8 พ ย 2556 19.00 - 20.15 น. ณ.เวทีกองทัพธรรม สะพานผ่านฟ้า
ธรรมะโดยองค์หลวงปู่พุทธะอิสระ

พิธีกร .....ท่านจันทร์ครับ กราบ
นมัสการครับ
ท่านจันทร์ ท่านทั้งหลาย กล่าวคำว่า สาธุ ดีกว่า มั้ย
ให้ดังกระหึ่มไปเลยทีเดียว (สาธุ) เอ้อ นั่นแหละ
คำว่า สาธุ เป็นคำแสดงความยินดีในทางธรรม ต้อน
รับการมาของพระ นักบวช สมณะ ผู้ที่กำลังจะเข้าสู่
การเรียนอิสระตามสำนึกในครั้งนี้ หลายท่านก้มลง
กราบเบญจาคประดิษฐ์อยู่เบื้องหน้า
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว
พุทโธ ธัมโม สังโฆ เจริญธรรม ท่านทั้งหลายที่มาสู่
เวทีประชาธรรม คือ เวทีประชาชน และเวทีกองทัพ
ธรรมร่วมกัน เป็นเวทีประชาธรรมในครั้งนี้ ณ.
โอกาสนี้ อาตมาขอทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ
ดังนั้นผู้ดำเนินรายการก็จะพูดสั้น พูดน้อย เพื่อเปิด
โอกาสให้หลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งพวกเรารู้จักท่าน
เป็นอย่างดี จากวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) มาแสดง
ธรรมะในประเด็น 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. เรื่องที่เราอยากเล่า ครึ่งเวลา
2. เรื่องที่เขาอยากรู้ ครึ่งเวลา
เรามีเวลาเพียง 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น ครึ่งเวลา ก็
คือ ประมาณ 30 นาที อาจจะไม่ถึงดี ประเด็นแรก
ขอประกาศบอกกับท่านทั้หลายก่อนว่า ท่านทั้งหลาย
ช่วยเขียนประเด็นที่ท่านอยากรู้ รวบรวมส่งมาสู่
อาตมา จะส่งผ่านผู้ที่เป็นเสนาธิการร่วมหรือใครก็
สุดแท้แต่เถอะ ณ.ขณะนี้ ทะยอยมาได้ เพราะช่วง
ครึ่งเวลาแรกเนี่ย จะเป็นช่วงครึ่งเวลาที่อาตมามอบ
ให้ พระพุทธะอิสระ หรือที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปว่า
หลวงปู่พุทธะอิสระ พูดในประเด็นเรื่องที่เราอยากเล่า
ก็นั่นแหละเนื่องจากเราเป็น..อิสระตามสำนึก
ปกติอาตมาจะมาพูดบนเวที มีสมณะ.. มาร่วมบน
เวทีด้วย อาตมาก็จะพูดเยอะหน่อย แต่ณ.โอกาสนี้
เนื่องจากตนเองเป็นพิธีกร เป็นผู้ดำเนินรายการ ก็
ขอแจ้งให้พี่น้องได้รับทราบว่า ถ้าผู้ที่อยู่ทางบ้าน
ประสงค์จะส่งประเด็นมาสู่เวทีนี้ ครึ่งเวลาหลัง เรื่อง
ที่เขาอยากรู้ จะนำมาสู่การสนทนากันระหว่างอาตมา
กับหลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งนั่งอยู่บนเวทีพร้อมนี้แล้ว
ด้วย เพราะฉะนั้น ท่านสามารถส่งประเด็นมาทาง
face book รักธรรมะ พระจันทร์ เป็นภาษา
ไทยนะ ส่งมาช่องข้อความ อาตมาก็จะรวบรวมมา
สนทนาธรรมกัน
บัดนี้น่าจะได้เวลาละ ขอนิมนต์ หลวงปู่พุทธะอิสระ
เข้าสู่ประเด็นตามที่ท่านเห็นสมควร นมัสการครับ
หลวงปู่ เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนคนรัก
ชาติที่รักทุกท่าน (สาธุ) วันนี้เป็นวาระที่ 2 ที่ได้
มีโอกาสขึ้นเวทีภายในสัปดาห์นี้ วาระแรก ก็ไปขึ้นที่
อุรุพงษ์ เค้านิมนต์ให้ไปเสวนา ไปพูดคุย วาระที่ 2
ก็มาที่นี่ พรุ่งนี้ก็ไปวาระที่ 3 ที่เวทีข้างหลังเรา
เนี่ย.... แล้วเดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้ เค้าก็นิมนต์
ไปที่อุรุพงษ์อีกรอบหนึ่ง
ท่านจันทร์ รู้สึกจะมัฆวาน..
