ห้องสมุดธรรมอิสระ
แสดงธรรม ณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต บางกรวย วันที่ ๑๗ ต.ค.๕๔
- Details
- Written by พระธนุส กิตฺติญาโณ (พระจูเนียร์)
- Hits: 2361
17 ต ค 54 12.05 น. ธรรมะโดยหลวงปู่พุทธะอิสระ ณ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิต บางกรวย
หัวข้อ เครื่องอยู่แห่งชีวิต และ ปุจฉา วิสัชนา
•อยากให้น้ำแห้งไม๊
•บอกให้รัฐบาลลาออก เอ้า จริงๆ กล้าหรือเปล่า
•เดือดร้อนจากคนโง่ด้วย
•สมน้ำหน้า
•อาบัติ เป็นเฉพาะตน แต่ให้พรเป็นศรัทธา
•เฉลี่ยประโยชน์ให้เหมาะสม รักษาสมดุลย์
•ถ้ามีคำว่า ได้กับเสีย ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้
•ถ้ามีคำว่า ประโยชน์ร่วมกัน อะไรก็อยู่ร่วมกันได้
•เตรียมตัวให้ดีแล้วกัน อยู่อย่างมีสติ อย่าใช้อารมณ์
•ขณะนี้ เรากำลังสร้างมิตร ...ช่วยได้ ช่วย แต่อย่าให้เดือดร้อน
เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนพุทธบริษัท ผู้รับชมรายการอาทิตย์สดใส
คุณแทนคุณ จิตอิสระ ผู้ดำเนินรายการ และ...
.....ใกล้จะหมด หมดไฟ
วันนี้ คุณกับชั้นเจอกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวานเจอที่โรงพยาบาลนครธน
เมื่อครู่ รองฯ พาไปดูชั้น 20 ไปดูทิศทางน้ำ....
ท่วมไม๊....ไม่ท่วมอะไร เห็นเดินจ๋อมๆ
ปลอบใจตัวเองอีกแล้ว ทำเป็นรัฐบาล 2 ไปได้
เมื่อกี้ เดินมา ข่าวเข้า...ไปแล้วหมู่บ้านลัดดาวัลย์ ไม่รู้อยู่ตรงไหน
เตรียมยกของขึ้นสูง ไม่มีที่ไป มาที่ตึกนี้ หรือ ไปวัดอ้อน้อยก็ได้ มีข้าว 3 มื้อ
ยังไง ก็อยู่อย่างมีสติ
เมื่อกี้ อ่านหัวข้อที่จะให้พูด เครื่องอยู่แห่งจิต แต่ละคนมันแตกต่างกัน
ที่ลพบุรี ผู้เฒ่า เครื่องอยู่แห่งจิต คือ ตุ่มน้ำ ก็นึกในใจ นี่คือ เครื่องอยู่แห่งจิตของผู้เฒ่า
แต่ละคนไม่เหมือนกัน เครื่องอยู่แห่งจิต
แต่ที่เหมือนกัน คือ ลมหายใจ ส่วนที่เป็นกลาง เป็นสาธารณะ คือ ลมหายใจ
ไม่มีลมหายใจ อยู่ได้ไม๊ ถ้าถามชั้น...ในเครื่องที่อยู่ อยู่ได้ด้วยอะไร
ด้วยครอบครัว.....แต่ถ้าขาดลม ก็อยู่ไม่ได้
ทำอย่างไร พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านบอกเครื่องอยู่ คือ วิหารธรรม จำแนกไว้ 11 ขั้นตอน
ลมหายใจ ท่านแบ่งไว้ 11 ขั้นตอน ตั้งแต่สมถะภาวนาขึ้นต้น ถึงวิปัสสนา
รวมๆ สรุป ถ้าปฏิเสธเครื่องอยู่นี้ ไม่ได้
ปัญหาณ. วันนี้ มีลมหายใจไม๊ มี แต่ไม่ใช่ลมหายใจที่สมดุลย์ หนักบ้าง เบาบ้าง สั้นบ้าง ยาวบ้าง
ไม่สม่ำเสมอ พอไม่สมดุลย์...ในกายเรามีพลัง 3 อย่าง
พลังกาย ได้จาก ก้อนข้าว หยดน้ำ อาหาร อาการ การออกกำลังกาย ต้องได้จากอาหารก้อนข้าว
พลังจิต ได้จากสมดุลย์ของอารมณ์ ที่เรียกว่า ทรงฌาน หรือ สมาธิ
3. คือ พลังปราณ เกิดจากสมดุลย์ 2 อย่าง
คือ ธาตุทั้ง 4 ในกาย ดิน น้ำ ลม ไฟ และสมดุลย์ในลมหายใจ
ถ้าสมดุลย์ 2 อย่าง เกิดการกระตุ้น ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ดี สามารถต่อสู้ กำจัดโรคได้
แต่ทุกวันนี้ เครื่องอยู่ ลมหายใจ เข้ายาวปืด ออก สั้นนิดเดียว....
