มีชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด จนไม่สามารถทำมาหากินตามปกติได้
ซ้ำร้ายหัวหน้าครอบครัว ยังต้องมาเป็นโรคข้อกระดูกอักเสบ จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน ต้องทุกข์ทรมานยิ่งนัก
จนต้องนอนซมอยู่กับที่นอน ดุจดังผู้ป่วยติดเตียง
ส่วนภรรยานั้นเล่า เคยทำการงานอยู่ ก็ถูกให้ออก เพราะพิษภัยโควิด
ลูกสาวคนโตที่มีครอบครัว แยกบ้านไปแล้ว แต่ก็มีชีวิตอยู่อย่างฝืดเคืองอัตคัดขัดสน
ลูกคนเล็กก็กำลังเรียนอยู่ พ่อแม่ต้องไปกู้นอกระบบมาส่งให้ลูกเรียน
มิหนำซ้ำ ต้องเอาที่ดินและบ้านเข้าธนาคาร เพื่อนำเงินมาใช้หนี้นอกระบบ และเป็นค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลสามี
รวมแล้วทั้งบ้านมีหนี้สินอยู่ไม่ต่ำกว่า ๓ ล้านบาท
บางครั้งถึงขนาดจะคิดสั้น อยากจะจากโลกนี้ไปเพื่อหนีปัญหา เขาสองคนผัวเมียพยายามเที่ยวมาหาเพื่อขอคำปรึกษา และขอให้ พุทธะอิสระ ช่วย
เราก็ได้แต่มองหน้าเขา แล้วชี้ไปที่สองคนตายายที่เดินหิ้วกระสอบป่าน เพื่อเก็บเศษพลาสติกและขวดที่อยู่ตามริมทะเล เพื่อนำไปขาย นำเงินส่งหลานเรียนมหาวิทยาลัย
ซึ่งตายายสองคนนี้ บ้านที่อยู่อาศัยปลูกเพิงในที่ดินของเพื่อนบ้าน ลูกสาวนำหลานมาทิ้งไว้ให้ตั้งแต่แบเบาะ แล้วก็หายหัวไปเป็นสิบปี
ตายายแกก็รับจ้างทำงานสารพัด เท่าที่มีคนจ้างและพอทำไหว ยามว่างก็ออกเดินเก็บเศษขยะขาย
บ้านไม่มี ที่ดินไม่มี หนี้สินไม่มี มีแต่ตัวและหลานสาวสุดรัก แม้จะได้เบี้ยยังชีพคนชราที่รัฐจ่ายให้ แต่ก็ไม่พอเพียงหากจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนหลานสาว และสารพัดค่าที่หลานสาวจะต้องใช้
เคยพูดคุยกับแก แกไม่คิดเยอะ ขอเพียงทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ทะเยอทะยานเกินตัว เลี้ยงชีวิตตามความสามารถที่หาได้ ยึดถือหลัก “อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” รู้จักอดออม วางแผนการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมกับความสามารถที่หาได้ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
ควบคุมอารมณ์และจิตใจ อย่าให้ไหลไปในอารมณ์ที่ทำให้เกิดทุกข์
ฉันบอกสองสามีภรรยา ที่เขาเป็นโรคไขข้ออักเสบและมีหนี้ ๓ ล้าน ว่า
ถ้าอยากให้ฉันช่วย คุณลองไปดำเนินชีวิตให้ได้อย่างที่ตายายเก็บขยะทำก่อน วันใดที่คุณทำชีวิต ความนึกคิด อารมณ์ จิตวิญญาณ อย่างที่ตายายแกทำ และคุณทำได้
วันนั้นฉันจะช่วยคุณ
พุทธะอิสระ