หลวงปู่ เอ้อ มัฆวาน ไปมัฆวานอีกรอบหนึ่ง ก็
พักนี้ต้องเดินสาย เพราะว่า บ้านเมืองเราไม่ค่อยปกติ
เพราะคนผิดปกติมาดูแลรักษาบ้านเมือง ทำให้บ้าน
เมืองต้องมีปัญหา จริงๆ มันก็น่ายินดีอย่างหนึ่งนะ
มันทำให้พวกเราได้พบกัน ทำให้พวกเราได้มารวม
ตัวกัน แล้วก็ทำให้เราได้สั่งสนทนา ธัมมสากัจฉา
พูดคุนเจรจาธรรมซึ่งกันและกัน
วันนี้มา ไม่ได้มีธรรมะอะไรเยอะแยะมากมาย เพียง
แค่เอาแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีต่อ
รัฐสภาเมื่อครั้งที่ขึ้นอำนาจ หรือเรียกว่า มีอำนาจใน
การบริหารจัดการราชการแผ่นดิน ซึ่งก็พยายาม
เขียนให้ได้เท่าที่สามารถจะเขียนได้ตามสติปัญญา
แต่อยากจะบอกท่านที่รักทั้งหลายว่า การแถลงการณ์
ฉบับบนี้ มีวงเล็บว่า ฉบับโกหก
แถลงการณ์นโยบาย ฉบับโกหก โดยมีจุดมุ่งหมาย 3
ประการ
ท่านนายกฯ แถลงการณ์ต่อรัฐสภา ความว่า
1. การสร้างเศรษฐกิจที่สมดุลย์ ก็คือ
การกระจายรายได้ให้แก่คณะรัฐมนตรี ส.ส.
ส.ว. รวมทั้งลิ่วล้อที่หนุนรัฐบาลให้ร่ำรวยกัน
ถ้วนหน้า
ท่านจันทร์ อันนี้เรียกว่า สอพลอ
หลวงปู่ ข้อที่ 2. ที่นายกฯ แถลงการณ์ต่อ อัน
นี้ฉบับโกหกนะจ๊ะ แถลงการณ์ต่อรัฐสภา ก็ นำ
ประเทศไทยไปสู่สังคมแห่งความปรองดองสมานฉันท์
ด้วยการแบ่งกันกิน โกง โกย และร่วมกันฉัน เค้า
บอกว่า ให้อยู่บนพื้นฐานกฏหมายนิรโทษเหมาเข่ง
เพื่อให้ผู้คนในทุกสังคมออกมาแสดงพลังต่อต้าน
และรุมด่าดิชั้นทุกหย่อมหญ้า เช่นนี้แหละ จึงเรียกว่า
เป็นการปรองดองขนาดแท้ค่ะ เพราะถ้าไม่ได้มี
กฏหมายเหมาเข่งอย่างนี้ พวกคุณก็คงไม่มารวมตัว
กันอย่างนี้ การรวมตัวอย่างนี้ก็แสดงว่า เป็นการ
ปรองดองกันมหาศาลพอสมควร
ข้อที่ 3. นำประเทศไทยไปสู่ความพร้อมในการ
เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการให้พี่ชายและคน
ของพี่ชายแอบไปตกลงกับเขมร พม่า ลาว และจีน
เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้ต่างตอบแทนด้วย
ทรัพยากรของแผ่นดินไทย และเพื่อให้เกิด
ประโยชน์สูงสุดแก่ตระกูลของดิชั้นนะ
จะพยายามจัดกระบวนการศึกษาให้แก่เด็กและ
เยาวชนคนในชาติให้โง่เข้าไว้มากๆ อ้อ ขออภัยค่ะ
พูดจาไม่สุภาพ ให้ฉลาดน้อยหน่อย จะได้ ว่านอนจูง
ง่าย ไม่ใช่ ว่านอนสอนง่าย ว่านอนแล้วจูงง่ายๆ
เหมือนอย่างทุกวันนี้ พวกดิชั้นจะได้มีความเข้มแข็ง
ในการโกงกินสบายๆ ค่ะ
ในด้านเศรษฐกิจ ดิชั้นจะกระชากราคาสินค้าให้มัน