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค..หายใจเหมือนสุนัข กับกระต่าย
สุนัข หายใจหอบถี่ เร็ว บางครั้งอ้าปากหายใจ กระต่ายหายใจสั้นๆ เร็ว ไม่แรงเท่าสุนัข
พระพุทธเจ้าบอกว่า วิธีหายใจอย่างนี้ ไม่ใช่เครื่องอยู่
มันทำให้เซลล์ในร่างกายอายุสั้น ออกซิเยน ไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ที่มีอายุยืนยาว กลับสั้นลง
การเผาผลาญในร่างกายมาก ความร้อนที่มากเข้า เซลล์เกิดใหม่อายุสั้นลง
พวกนี้แก่ง่าย ตายยาก ....แก่ยั่งยืน
แต่ถ้าอยากจะหายใจอย่างยั่งยืน ทำให้สมดุลย์ปราณเกิดขึ้น ภูมิคุ้มกันแข็งแรง
พระพุทธเจ้าสอนให้หายใจอย่างช้าง ตัวมันใหญ่ ..จะหายใจเท่าช้าง ..กว้าง ลึก เต็ม
ออก เบา ยาว หมด เหมือนงู ยาวเท่าลำตัว
แต่เวลานี้ เราหายใจยังไง ฟืด ออกฟาด ไม่เหมือนงูกับช้าง แต่เหมือนสุนัขกับกระต่าย
พอหายใจไม่เต็มที่ ออกซิเยนเลี้ยงสมองน้อยลง
ที่เห็นแน่ๆ เซลล์สมองตายเร็วขึ้น ...ตายวันละล้านๆ ตัว
จำอะไรไม่ได้ จำได้อย่างเดียว ผัวกูอยู่ไหน เงินกูอยู่ไหน...
อย่างอื่น จำไม่ได้ .... เงินยืมเค้า ทำเป็นไม่เข้าใจ
ลมหายใจ ไม่ใช่ทำให้สมดุลย์ร่างกายเท่านั้น มันจะสมดุลย์ในอารมณ์ด้วย
คนที่ได้อยู่กับเครื่องอยู่ของตน จะทำให้ วางแล้วว่าง ดับแล้วเย็น
เวลานี้เรามีหูไว้ฟังคนอื่น มีจมูกไว้ดมคนอื่น....แต่ไม่มีหูฟังเสียงลมหายใจตัวเอง
เข้าสั้น ออกยาว หรือ เข้ายาว ออกสั้น เวลาเข้า เข้าหมดไม๊ ออก ออก หมดไม๊
รีบเข้า รีบออก หรือ... ถ้ามันเป็นอย่างนี้ เครื่องอาศัยไม่มั่นคง สมดุลย์ไม่ปรากฏ
ให้กินดีอย่างไร สุดท้าย ตายไม่ปรากฏ มันกระเทือนทางกาย อารมณ์ จิตใจ
เพราะว่า สมดุลย์ในลมหายใจไม่มี
ข้างหน้าที่ว่างนะจ๊ะ ข้างหลังเดี๋ยวเจอซองกฐิน
สำหรับชั้น เครื่องอยู่ไม่เหมือนกัน แต่ที่เป็นสาธารณะ คือ ลมหายใจ
พระพุทธเจ้าตอบปัญหาของพราหมณ์....อะไรเป็นวิหารธรรมของพระองค์ พระสุคตเจ้า
ดูก่อน พราหมณ์ วิหารธรรมของ... เหมือนดั่งของพรหม
