๑๓ ต.ค. ๕๙ น้ำตาแผ่นดินไหลพรากเมื่อพระชนม์ชีพขององค์พ่อแห่งแผ่นดินมาพรากจากไป
คงเหลือไว้แต่พระคุณธรรมอเนกอนันต์อันสุดประมาณมิได้ และยังคงไว้ซึ่งพระสรีระสังขารให้คนไทยได้มีความอบอุ่นใจ
แต่โอ้อนิจจา... บัดนี้ ๒๖ ต.ค. ๖๐ แม้แต่พระสรีระสังขารอันเป็นเครื่องหมายแห่งความอบอุ่น ความปลอดภัย ของพระผู้ทรงเป็นดังแสงสว่างของแผ่นดินก็มิอยู่แล้ว
ด้วยพระคุณอันหาที่สุดประมาณมิได้ ที่ทรงมีให้แก่ปวงชนชาวไทย มันทำให้หัวใจของลูกไทยสุดจะดูดายวางเฉย
พวกเราไม่รู้สึกที่จะอายเลย หากจักต้องเสียน้ำตาเพื่อถวายความอาลัยต่อการพลัดพรากในครั้งนี้
แม้ลูกไทยคนนี้จักอยู่ใกล้มณฑลพิธีที่ตั้งพระเมรุมาศมานานแรมปี แต่ก็มิได้มีโอกาสเห็นภาพสุดท้ายที่ถวายพระเพลิง ด้วยเพราะภารกิจตระเตรียมอาหารเลี้ยงแขกของพ่อที่มาร่วมงาน
แม้รู้อยู่แก่ใจว่าสังขารทั้งหลายจักมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา แต่ด้วยพระคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ขององค์พ่อที่มีให้แก่ลูกไทยทุกคน จักยังคงดำรงตราตรึงอยู่ในหัวใจของลูกไทยคนนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ลูกๆ ทุกคนขอน้อมส่งเสด็จ “พ่อของแผ่นดิน”
ผู้มีพระคุณธรรมอันยิ่งใหญ่
ผู้ควรค่าแก่ดุสิตเทวโลก
ขอบุญกุศลใดที่ลูกไทยทุกคนได้กระทำไว้ด้วยดี อันมีมาแล้วในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จงเป็นเดชะพลวปัจจัย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมทูลถวายเป็นพระราชกุศลอันยิ่งใหญ่ เพื่อได้ทรงสถิตสถาพรในแดนดุสิตสวรรค์ อันเป็นรมณียสถาน ทรงสุขสำราญสืบไปด้วยเทอญ
ขอถวายพระพร
พุทธะอิสระ