เพิ่มขึ้น ด้วยการประกาศขึ้นต้นทุนการผลิต เช่น ค่า
แรง 300 บาท ขึ้นราคาพลังงานและอุปกรณ์การ
เกษตรทุกชนิด เช่นนี้ก็จะทำให้ หมู ไก่ ไข่ ปลา
แพงขึ้นมาได้แล้วค่ะ แล้วประชาชนจะทำอย่างไร
ประชาชนก็จะได้ปากกัดตีนถีบกันมากขึ้น อันนี้ก็จะ
ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนเลื่อนเข้าสู่กระเป๋าของ
นายทุนเงินกู้รายวันได้เยอะขึ้นนะคะ
ด้านวัฒนธรรม ก็จะให้รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ไป
ขโมยลิขสิทธิ์เพลงมาร้องขายโชว์ห่วย วัฒนธรรม
ไทยเราก็จะได้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก เพราะว่า เรา
ได้มาจากการขโมยลิขสิทธิ์นะคะ
ด้านการเมือง อันนี้ดิชั้นไม่ค่อยถนัดค่ะ คงต้องเป็น
หน้าที่ของพี่ชายและเป็ดเหลิมค่ะ ส่วนความมั่นคง
ไม่ต้องพูดถึง พี่ชายดิชั้นเป็นตำรวจเก่า พี่ชายของพี่
สะใภ้ดิชั้น ก็เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
และดิชั้นก็มีลิ่วล้อที่ขึ้นป้ายว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้
เช่นนี้มันก็คงจะมั่นคงนะคะ และดิชั้นก็จะมั่นคงได้
มากขึ้น เพราะพี่ชายดิชั้น สั่งให้ไปนั่งเป็นรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงกลาโหม คุมทหารทั่วประเทศค่ะ
นายกฯ แถลงต่อไปว่า นโยบายของรัฐมนตรีจะมี 2
ส่วนสำคัญ คือ นโยบายเร่งด่วน ต้องรีบช่วยพี่
ชายกลับบ้าน และนโยบายตลอดอายุขัยของรัฐบาล
• จะพยายามเพิ่มหนี้ให้ประชาชน และ
ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นตลอดอายุของรัฐบาล
• จะทำให้สินค้าเกษตรทุกชนิดราคา
ตกลง
• จะทำให้บริษัทรถและขายบ้านขายได้ดี
• จะทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นค่ะ
• จะทำให้ข้าราชการทุกภาคส่วนอยู่ใน
อำนาจของนักการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อ เพื่ออะไร
ก็เพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นในวงข้าราชการ
อันนี้นักการเมืองจะได้รับเต็มๆ ไงคะ จะได้ไม่ต้อง
หักแบ่ง
และตลอดอายุของรัฐบาล ดิชั้นจะพยายามปลดเปลื้อง
ข้อผูกพันของรัฐบาลออกจากขบวนการเสื้อแดงให้
ได้ค่ะ ซึ่งเนื้อหารายละเอียดจะอยู่ในสาระทั้ง 16
ข้อต่อไปนี้
1. สร้างความปรองดองสมานฉันท์กับคน
ในชาติ ด้วยการสั่งให้กลไกของรัฐวางตัวเป็นกลาง
ทำตัวเฉยๆ ต่อข้อเรียกร้องของผู้ที่เห็นต่างและคน