วิหารธรรมของพรหม เหมือนดั่งของเทวดา...นั่นคือ ลมหายใจ
วิหาร แปลว่า เครื่องอาศัย จะเป็นเครื่องอาศัยที่ถาวร ไม่ง่อนแง่น
ที่จริง ใน 1 วัน เรารู้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้อยู่เรื่องเดียว ลมหายใจ ...กี่ครั้ง
ทั้งๆ ที่ลมหายใจขาดไม่ได้ ขาดก็ตาย
เครื่องอาศัยที่จริง คือ ลมหายใจ
ลองให้เวลา 1 นาที หันเข้ามาหาลมหายใจว่า มันเข้าเต็มที่ไม๊
บางคนเข้านิดเดียว ยังไม่ทันปรุงเป็นอาหารของร่างกาย ก็พ่นออก
ออกยังไม่หมด ก็รีบเข้า เหมือนคนจมน้ำ สุดท้ายกลายเป็นนิสัย
คนพวกนี้ จะมีอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว หงุดหงิด คิดมาก ขี้โมโห ใจน้อย ...อ้ายลากใส้
ก็คือ มันหายใจไม่ทันสำเร็จสมบูรณ์แบบ
ก็ลากลมหายใจของตนไปกับสิ่งที่ไม่ควรจะเป็น เค้าจึงเรียก อ้ายลากใส้
อยากรู้อะไร ก็อย่าลืมลมหายใจ
อยากดูอะไร ก็อย่าลืมลมหายใจ...
ว่ามันไปปรุงชีวะได้มากแค่ไหน
แล้วเวลามันออก มันเอาของเสียออกหรือเปล่า
เข้าของดี ออกของเสีย คนโบราณ จึงชอบอยู่ในที่โล่งๆ
เวลาหายใจออก ขับของเสียออกมา
ทั้งหมด ทั้งหลาย คือ เครื่องอยู่เครื่องอาศัยของเรา จบ
คุณแทนคุณ ญี่ปุ่นจะให้นอนกลางวัน...
หลวงปู่ นี่ เค้าก็มานอนกลางวัน อาศัยพระ
คุณแทนคุณ การเจริญสติถึงนิพพานได้อย่างไร
หลวงปู่ ที่จริงแล้ว ในหลักวิหารธรรม พระพุทธเจ้าสอนลมหายใจ
เข้า รู้ว่าเข้า ออก รู้ว่าออก...ขั้นต่อไป รู้อาการ ลักษณะของลม
ต่อไป เราปรุงกายสังขารหรือไม่ แล้วจึงหายใจ หรือหายใจก่อนปรุง
มันเริ่มเข้าสู่กระบวนการวิปัสสนาไปเรื่อยๆว่า แม้ลมหายใจก็ไม่คงที่
เพราะฉะนั้น การเจริญสติกับลมหายใจมั นจึงเกิดแทบจะ สติเกิดก่อน แล้วลมหายใจตามมา
สติมา สัมปชาโน มันจึงกลายเป็น....ผู้เจริญฌาน สามารถเจริญได้ถึงขั้นเป็นอริยบุคคล
บางสำนัก ปฏิเสธ อานาปาฯ แต่เจริญสติ อิริยาบทบรรพ
หรือว่า พิจารณาร่างกายเรามีธาตุทั้ง 4 ..
