พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
รูปฌาน ๔

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้เป็นผู้สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม

บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวก

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือปฐมฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้บรรลุทุติยฌาน

มีความผ่องใสแห่งจิตภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป แต่ยังมีมีปีติและสุขเกิดอันเกิดแต่สมาธิอยู่

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือทุติยฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือตติยฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้บรรลุจตุตถฌาน

ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสได้เสียแล้ว มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือจตุตถฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในอัตภาพนี้เท่านั้น

อรูปฌาน ๔

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้บรรลุอากาสานัญจายตนฌาน (กำหนดที่ว่างหาที่สุดมิได้ เป็นอารมณ์)

โดยมนสิการว่า อากาศไม่มีที่สุดเพราะก้าวล่วงรูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา ไม่มนสิการนานัตตสัญญา (ความจำได้หมายรู้) โดยประการทั้งปวงอยู่

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคืออากาสานัญจายตนฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่สงบระงับในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก้าวล่วงอากาสานัญจายตนฌานเสียโดยประการทั้งปวง

แล้วมนสิการว่า วิญญาณไม่มีที่สุด พึงบรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน (กำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้ เป็นอารมณ์)

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือวิญญาณัญจายตนฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่สงบระงับในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก้าวล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง

แล้วมนสิการว่า ไม่มีอะไรเหลือสักน้อยหนึ่ง พึงบรรลุอากิญจัญญายตนฌานอยู่ (กำหนดภาวะที่ไม่มีอะไรๆ เป็นอารมณ์)

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคืออากิญจัญญายตนฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่สงบระงับในอัตภาพนี้เท่านั้น

ดูกรจุนทะ ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก้าวล่วงอากิญจัญญายตนฌานเสียโดยประการทั้งปวง

แล้วพึงบรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌานอยู่ (ภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่)

ภิกษุนั้นจะพึงคิดว่า นี่คือธรรมเครื่องขัดเกลากิเลส

ดูกรจุนทะ เราไม่กล่าวว่า ธรรมคือเนวสัญญานาสัญญายตนฌานนี้เป็นเครื่องขัดเกลากิเลส

เป็นแต่เพียงธรรมเครื่องอยู่อันสงบระงับในอัตภาพนี้เท่านั้น
--------------------------------------------

พุทธะอิสระ

[ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต]
=========================
ที่มา: https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10154150569693446:0