ละพวกกับรัฐบาล แต่ถ้าหากพวกเดียวกันเห็น
เหมือนกัน ก็จัดให้เต็มเลยค่ะ พยายามที่จะออก
กฏหมายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกเดียวกัน และ
กำจัดพวกอื่นให้สิ้น เขียนกฏหมาย ออกพระราช
กำหนด หรือกฏกระทรวงที่จะทำให้รัฐบาลมีอำนาจ
เหนือองค์กรอิสระและตุลาการ รวมทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ
รัฐสภา เพื่อให้ทุกกลุ่ม ทุกสี อยู่กันอย่างดีๆ เฉยๆ
เชื่องๆ ว่านอนจูงง่าย หากถ้ายังไม่เชื่อ มึงสมควรตาย
ดิชั้นจะฟื้นฟูประชาธิปไตย เราจะสร้างเครือข่าย
บริษัท การเมืองจำกัด ด้วยการทุ่มเงินซื้อ จัดซื้อ จัด
จ้าง ส.ว. ส.ส. สมาชิกสภาจังหวัด สภาอำเภอ
สภาตำบล และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ทรงอิทธิพลทั้ง
หลายให้เข้ามาอยู่ในบริษัทการเมืองจำกัด เวลามี
การเลือกตั้งแต่ละครั้ง พวกนี้ก็จะได้เลือกเราเข้ามา
สู่อำนาจ เพื่อบริหารผลประโยชน์ได้อย่างชอบธรรม
เพราะเรามีเสียงข้างมากอยู่มากๆ ส่วนพวกเสียง
ข้างน้อย มีเงินน้อย มีพวกน้อย ก็ให้อยู่อย่างสงบ
เสงี่ยมเจียมตัว อย่าโวยวาย ไม่งั้น พวกมึงตาย
เพราะกูมีอันธพาลเป็นแบคอยู่นะ
2. กำหนดให้แก้ไขและป้องกันปัญหายา
เสพติดเป็นวาระแห่งชาติ คือ ให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม ถอดเอาต้นกระท่อมออกจากบัญชี
เสพติด และจะสนับสนุนให้ปลูกกันทั่วทั้งแผ่นดิน
เพื่อส่งออกต่างประเทศ กำจัดปราบปรามผู้ผลิต ผู้ค้า
รายเล็กรายน้อยให้เหลือไว้แต่รายใหญ่ๆ ที่เป็น
ญาติและลิ่วล้อของนักการเมือง จะได้ลดส่วนแบ่ง
ตลาดเพราะรายได้ส่วนนี้จะเอาไว้ใช้ในการจัดซื้อจัด
จ้างพวก ส.ว ส.ส และหัวคะแนนทั้งหลาย
3. ป้องกันและปราบปรามทุจริต
คอรัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง ท่านประธานคง
ทราบดีแล้วนะคะ ดิชั้นดูว่า การปราบปรามทุจริต
คอรัปชั่นในภาครัฐมิได้เกี่ยวกับภาคการเมือง
รัฐบาลจะป้องกันอย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อไม่ให้ภาค
รัฐมาแย่งส่วนแบ่งจากภาคการเมือง ต่อไปนี้ ผู้ที่
สังกัดอยู่ในภาครัฐทุกภาคส่วนจะได้ไม่มีโอกาสโกง
กิน โกย กันอีกแล้วถ้าฝ่ายการเมืองไม่อนุญาต เข้า
ใจมั้ยคะ และโครงการก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐต่อ
ไปนี้ให้ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ควบคุมรับ % เอง
4. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำ
อย่างบูรณาการ ด้วยการสร้างระบบชลประทาน
ขนาดใหญ่ กลาง เล็ก แล้วเราจะได้รู้ได้อย่างไรว่า
พื้นที่ไหนลุ่มต่ำ ไม่ยากคะ เราก็ปล่อยให้น้ำมันท่วม
ดูก่อน ท่วมไปสักปี 2 ปี ก็จะรู้ได้ว่า ตรงไหนมันลุ่ม
มันต่ำ เราก็จะได้กันตรงนั้น อันนี้ประธานเข้าใจมั้ย
คะ
ที่จริงมี 16 ข้อ แต่เขียนเร่งด่วน เพราะรู้จะขึ้น
เวทีนี้ ก็ได้แค่นี้ เอาไว้โอกาสหน้า จะเขียนเพิ่มให้
ครบ 16 ข้อ
ต่อไปนี้เป็นผลงานในรอบ 2 ปีของรัฐบาลนะคะ
เป็นผลงานฉบับโกหก
• ดิชั้นจะทำให้ค่าครองชีพมากกว่าค่า
แรงที่ได้กำหนด นี่คือ ข้อที่ 1
• ให้ประชาชนเป็นหนี้ครั้งแรกในการ
ซื้อรถซื้อบ้าน และรัฐบาลเป็นหนี้อีก 2 ล้านๆ
• ทำให้ข้าวเน่าคาโกดังให้ได้
• ทำให้ชาวนานอนฝันกลางแดด
• ทำให้ต่างชาติไม่ซื้อข้าวไทย
• ทำให้ภาษีประชาชนหมดไปถึง 4
แสนล้านกับข้าวเน่าในโกดัง อันนี้เป็นผลงานชิ้น
โบว์แดงของดิชั้นเลยนะคะ
• ทำให้พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ จน
คนต้องฆ่าตัวตาย
• ทำให้เรารู้ว่า เวลานี้รัฐบาลไม่มีเงิน
จะรับจำนำข้าวแล้ว เพราะหมดไปตั้ง 5 แสนล้าน
แล้ว ยังขาดเงินที่จะไปจำนำในปีนี้ กำลังคิดหาวงเงิน
กู้เพิ่ม และรัฐบาลนี้มีคุณูปการกับชาวนาอย่างยิ่ง
เพราะทำให้ชาวนาจำนำข้าวได้ แต่ได้เฉพาะเศษ
กระดาษกลับมา ชาวนาต้องนำเศษกระดาษไปจำนำ
ต่ออีกทีกับนายทุนเงินกู้ อันนี้เค้าเรียกว่า เป็นการ
กระจายรายได้ค่ะ
• ทำให้ชาวนารู้ว่า การจำนำเป็นความ
จำเป็นเพื่อความอยู่รอด
• ผลงานของรัฐบาลชิ้นโบว์แดงอีกชิ้น
หนึ่งคือ สามารถทำให้เครื่องบินลอยน้ำได้
• ทำให้น้ำท่วมซ้ำซากจนมีผู้คนตาย
• ทำให้ต่างชาติดูถูกคนไทยไปทั่วโลก
ผลมาจากการที่นายกฯไปพูดในเวทีที่มองโกเลียว่า
พี่ชายโดนกระทำกลั่นแกล้งจนต้องหนีไปนอก
ประเทศ
• อีกผลงานที่เป็นชิ้นเลิศ ก็คือทำให้เด็ก
อาชีวะเลิกตีกันได้ แต่ หันมาตีรัฐบาลเอง
• แล้วก็ดิชั้นสามารถทำให้สังคม ออก
มาด่าดิชั้นได้ว่า อี... อีอะไรนะ (โง่) ไม่ได้ยิน
(โง่) อี (โง่) อ๋อ
• ต่อไปเป็นผลงานของรัฐบาล ทำให้
ประชาชนไม่เคยเชื่อคำพูดของคนในรัฐบาลเลย
เพราะกลัว สับขาหลอกอีกแล้ว
อันนี้เป็นข้อจริงทั้งหมด ไม่มีเท็จเลยนะ อันนี้เป็นผล
งานจริงๆ เลยนะคะ
• ทำให้คนไทยได้รู้ว่า ตลอดเวลา 2 ปี