รู้ว่าดินตั้งอยู่อย่างไร ดับไปอย่างไร...รู้ว่าหัวจรดปลายเท้า สกปรกอย่างไร
หรือรู้ว่า ความตายเป็นธรรมดา
จริงไม๊ อาหารที่คุณกิน คุณกินอะไร ..ศพปลา
เมื่อเช้าชั้นเพิ่งส่งศพหมูไป 1 ตัว ....ให้โรงครัวที่ปทุมฯ รังสิต
เมื่อเวลาเราขาดลม ก็เป็นศพ
อย่างนี้อร่อยไม๊ ...ตอนหิวก็อร่อยไปหมด...เราอยู่ได้เพราะศพ
ผักเป็นอะไร.... ศพทั้งนั้น ศพเน่า สะอาดหรือสกปรก
เจริญอย่างนี้ เค้าเรียก เจริญกายานุสติฯ
อานาปาฯ เค้ารู้แต่ลมหายใจอย่างเดียว แต่กายาฯ รู้ความเป็นไปภายในกาย
รวมแล้วทั้งหมด พระพุทธเจ้าเรียกว่า มหาสติปัฏฐานสูตร
แล้วอารมณ์เกิดจากภายในหรือภายนอก ...เวทนานุสติฯ
จิตตานุสติ ...ที่หลับไปแล้ว เป็นบุญหรือเป็นบาป หรือเป็นอัพยากฤต คือ เฉยๆ
จิตสภาพที่เฉยๆ ..เป็นกลาง ขึ้นอยู่กับว่าใครมาชวนไป
ขึ้นอยู่กับว่า อะไรมาชวน คนมาชวนไปฟังธรรม เรียกกุศลชักชวน ..ไปดูหนัง อกุศล ชวนคุณแทนคุณ ผู้ที่ถูกน้ำท่วม ทำกรรมอะไรไว้ พระอินทร์ไม่ช่วย ไม่ได้ทำอะไร
หลวงปู่ รู้สึกพระอินทร์จะอยู่วัดวังตะกู มีพระชื่อ พระอินทร์ เดี๋ยวชั้นเจอ จะถามให้
จะไปยุ่งอะไรกับพระอินทร์ ทุกวันนี้ มนุษย์ทำให้เกิดวิบัติ ไม่ใช่คนอื่นทำ
สมัยก่อนไม่มีใครคิดทำกั้นน้ำ แผ่นดินไทยมันมากกว่าน้ำ
คุณลองหลับตานึกดู น้ำหยดหนึ่งในหลอดกาแฟ มากไม๊ มาก
ทำไมไม่ให้มันไหลบ่าไปทั้งแผ่นดิน...แต่ทุกวันนี้ คนกลัว ....
น้ำมันไปไหน มันก็ไม่มีแผ่นดินไป ก็นอง
อยากให้น้ำแห้งไม๊
บอกให้รัฐบาลลาออก เอ้าจริงๆ กล้าหรือเปล่า
ไม่เห็นยาก ชั้นทุบหมดเลย ที่มันบังๆ
กรุงเทพฯ ที่บอกไม่ท่วม ก็ให้ท่วมตาตุ่ม เดือดร้อนไม๊
นวนครก็ให้ท่วมเฉลี่ย ...ไม่ใช่ท่วมเฉพาะทุ่งนา
เฉลี่ยกันไป ก็เหลือน้อย ชั้นไม่จบ ป. 4 ยังคิดได้ พวกนั้นจบปริญญา
เดือดร้อนจากคนโง่ด้วย
ที่ไหนทรายกั้นน้ำได้...ก่อสูงจากถนน 4 เมตร น้ำน่ะ แค่รูใส้เดือนเจาะ ก็เจ๊ง
ก่อนหน้านี้ มีฝนแล้งอยู่ 2-3 อาทิตย์ ถ้ารู้จักพร่องน้ำ หาวิธีแก้น้ำให้ตรงจุด
บ่าไปทั่ว ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน แต่สร้างความรำคาญ
คนไทย ไม่ชอบความรำคาญ...กั้นไม่อยู่ ก็พัง ทีนี้ก็ มีตัวเพิ่มความรำคาญ คือ เดือดร้อน
ประกาศผิด... กูขนทั้งคืน บอก ขออภัย เข้าใจผิด
คุณแทนคุณ สถานการณ์อย่างนี้ จะมีมากขึ้นไม๊ครับ
หลวงปู่ สถานการณ์อะไร สถานการณ์ขออภัยเหรอ
คุณจะเจอทุกปี ถ้าไม่เฉลี่ย..โบราณเค้าเก็บที่นาไว้ยามน้ำบ่า
ต้องโทษรัฐบาล ยุชาวนาทำนา เพื่อเอามาจำนำ เลยไม่มีที่ว่างให้นาอยู่
ขนาดอดีตนายกฯ คนเตี้ยๆ ...ยังบอก ไม่ต้องห่วง นาเกี่ยวก่อน
