ว่างเว้นจากการทำอาหารเลี้ยงแขกของพ่อมาสองวันแล้ว รู้สึกว่า ชีวิตนี้มันขาดอะไรไป

คงเป็นเพราะภารกิจในการตั้งโรงทานเลี้ยงแขกของพ่อมาเป็นเวลาแรมปี

๒ วันมานี้จึงมานั่งระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงมหาทาน หมายเลข ๙ รวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแขกของพ่อทุกคน ทั้งจิตอาสาที่มีทั้งอากาศร้อน แสงแดดแผดเผา สลับกับฝนที่ตกมาเป็นระยะๆ ทั้งหิว ทั้งกระหาย เมื่อยล้า อ่อนเพลีย ที่ต้องยืนเข้าแถวต่อคิวกันคนละ ๕ ถึง ๑๐ ชั่วโมง จนหลายคนถอดใจเดินทางกลับ และก็มีอีกหลายคนที่อดทนต่อการทดสอบครั้งนี้ได้จนสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมศพ

ถึงกระนั้นก็ยังมีหลายคนที่ต้องเป็นลม ล้มพับไป จึงต้องขอชื่นชมบรรดาจิตอาสา พยาบาล ทุกค่าย ทุกกลุ่ม ที่ทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ

โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ พยาบาล เภสัชกรจิตอาสาร้อยกว่าชีวิตของเต้นท์หมายเลข ๙ ที่ปฎิบัติการในเชิงรุก กระจายเข้าไปตามแถวของผู้คน เพื่อให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

แม้ทุกคนจะทำงานในบรรยากาศและสถานที่ที่ไม่เอื้อต่อการให้บริการรักษาพยาบาล

แต่ด้วยหัวใจกตัญญูต่อองค์พ่อหลวง ปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายจึงกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปโดยปริยาย

ขอชื่นชม ขอขอบใจ ต่อจิตอาสาทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร แพทย์สนามทุกท่าน ที่กรุณาเสียสละปฐมพยาบาลแขกของพ่ออย่างไม่ปริปากบ่น

แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคจากสถานการณ์ ความคิดของพวกผู้บริหาร ทีมแพทย์พยาบาล ระดับผู้บริหารบางคนที่ใจคับแคบ เข้ามาต่อว่า แต่บรรดาแพทย์พยาบาล จิตอาสาทุกคนต่างมีความคิดยึดโยงเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ จึงไม่ได้ใส่ใจต่อคำตำหนิติว่า

หากการที่ทีมแพทย์พยาบาลจิตอาสาร้อยกว่าชีวิต ที่เข้ามาช่วยปฐมพยาบาล ในเชิงรุก และสามารถช่วยปฐมพยาบาลผู้เจ็บป่วยจำนวนมาก แล้วยังถูกตำหนิ โดนสอบเอาความผิด

บอกพุทธะอิสระมา เดี๋ยวจะเข้าไปอธิบายให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณะสุข ได้เข้าใจ

หวังว่าทีมแพทย์จิตอาสาทุกท่าน คงจะสบายใจขึ้นนะจ๊ะ

พุทธะอิสระ