำรวจประกาศลาออก เหตุน้อยใจที่เจ้านายมองไม่เห็นความดี จึงคิดถึงคำสอนของพญาพาลีสอนสุครีพน้องชาย เอาไว้น่าจะตรงต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
๑. หมั่นไปให้เจ้านายได้เห็นหน้าบ่อยๆ และต้องไม่เกียจคร้าน ไม่ทำอะไรตามอำเภอใจ
๒. สิ่งใดที่เจ้านายดำริ ซักถาม ควรชี้แจงแถลงความให้เหมาะสมตามข้อเท็จจริง
๓. อย่าอวดดีต่อหน้าเจ้านาย อย่าทำตัวฟุ้งเฟ้อเกินฐานะ อย่าทำ พูด คิด อะไรให้เจ้านายเขาหมั่นไส้
๔. ควรรู้ว่าสิ่งใดควรทำ มิควรทำ ที่ใดควรอยู่หรือมิควรอยู่ เวลาใดควรพูดและมิควรพูด รวมทั้งต้องตระหนักว่าสิ่งที่พูดตนต้องสามารถรับผิดชอบได้ด้วยตนเอง และควรรู้จักกาลเทศะ
๕. อย่าทำตัวเพ้อเจ้อ กรุ้มกริ่ม กะล่อน เลอะเทอะ จนเจ้านายไม่ไว้วางใจ
๖. จงให้ความยำเกรงต่อเจ้านายทั้งต่อหน้าและลับหลัง
๗. อย่านำความในออกไปพูดหรือแสดงข้างนอก
๘. เมื่อใดที่ได้รับการปูนบำเหน็จ ควรสำนึกในบุญคุณเจ้านายอย่าทำตนหลงลืม ก่อนรับบำเหน็จทำตัวอย่างไรหลังรับบำเหน็จแล้วก็ควรทำตัวเช่นนั้น ให้เสมอต้นเสมอปลาย
๙. อย่าทับถมเพื่อนร่วมงานต่อหน้าเจ้านาย
๑๐. จงทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อตรง เสมอต้นเสมอปลายจนเจ้านายไว้วางใจเชื่อถือ
คำสอนของพาลีทั้งสิบข้อนี้ แม้จะต่างยุคต่างสมัย แต่ก็น่าจะนำมาประยุกต์ใช้ได้กับยุคปัจจุบัน
ด้วยเพราะกิเลสของเจ้านายและกิเลสของลูกน้องมันไม่ได้พัฒนาไปไหน มันยังวนเวียนอยู่ในปากกระทะอย่างที่เห็นๆ
แม้ใครจะเถียงว่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่แท้จริงแล้วกิเลสของมนุษย์หาได้เปลี่ยนไปไม่
 
พุทธะอิสระ