นาไม่ต้องห่วง ก็เข้าบ้านสิ ใครเดือดร้อน ชาวบ้าน
สมัยก่อน เค้าเก็บพื้นที่ให้น้ำอยู่ ปลูกบ้านยังใต้ถุนสูง
น้ำมา ก็หาย เค้าชอบใจด้วย เพราะน้ำพาลาภมาให้..... ปลา ปุ๋ย
อยุธยา ...อู่ข้าวอู่น้ำ กลายเป็นอู่ข้าว อู่โรงงาน
สมน้ำหน้า อยุธยามันไม่ควรตั้งโรงงาน มันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ
เป็นที่ลุ่ม แล้วจะมาบ่นอะไร เป็นกรรมอะไร กรรมโง่
เค้าไม่อยู่แล้ว ไปอยู่เขมรแล้ว
คุณแทนคุณ พระบิณฑบาตร ยืนให้พร ผิดหรือเปล่า
หลวงปู่ ที่จริง มันจะเอายังไงดี
พระไม่ให้พร มันก็บ่น ให้พร มันก็ด่า
รักษาน้ำใจ ก็หาว่า ผิดวินัย แล้วจะทำยังไงจ๊ะ โยมจ๋า
ถ้าไม่ให้พร พรุ่งนี้อด
บางทีเดินพ้นไปแล้ว ยังเดินตามมาทวง เมื่อกี้ ยังไม่ได้ให้พร แล้วคุณทำไง
ทำไม่ถูกแล้ว ชั้นเจอมากับตัวเอง
ถ้าทำถูก ต้องอย่างพระเกษม
อย่าว่าแต่ยืนให้พรเลย ภิกษุไม่เป็นไข้ ยืนแสดงธรรม อาบัติ
อาบัติ เป็นเฉพาะตน แต่ให้พรเป็นศรัทธา
อันไหนถูกต้อง สรุป เอายังไง เอาพรหรือไม่เอาพร
เอาพรค่ะ (ครับ)
คุณแทนคุณ พิจารณาเป็นรายๆ
หลวงปู่ หลวงตาบอก แล้วกูจะรู้ไม๊ รายไหนจะเอา ไม่เอา
คุณแทนคุณ แถวบ้านผม เอาเก้าอี้มานั่งให้พร
หลวงปู่ ขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่เอา กลับ
คุณแทนคุณ หลวงปู่จะให้กำลังใจกับพนักงานการไฟฟ้าอย่างไร
การทำงานกับชุมชน บางครั้งแทนที่จะร่วมมือ การพัฒนาต้องทำ ...สิ่งที่ต้องทำ
หลวงปู่ ทั้งหมดมันอยู่ที่ประโยชน์ เฉลี่ยประโยชน์ให้เหมาะสม รักษาสมดุลย์
ถ้ามีคำว่า ได้กับเสีย ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้
ถ้ามีคำว่า ประโยชน์ร่วมกัน อะไรก็อยู่ร่วมกันได้
ถ้าประโยชน์ร่วมกัน อะไรก็ไปกันได้
ผู้บริหารเฉลี่ยประโยชน์ร่วมกันให้ได้
ทำให้ชาวบ้านเห็น เข้าใจ ประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง จบ
คุณแทนคุณ การปกป้อง การเตรียมพร้อม
ล่าสุด อยุธยารอด เพราะว่า ยกใต้ถุนสูง เรียกว่า ถอยหลังเข้าคลองไม๊
หลวงปู่ ถ้าเป็นชั้น ชั้นว่า รัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด อพยพให้ถาวร
ทำยังไงก็ได้ พื้นที่ลุ่ม ต้องทำแก้มลิง อพยพผู้คนให้ออกให้หมด ขุดแก้มลิง
ยามน้ำหลาก เก็บน้ำได้ ยามน้ำแล้ง ใช้ได้
ภูมิปัญญาโบราณ เราต้องอยู่ร่วมกับน้ำ
ภูมิปัญญาแบบใหม่ ก็ต้องอพยพ ขุด...
ชั้นไปอยุธยา กำแพงพัง...
คุณแทนคุณ เค้ามีข่าวอพยพด่วน นวนคร
หลวงปู่ นึกว่า การไฟฟ้า ..ไหนว่า ไม่ท่วมไง
คือ ฟังได้ แต่อย่าไปเชื่อ
เมื่อวานรัฐบาลประกาศ เกษตร มวลน้ำเหนือมาแล้ว ชั้นโทรฯไปนครสวรรค์ ยังท่วมอยู่เลย
อ๋อ ที่ท่วม น้ำลาย ....
