ร.๑๐ พระราชทานพระบรมราโชบาย ๙ ข้อ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปบ้านเมือง ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระราชทาน ๙ แนวทางให้รัฐบาลเป็นหลักปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ "นายกฯ" เผย ร.๑๐ ตรัสแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ "เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้"

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา ซึ่งตนได้ถวายรายงานในทุกๆ เรื่อง ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ ปัญหาอุทกภัยและการช่วยเหลือ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่ง ประกอบด้วย

1. ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับสั่งให้ช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆ ด้วยความรวดเร็วและทั่วถึง สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ ก็จะพระราชทานความช่วยเหลือมาให้อย่างที่ทรงทำในปัจจุบัน

"รับสั่งให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ถ้ายังไม่สามารถดำเนินการภาพรวมทั้งหมดได้ ก็ให้ทยอยดำเนินการไป”

2. มีรับสั่งขอให้ทำให้ประเทศชาติ และประชาชนมีความสุข ซึ่งทรงย้ำเสมอทั้งเรื่องการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย สร้างอุดมการณ์ รับสั่งว่าให้ทำทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง

3. ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลในส่วนที่ดีงาม มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็นและชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้

4. รับสั่งถึงภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิ ภัยคุกคามในรูปแบบเก่า เรื่องอธิปไตย ซึ่งวันนี้ก็น้อยลง มีเฉพาะเรื่องของการรักษาทรัพยากรทั้งบนแผ่นดินและผืนน้ำ ที่เป็นอาณาเขตของประเทศไทย จำเป็นต้องมีกำลังดูแลรักษา และทรงเป็นห่วงเรื่องภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ต้องเตรียมมาตรการรองรับให้เป็นสากล ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดในประเทศอื่นก็จะมามีอิทธิพลต่อประเทศไทย อยู่ที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน

5. รับสั่งให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเรามีการปฏิรูปกันมากพอสมควร เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ให้คนไทยมีความรู้อย่างจริงจัง ทำงานได้ สามารถที่จะมีอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง และมีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆ เรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง

6. สั่งให้ช่วยกันส่งเสริมงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้นำแนวพระราชกระแสรับสั่ง โดยกระทรวงมหาดไทยไปจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครขึ้นมาดูแลพื้นที่ ดูแลความมั่นคงและกิจการต่างๆ ในลักษณะเป็นจิตอาสา หรือทำกิจการสาธารณะ เพราะบางอย่างถ้ารอข้าราชการทำฝ่ายเดียวคงไม่ทัน

7. รับสั่งดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

8. ข้าราชการทุกหมู่เหล่าหรือส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายใดก็ตาม ขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชนให้เกิดความเคารพศรัทธา และเชื่อมั่นในการทำงาน จะได้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย

9. เรื่องสำคัญที่สุดคือทรงเสียพระราชหฤทัยในการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และคนไทยทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทำไว้อย่างมากมาย ให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
--------------------------------------

ด้วยพระปรีชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑๐ จึงทรงพระราชทานพระบรมราโชบายให้รัฐบาล คสช. เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ปัญหาของบ้านเมือง อย่างครอบคลุมในทุกมิติ

พุทธะอิสระ