หลวงปู่พุทธะอิสระ แสดงธรรมวันอาทติย์ที่ 10 กรกฎาคม 2554
หมวดสุขภาพ:
* หลวงปู่ฯ ไปแต่งต้นไม้ แล้วฝุ่นเข้าคอ ปาก เลยเจ็บคอ หลอดลมอักเสบ เลยใช้ยาแก้ไข
แกะแคปซูลออกแล้วนัดยาเข้าจมูกให้ลงคอ
ถ้าต้องการภูมิคุ้มกันแข็งแรงให้นอนภายใน 3 ทุ่ม ไม่ควรนอนดึก อย่ากินแป้งมากนัก
เส้นเลือดฝอย เส้นเลือดแดงจะแตกง่าย ไขมันหน้าท้องเนี่ยตัวร้าย เป็นไขมันเลว ทำให้การ
ย่อย การขับถ่ายไม่ดี ยิ่งนอนดึกยิ่งกินมาก แล้วถ่ายน้อย... เสียดาย ขี้ไม่ให้หมากิน
^_^
* คนป่วยมี 2 ประเภท คือป่วยเพราะโง่ กับป่วยเพราะกลัว พวกนอนดึก ตื่นสาย กิน
ส่งเดช ติดสารเสพติด ไม่ดูและจิต ปล่อยให้เสร้าหมอง พอป่วยแล้วก็กลัว กินยา ทำร้ายตัว
เองอีก ตับไต ไขกระดูกโดนทำลาย
* คนเรามีเชื้อโรคในร่างกาย แต่ยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ ก็เลยยังไม่เป็นอะไร
* มีหมอพาลูกมารักษามีปัญหาเรื่องเลือด ==> หลวงปู่ฯ บอก มีปัญหาที่เลือดไม่ใช่ให้
แก้ที่เลือดอย่างเดียว ต้องบำรุงกระดูก และไขกระดูก เพื่อให้ผลิตเม็ดเลือดชั้นดีเพิ่ม
* ให้ดูแลจิตตัวเองให้ดี ทุกวันนี้อยู่กับปัญหา ปัญหาธุรกิจ ปัญหาการเมือง โทรทัศน์ ฯลฯ
ปราณก็เสีย ชีวะก็เสื่อมลง
** ให้กลับมาอยู่กับตัวเอง อยู่กับไขกระดูก อยู่กับปราณ
*** โลกใบนี้มันไม่น่าอยู่แล้ว เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลก และโรค อย่างเป็นผู้ชาญ
ฉลาด และมีสติปัญญา สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองมาก ๆ
* แดด ตอน 7-8 โมงเช้า มีคุณกับปอด เดินให้เหงื่อซึมผิวหนังเพื่อระบายน้ำออกจาก
ปอด (มีคนไข้น้ำในปอดเยอะ)
** อย่าลืม 4 อ มีผลต่อสุขภาพ ==> อารมณ์ อาหาร อากาศ อาการ
* ผู้ป่วยเป็นลำไส้อักเสบ ต้องให้อาหารทางสายยาง ==> ให้กินอาหารแบบเด็ก รสไม่
จัด ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ค่อย ๆ พัฒนาตัวเองจนผนังบุลำไส้หนาขึ้น แล้วค่อย ๆ พัฒนา
อาหารขึ้น ==> ต้องรู้จักตัวเอง "มีสติในกาย กายนี้ไม่ลำบาก มีสติในวาจา วาจานี้ไม่
ลำบาก มีสติในใจ ใจนี้ไม่ลำบาก"
* มีผู้ปุจฉาเรื่อง คุณยายอายุมากแล้ว เป็นโรคถุงลมโปร่งพอ อาเจียนเป็นเลือด ==>
หลวงปู่เมตตาวิสัชนาว่า ให้กินยาแก้หลอดลมอักเสบ จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากอายุ
ไม่สามารถรักษาถาวร ให้พามาตรวจ
หมวดคุณภาพชีวิต คุณธรรม จริยธรรม:
* มีคุณยายท่านหนึ่งอาศัยที่ชายวัดอยู่ วันก่อนหลวงปู่ไปตรวจงานท้ายวัด ไปเจอเข้าเห็น
ขาบวมเป็นแผล นั่งร้องโอดโอย (ปกติหลวงปู่ จะให้สมภาพนำข้าวสารอาหารแห้งมาให้
อยู่แล้ว) เลยสอบถามว่าทำไม ไม่ไปหาหมอ คุณยายบอกว่าไม่รู้จะไปยังไง ไม่มีเงิน
หลวงปู่ถามถึงบัตรสุขภาพ-บัตรทอง คุณยายบอกว่าไม่มี ถามถึงว่ากำนัน-ผู้ใหญ่บ้านไม่
มาดูเหรือ คุณยายบอกว่าไม่มีมา หลวงปู่ก็เลยให้ที่วัดเอารถเล็ก (คันเหลืองที่ขายอาหาร)
พาคุณยายไปตรวจที่โรงพยาบาลพร้อมกับให้เงินค่ารักษาไป 1,000 บาท
* เรื่องนี้หลวงปู่นำมาสอนลูกหลานว่า คนเราถ้าปากไม่ดี ลูกหลานไม่ดี ไม่เลี้ยงดู คนแก่
ทั้งหลายให้พูดเพราะ ๆ ให้คนรอบข้างเห็นใจ
* ให้มีวจีไพเราะ โดยเฉพาะคนแก่ ๆ จะได้มีคนดูแลเห็นใจ อย่าให้ลูกหลานขัดเคือง
อย่าถือดี เพราะคนสมัยนี้เราไม่ได้สอนให้มีสัมมาคาราวะ ยิ่งถ้าเราไม่ีมีตังค์มันจะตัดหาง
ปล่อยวัด มีลูกต้องสอนให้มีสัมมาคาราวะ ต้องปลูกฝัง ต้องใช้เวลา ต้องสอนให้นอบน้อม
คุณธรรมต้องปลูกฝัง ปลูกฝังคาราวะธรรม เพราะว่ามันจำบุญคุณเพื่อนมากกว่าพ่อ-แม่
* มีญาติธรรมปุจฉาเรื่องกลุ้มใจที่แม่และพี่สาวไม่คุยด้วย เรื่องโอนที่ดิน ==> หลวงปู่
มีเมตตาวิสัชนาและยกตัวอย่างลูกศิษย์อีกท่านหนึ่งที่กำลังหนีญาติเนื่องจากโดนตามฆ่า
เรื่องที่ดินเช่นเดียวกันว่า เดี๋ยวนี้มันขนาดนี้กันเชียวหรือเนี่ย สมบัติบ้า ออกจากท้องแม่พก
ที่ดินมากี่แปลง ในเมื่อพวกมึงไม่ได้พกมันออกมาแล้วมึงจะมาฆ่ากันทำไม ชีวิตนี้มีค่าน้อย
กว่าสมบัติอีกหรือ? ออกจากท้องแม่มันแบกที่ดินมากี่แปลง มึงจะฝังมันหรือมันจะฝังมึง
อนาคตมึงจะเป็นไส้เดือน คิดต่ำ ๆ สัตว์ชั้นต่ำ มองเห็นสมบัติสำคัญกว่าชาติญาณความเป็น
มนุษย์ *** ทำตนเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่หน่อยเถอะ อยากได้ก็เอาไปเลยแม่ ให้แม่ทำ
หนังสือค้ำประกันให้ญาติเซ็นต์รับรองให้หน่อย ให้หนูได้อาศัยได้มีที่ซุกหัวนอนไปตลอด
ชีวิต
สรุป วันนี้หลวงปู่เมตตาแสดงธรรมสองเรื่องหลัก ๆ คือ:
1. ให้รู้จักที่จะมีชีวิตอยู่กับสถานะการณ์โลก และโรค เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างชาญ
ฉลาด
2. ให้มีวจีไพเราะ โดยเฉพาะคนแก่ ๆ จะได้มีคนดูแลเห็นใจ
หมวดกรรมฐาน - ปฏิบัติธรรม:
* ญาติธรรมปุจฉาว่า มีวิธีดับกิเลศ หลงในรูป-รส อย่างไร ==> หลวงปู่เมตตาวิสัชนา