เหนือไหนก็ไม่รู้ ลงมาหมดแล้ว
นครสวรรค์ ชัยนาท ก็ยังมีน้ำเหลือ
ยังไม่เข้าใจ มันลงมาตรงไหน
เตรียมตัวให้ดีแล้วกัน อยู่อย่างมีสติ อย่าใช้อารมณ์
คุณแทนคุณ หลวงปู่มีความเห็นอย่างไรกับคำทำนาย
หลวงปู่ ฟังไม๊ ชั้นอ่านให้คุณฟัง พระพุทธเจ้า....16 ข้อ
พระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นพระสุบินนิมิตร ไปถามพราหมณ์ บอกให้พระองค์ทำพลีกรรมฆ่าสัตว์
พระมเหสี ถามว่า ทำไม ไม่ไปทูลถามพระพุทธเจ้า
พระองค์ทรงเล่าเรื่องสุบินนิมิตรดังนี้
1. ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิดจะชนกัน ก็พากันวิ่งมาสู่ท้อง
พระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดู โคทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้วต่างก็ถอยออก
ไป ไม่ชนกัน
- พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในช่วงศาสนาของพระองค์ เมื่อโลกหมุนไปถึง
จุดที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น คล้ายเมฆ
ตั้งเค้าจะมีฝน มีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้วก็ไม่ตก กลับเลยหายไป เหมือนโคตั้งท่าจะชน
กัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น
ฝนไม่ตก เพราะคนขาดศีลธรรม
2. ทรงฝันว่า ต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว
- พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์ มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีราคะกล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้วผู้เยาว์จะมีราคะแก่กล้า
3. ทรงฝันว่า ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโคที่เพิ่งเกิด
- ทรงทำนายว่า ต่อไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์จะ
เสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่เมื่อหมดที่พึ่ง หาเลี้ยงตนไม่ได้ ก็ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆ
ดังที่แม่โคที่ต้องกินนมลูกโคฉะนั้นจะมีผล เมื่อมนุษย์ขาดความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่
4. ทรงฝันว่าผู้คนไม่ใช้วัวตัวใหญ่ ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียน กลับไปใช้โครุ่นๆ ที่ยังปราศจากกำลังมาลาก เมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่ได้ มันก็สลัดแอกนั้นเสีย
- ทรงทำนายว่า ในภายหน้าเมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม แทนที่จะยกย่องและมอบ
หมายหน้าที่ ให้กับผู้มีสติปัญญา ความรู้ กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จ ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น
ไม่พระราชทานรางวัลให้ผู้มีความสามารถ กลับอำนวยอวยชัยให้ผู้โง่เขลาขาดสติ
5. ทรงฝันว่าเห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองข้าง ฝูงชนก็เอาหญ้าไปป้อนที่ปากทั้งสองข้าง มันก็กินทั้งสองข้าง
- ทรงทำนายว่า ในอนาคตเมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่ในธรรม ตั้งคนพาล
หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่น คนเหล่านั้นก็จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่จะตัดสินคดีต่างๆ ตามแต่ใจชอบ โดยเอาสินบนจากทั้งสองฝ่ายเป็นประมาณ ดังม้าที่กินหญ้าทั้งสองปาก
คดีต่างๆ อยุติธรรม สมัยนี้ มีไม๊ ก็เริ่มมีแล้วนะ
6. ทรงฝันว่าฝูงชนเอาถาดทองราคาแพง ไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง พร้อมเชื้อเชิญให้
หมาจิ้งจอกตัวนั้น ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น
- ทรงทำนายว่า ต่อไปคนดีมีสกุลทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำ หรือคน
พาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และคนมีตระกูล ก็จะต้องยกลูกสาว ให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น
เหมือนเอาถาดทองไปให้หมาปัสสาวะรด
สกุลเลวได้เป็นใหญ่
7.ทรงฝันว่า มีชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปในที่ใกล้เท้า แม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง
นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่ แล้วก็กัดกินเชือกนั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว
- ทรงทำนายว่า ในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว
เที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามีหาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้
เหมือนนางหมาโซที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่น และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า
ผู้หญิงทุศีล คบชู้สู่ชาย
คุณแทนคุณ แค่นี้พอนะครับ
หลวงปู่ มันมีกระเบื้องน้อยลอย...
คุณแทนคุณ เมื่อวานผมถามหลวงปู่...