ของรัฐบาลชุดนี้ เขาคิดว่า ประชาชนกินไก่ย่างใน
สายตาของเค้า เพราะอะไร ก็เพราะว่า วันนี้พูดอย่าง
พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง แล้วพูดไปทีละอย่างไปเรื่อยๆ
แต่ทำไม่ได้สักอย่าง
• ทำให้พระหลงใหลในลาภยศและแตก
แยก จนไม่สนใจของสุขทุกข์ของประชาชน
• ทำให้เกิดเศรษฐีใหม่เฉพาะกลุ่ม โดย
เฉพาะพวกลิ่วล้อนักการเมือง และพวกนักการเมือง
• ทำให้โรงเรียนวิถีพุทธสูญพันธุ์ไปเลย
โดยมีข้ออ้างว่า เพื่อความเป็นสากล
• ทำให้เกิดสังคมก้มหน้า กระจายไปทั่ว
ไม่เว้นแม้แต่พระ เณร เพราะวันๆ มันไม่ดูอะไร ดู
แต่โทรศัพท์มือถือและไอ้แท็บเลทที่เอาไปไล่แจก
นักเรียน
• มันทำให้คนไทยได้เรียนรู้ว่า โกง
แล้วจะได้ดีนะจ๊ะ
• ทำให้เด็กไทยโง่กว่าเด็กเวียดนาม
และอีกหลายประเทศในเอซีย เหตุผลเพราะเด็กแต่
ละประเทศเหล่านั้นในเอเซีย เค้าพูดภาษาที่ 2 ได้
แต่ประเทศไทยจบ ป. 6 ยังอ่านหนังสือไม่ออก
เลย อันนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐมนตรีว่า
การกระทรวงศึกษาธิการที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลที่เราอยู่
นี่นะจ๊ะ
• ทำให้คนไทยรู้ว่า รัฐบาลที่มาจาก
ระบบประชาธิปไตย จะทำอะไรต้องถามพี่ชายดูก่อน
• ทำให้คนไทยรู้ความหมายของคำว่า
เอาอยู่ค่ะ พี่น้อง
• และทำให้คนไทยทั้งประเทศ รู้จักคำว่า
Four Seasons ชั้น 7
• ทำให้เขมรดีใจที่จะได้ดินแดนเพิ่ม
• ก็ทำให้คนไทยได้รัฐบาลทรราชเพิ่ม
จากผลงานชิ้นโบว์แดง คือ ออกกฏหมายทำลาย
ระบบนิติรัฐ นิติธรรม และโกหก ตลกร้ายไปวันๆ
• ทำให้ประชาชนรู้ว่า ส.ส และ ส.ว
บางกลุ่ม ยกมือครั้งหนึ่งได้ตังค์เป็นแสน แต่หากยก
แล้วสำเร็จประโยชน์ รัฐบาลจัดตังค์ให้เป็นล้าน อันนี้
เป็นผลงานจริงๆ นะจ๊ะ
• ทำให้คนไทยรู้ว่า หากต้องการเป็น
อธิบดี ต้องมีตังค์ 30 ล้านขึ้น หากตำรวจอยากเป็น
ผู้การ หรือสารวัตร ต้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน หากไม่
มีตังค์ ก็ต้องเป็นขี้ข้านักการเมือง แล้วคอยหิ้วกระเป๋า
ใส่รองเท้าให้นาย
• ผลงานต่อมา ทำให้คนไทยรู้ว่า หาก
ต้องการเป็นรัฐมนตรี ถ้าไม่มีผลงานประจบนาย
ใหญ่มาก่อน ก็ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่าร้อยล้านขึ้น อันนี้
ขึ้นอยู่กับกระทรวงเกรดไหนด้วยนะจ๊ะ
• ทำให้คนไทยรู้ว่า 30% ไม่มีอีกแล้ว
พี่น้อง เพราะนักการเมืองรับทำจ๊อบเสียเอง ปกติ
