ผู้หลงใหลในกามสุขหรือติดในสุขแล้ว เขาก็ไม่คิดจะทุกข์ เมื่อไม่เจอทุกข์ก็ไม่อยากจะพ้น..
พวกเรามีสารเสพติดทุกคน มีอารมณ์เสพติดทั้งนั้น หลงใหลจนขาดมันไม่ได้ (มักจะอ้างว่าเพราะสังคมยอมรับอยู่เสมอ...)แล้วก็ขวนขวยให้ได้มาจนวันตาย
ยาเสพติดมีวิธีและมียาบำบัด แต่การเสพอารมณ์ที่เสพติด นั้นยากที่จะแก้ไจทีเดียว ต้องอาศัยครูผู้มีใจอารีย์
หมาเดือนสิบสองเป็นตัวอย่างของสัตว์ที่ติดในสิ่งเสพติดทางอารมณ์ ชีวิตจะมีแต่การสูญเสีย และถูกทำลายความเป็นไท
คนน่าสงสาร คือผู้ติดสิ่งเสพติดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คนน่าสมเพช คือผู้ที่ดีก็รู้ ชั่วก็รู้ แต่ยังไม่พยายามกำจัด (แสดงว่ารู้ไม่จริง)
เจ้าอย่าได้โง่งมงาย แม้จักมีบ้านใหญ่โต เจ้าอย่าได้คุยโว นั่นเพียงแค่นอนหลับแมัจักมีทรัพย์สินเหลือคณานับ เจ้าอย่าเพียงยอมรับว่าเจ้าอยู่กับโลก ถ้าเจ้ายังไม่สิ้นทุกข์ สิ้นสุข สิ้นโศก เจ้าก็เป็นผู้ติดโรคผู้หนึ่งทีเดียวแหละ
ไม่ว่าเผชิญกับสภาวะใด "อย่าให้สภาวะนั้นสิงอารมณ์หรือปรุงแต่งเราจนเฉื่อยแฉะเชื่องช้า..."
ห้องขัง หรือคุกแห่งอารมณ์...มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะเปิดมัน
จิตใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ อันเกิดจากความปรุงแต่งของเราเอง คือการปฏิเสธธรรมชาติ และนั่นคือการทำลายธรรมชาติด้วย
อยู่ในสังคม เคารพกฎเกณฑ์กติกาของสังคม พึ่งพิงอิงแอบอาศัยสังคม แต่อย่าเป็นทาสสังคม เช่น สังคมเศร้าเราเศร้าด้วย สังคมโศกเราโศกด้วย สังคมเปียกเราเปียกด้วย ประกอบเข้ากับตัวเราเองก็ยังสับสน ชาติทั้งชาติตายแน่ๆ....ช่างน่าสงสารจริงๆ
เจ้าจงอย่าผูกมัดแล้วกักขังตัวเองในคุกแห่งอารมณ์....เพราะเมื่อใดที่เกิดอารมณ์
เจ้าจงรู้เถิดว่าเจ้ากำลังติดคุก
ลูกรัก
ต้นไม้ต่อให้ใหญ่โตตั้งตรง แกร่งและแข็งปานใด แต่ถ้าขืนปล่อยให้เถาวัลย์และวัชพืชเกี่ยวพันขึ้นรกปกคลุมจนมืดมัว คงไม่มีโอกาสโดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง ช่างน่ากลัว จะคดโกงไม่โปร่ง ขาดสง่า ไร้ค่า หมดสาระไป ดูแล้วอนาคตของไม้ต้นนี้อย่างดี ก็คงเป็นแค่ฟืนหรือไม่ก็ผุกร่อนกลายเป็นผงทับถมปฐพีเป็นแน่
พวกเรามีสารเสพติดทุกคน มีอารมณ์เสพติดทั้งนั้น หลงใหลจนขาดมันไม่ได้ (มักจะอ้างว่าเพราะสังคมยอมรับอยู่เสมอ...)แล้วก็ขวนขวยให้ได้มาจนวันตาย
ยาเสพติดมีวิธีและมียาบำบัด แต่การเสพอารมณ์ที่เสพติด นั้นยากที่จะแก้ไจทีเดียว ต้องอาศัยครูผู้มีใจอารีย์
หมาเดือนสิบสองเป็นตัวอย่างของสัตว์ที่ติดในสิ่งเสพติดทางอารมณ์ ชีวิตจะมีแต่การสูญเสีย และถูกทำลายความเป็นไท
คนน่าสงสาร คือผู้ติดสิ่งเสพติดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คนน่าสมเพช คือผู้ที่ดีก็รู้ ชั่วก็รู้ แต่ยังไม่พยายามกำจัด (แสดงว่ารู้ไม่จริง)
เจ้าอย่าได้โง่งมงาย แม้จักมีบ้านใหญ่โต เจ้าอย่าได้คุยโว นั่นเพียงแค่นอนหลับแมัจักมีทรัพย์สินเหลือคณานับ เจ้าอย่าเพียงยอมรับว่าเจ้าอยู่กับโลก ถ้าเจ้ายังไม่สิ้นทุกข์ สิ้นสุข สิ้นโศก เจ้าก็เป็นผู้ติดโรคผู้หนึ่งทีเดียวแหละ
ไม่ว่าเผชิญกับสภาวะใด "อย่าให้สภาวะนั้นสิงอารมณ์หรือปรุงแต่งเราจนเฉื่อยแฉะเชื่องช้า..."
ห้องขัง หรือคุกแห่งอารมณ์...มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะเปิดมัน
จิตใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ อันเกิดจากความปรุงแต่งของเราเอง คือการปฏิเสธธรรมชาติ และนั่นคือการทำลายธรรมชาติด้วย
อยู่ในสังคม เคารพกฎเกณฑ์กติกาของสังคม พึ่งพิงอิงแอบอาศัยสังคม แต่อย่าเป็นทาสสังคม เช่น สังคมเศร้าเราเศร้าด้วย สังคมโศกเราโศกด้วย สังคมเปียกเราเปียกด้วย ประกอบเข้ากับตัวเราเองก็ยังสับสน ชาติทั้งชาติตายแน่ๆ....ช่างน่าสงสารจริงๆ
เจ้าจงอย่าผูกมัดแล้วกักขังตัวเองในคุกแห่งอารมณ์....เพราะเมื่อใดที่เกิดอารมณ์
เจ้าจงรู้เถิดว่าเจ้ากำลังติดคุก
ลูกรัก
ต้นไม้ต่อให้ใหญ่โตตั้งตรง แกร่งและแข็งปานใด แต่ถ้าขืนปล่อยให้เถาวัลย์และวัชพืชเกี่ยวพันขึ้นรกปกคลุมจนมืดมัว คงไม่มีโอกาสโดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง ช่างน่ากลัว จะคดโกงไม่โปร่ง ขาดสง่า ไร้ค่า หมดสาระไป ดูแล้วอนาคตของไม้ต้นนี้อย่างดี ก็คงเป็นแค่ฟืนหรือไม่ก็ผุกร่อนกลายเป็นผงทับถมปฐพีเป็นแน่