หลวงปู่ เอาตรงนี้ก่อนดีกว่า ทรงฝันเห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้
- ทรงทำนายว่า ต่อไปคำพูดของคน ที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความ
เชื่อถือ โดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะ
ลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก หรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนัก ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้
สัจจธรรมเสื่อม คนทุศีลจะได้ดี คนมีศีล...ในหมู่สงฆ์ น่าจะมี เพราะอาตมาเจอมากับตัว
นี่ก็น่าดู ฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัว จนต้องหนี
ไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ
- ทรงทำนายว่าต่อไปภายหน้า คนชั่ว หรือคนที่ไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจเป็น
ธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้าย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้าย
เหล่านี้ เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ
ประมาณว่า เสื้อแดงเต็มเมือง แล้วตำรวจหลบ
มันเข้ากับเหตุการณ์ไง วันนั้น ชั้นไป โบกกันให้หลบ
เสือกลัวแกะ จบ
คุณเป็นคนถามชั้นเองนะ
คุณแทนคุณ การเวียนว่ายตายเกิด...
หลวงปู่ อุ๊ย คืนเดียว พัฒนาไปนิพพาน
เวลานี้ น้ำมันบีบคั้นเรา อีก 2 เดือน เศรษฐกิจ โรคภัยไข้เจ็บจะบีบคั้นเรา
การเมืองจะบีบคั้นเราอีก
บอกได้ว่า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ เรื่องที่ยาก สร้างมิตรแท้
ขณะนี้ เรากำลังสร้างมิตร ...ช่วยได้ ช่วย แต่อย่าให้เดือดร้อน
อยู่ในแนวทางของศีล สมาธิ ภาวนา ...เงินต่อเงิน
แต่ถ้าแสวงหาของกิน เสพกาม ของที่โปรด มันก็แค่นั้น
แต่ใช้เงิน ก่อให้เกิดทาน ศีล สมาธิ ภาวนา เรียกว่า ใช้เงินอย่างฉลาด เพราะมีสติปัญญา
รายได้มาแบ่ง 4 ส่วน 1. เลี้ยงตน และครอบครัว สงเคราะห์ญาติ 2. เสียภาษีแผ่นดิน
3. เก็บไว้เป็นทุนในยามทุกข์ยาก และส่วนที่ 4 บริจาคตามเหตุตามปัจจัย
ถ้าใช้แบบนี้ ใช้แบบฉลาด ไม่เช่นนั้น แบบงู
...เค้าเกือบเสียชีวิต เพราะแบกตู้เย็น แล้วยังเฝ้าตู้เย็น ชวนมาอยู่วัดก็ไม่เอา จะเฝ้าตู้เย็น
ถ้าคนฉลาด จะเลือกเอาสิ่งดีมีสาระ
ถ้าเป็นไปได้ ไปหาที่อยู่ใหม่ ราชการเค้าจะได้ช่วยเหลือ ดูแล
ถ้าเฝ้าหลังคาบ้าน เข้าใจผิดแล้วล่ะ
คิดแบบชาญฉลาด นั่นคือ ผู้เจริญ เจริญธรรม
ขอแจ้งข่าว หลายคนที่การไฟฟ้าคงทราบดีว่า ชั้นไปสร้างโบสถ์ที่บางลาน
สำหรับ 7 วัด ใกล้เสร็จ ปีนี้น่าจะเสร็จ อีกล้านกว่า น่าจะจบ ...ทำมาห้าปีแล้ว น่าจะจบ
ก็บอกข่าวบุญ...ให้ดำรงอยู่ในด้ามขวานนี้
กฐินวัดอ้อน้อย..... ขอผาติกรรมจากสงฆ์ จะทำพลีกรรม ไปช่วยผู้ตกทุกข์ลำบาก
ก็ฝากบอกไว้ว่า ใครมีกำลัง ไม่เดือดร้อน อยู่ในวงเล็บว่า (ไม่เดือดร้อน)
ทรัพย์ต่ออริยทรัพย์ ก็บอกต่อๆกันไปแล้วกัน
คุณแทนคุณถวายปัจจัยหลวงปู่
หลวงปู่ ให้อีกแล้ว
ขอให้ทุกคนอนุโมทนา เมื่อวาน คุณแทนคุณถวาย 20,000 วันนี้ถวาย 2,000
ข่วยประกาศ บอกกล่าว จะมีบวช...บวชแล้ว ไปอยู่ป่า 15 วัน...
แผ่นดินไหวอีกแล้ว ที่ไหนไม่รู้ รู้สึกไม๊