ว่า มองให้เห็นความเป็นจริงของรูปว่าตั้งอยู่ได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุปัจจัยของรูปสวย
==> ต้องรักษา อยู่ไม่นาน ต้องคอยอาบน้ำ แต่งหน้า อยู่ทุกวัน ทั้งเดือนถ้ามันไม่อาบน้ำ
จะยังสวยอยู่ใหม ต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการในความสวย - ความหอม
รูป มีพัฒนาจาก ออกมาจากท้องแม่กว่าจะ ขาว หมวย สวย อึ๋ม ต้องใช้เวลากี่ปี - 12 ปี
ก็มีลูกมีผัวแล้ว แล้ว 12 ปี เนี่ยมันลำบากไหม แล้วมันคงที่ไหม
ทุกวันนี้เราไม่เห็นตามความเป็นจริง แต่เห็นตามกิเลศ สุดท้ายมันก็เป็นเจ้านายเรา "ไม่มี
อะไร ไม่ได้อะไร ไม่เหลืออะไร กูตายแน่"
* ญาติธรรมปุจฉาว่า เดินกรรมฐานแล้วมีพลังงานเหมือนคลื่นไฟฟ้า ทำอย่างไรจะให้
พลังงานหมดไป เพราะทำให้นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ==> หลวงปู่เมตตาวิสัชนา ว่าเคย
สอนไปแล้วนี่ ทุกครั้งเวลาเลิกจะสอนวิธีเดินลมอักษรสวรรค์ ไปทำ
* ญาติธรรมปุจฉาว่า เดินปฏิบัติแล้วง่วง ==> หลวงปู่เมตตาวิสัชนาว่า ให้มันหลับไป
เลยลูก หลับให้สนิทนะ กูหมดปัญญา ทุเรศ เดินหลับ จบ
*** การปฏิบัติกรรมฐาน วันนี้หลวงปู่ให้เริ่มเดินจากขั้นที่ 10 โดยเน้นย้ำอยู่ตลอด
เวลาว่า ให้ "รู้" เฉย ๆ รู้ที่กลางกระหม่อม ไม่ต้องคิด จิตมีหน้าที่ รับ จำ คิด รู้ แต่ตอนนี้
สอนให้ "รู้" อย่างเดียว "รู้" เฉย ๆ
*** จากขั้นที่ 10 ให้เดินปรับเป็นขั้นที่ 2 แล้วต่อด้วยขั้นที่ 9 แต่ยังทำกันไม่ค่อย
ได้ หลวงปู่เลยให้เดินขั้นที่ 8 โดยไม่ต้องกำหนดลมหายใจร่วม ซึ่งในขั้นที่ 8 นี้ หลวงปู่มี
เมตตาอธิบายว่า ขั้นที่ 8 จะ มี 2 ภาค คือ ภาคแรกให้นับจังหวะ อย่าให้เคลื่อน อย่าให้
ขาด อย่าให้เกิน จนแม่นแล้ว จึงมาเดินขั้นที่ 8 ภาคที่ 2 โดยการรู้การถ่ายเทน้ำหนักของ
เท้า และเมื่อขั้นที่ 8 ภาคที่ 2 แม่นแล้ว จึงเลื่อนไปเป็นขั้นที่ 9 โดยใช้ลมหายใจเข้า
ร่วม
*** ขั้นที่ 10 นั้นก็คือกระบวนการใช้ปราณ ซึ่งเป็นขั้นเดียวกับภาคที่ 1 โดยหลวง
ปู่แอบสอนมาเป็นปีแล้ว คือ ขั้นที่ 1 มี 2 ภาค (ภาคกาย และภาคจิต ซึ่งภาคจิตนี้ ก็คือ
ขั้นที่ 10 นั่นเอง)
**** ให้ปฏิบัติจนเกิดอารมณ์ประภัสสร อารมณ์สนุก อยากทำต่อเนื่อง ปฏิบัติจนทำให้
เห็นความเคลื่อนไหวของกายและกระดูกทุกข้อ
**** วันอาทิตย์หน้า (17 กรกฎาคม) หลวงปู่งดไปแสดงธรรมที่โรงพยาบาล
ทหารเรือ เพื่ออยู่สอนลูกหลานให้เข้ม "กรรมฐาน คือ บุญอันเลิศ ต้องให้ความสำคัญของ
การฝึก"