เวลาบริษัทห้างร้านมาประมูลงานกับรัฐ เราเป็นที่รู้
กัน 30% แต่เดี๋ยวนี้บริษัทห้างร้านไม่มีสิทธิ์แล้วล่ะ
เพราะนักการเมืองตั้งบริษัทเอง
• ทำให้คนไทยรู้ว่า งบประมาณ 3 แสน
ล้านที่ป้องกันน้ำท่วม คนหิ้วกระเป๋านักการเมืองก็มี
ส่วนแบ่งด้วย เพราะสามารถเอางานไปขายให้คน
นอก แม้แต่คนขายยาสีฟันยังมีโอกาสซื้องานหากมี
เงินจ่ายล่วงหน้า อันนี้เผชิญมากับตัวเองนะจ๊ะ เค้า
มาปรึกษาว่า จะซื้อดีไม่ดี ทั้งที่มีแต่กระเป๋า ไม่มี
เครื่องมืออะไรเลย ก็มีคนมาขายงานให้ จ่ายก่อน
30% บรรพบุรุษก็ทำยาสีฟันขาย ไม่เคยสร้าง
อะไรสักอย่างหนึ่ง ก็จะไปรับเหมารัฐบาลทำ
• เอ้า ผลงานข้อต่อไป ทำให้คนไทยรู้ว่า
เผด็จการรัฐสภาส่งผลให้พี่น้องต้องมากินนอนอยู่
กลางถนน รู้สึกอย่างไรบ้าง สบายดีมั้ย สู้มั้ย (สู้)
เอ้อ เอาใจช่วย แล้วจะมาดูเรื่อยๆ
• ทำให้คนไทยรู้ว่า นายกฯและนาย
ใหญ่สามารถทำให้สภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 สภา คือ
สภาล่างกับสภาสูงได้รับการสรรเสริญว่า เป็น
สมาชิกสภาที่มีขาเพิ่มขึ้นอีก 2 ขา มีหางงอก มีลำ
ตัวยาวๆ หน้าคล้ายจิ้งจก แถมมีลิ้น 2 แฉก ผิวหนัง
มีลวดลายสวยงามอีกด้วย พี่น้อง มันตัวอะไรหว่า
(..) โฮย หยาบ เค้าเรียก วรนุช ลิ้น 2 แฉก
เอาไว้ตวัด ลิ้นที่ 1 เอาไว้ตวัดเพื่อเอาใจนาย แฉกที่
2 เอาไว้ตวัดเพื่อแหกตาประชาชน
• ผลงานข้อต่อมา ทำให้คนไทยรู้ว่า
รัฐบาลร่างทรงของนักโทษการเมือง มันอยากทำ
อะไรก็ง่ายและได้ เพราะแม้คดีทุจริต โกงกินบ้าน
เมือง มีคดีติดอยู่ที่ ปปช. 25,300 คดี ก็
สามารถล้มเลิกได้ด้วยการออกกฏหมายช่วยพี่ชายกู
• ทำให้คนไทยรู้ว่า แม่ไปขโมยนมผง
ให้ลูกกินเพราะไม่มีเงิน ต้องติดคุก แต่คนโกงบ้าน
เมืองได้เงินไปเป็นแสนล้าน นายกฯ ต้องออกมา
วิงวอนให้ประชาชนให้อภัย และออกกฎหมายคุ้ม
ครอง เค้าเป็นนายกฯ เพื่อพี่ชายจริงๆ ไม่ได้เป็น
เพื่อประชาชน
ผลงานมีเยอะนะจ๊ะ ใครว่า 2 ปีไม่มีผลงาน
• ทำให้คนไทยรู้ว่า สิ่งที่รัฐบาลและพวก
รัฐบาลพูด ถ้าพูดว่าไม่ ให้เข้าใจว่า นั่นใช่ ถ้าพูดว่าได้
ก็ให้เข้าใจว่า นั่นเสีย ถ้าพูดว่า ดี ก็ให้เชื่อเถอะว่า เลว
ถ้าพูดว่า ผิด นั่นน่ะ ไม่ถูก พี่น้อง และถ้าพูดว่า ขาด
ทุน นั่นคือกำไรล้วนๆ ถ้าพูดว่า เอาอยู่ นั่นคือ เอา
ไม่อยู่แล้ว พี่น้อง พวกนี้หลับ ก็ยังละเมอโกหกเลย
เพราะโกหกเป็นสันดาน ไม่ต้องพูดเรื่อง ศีล สมาธิ
ปัญญา แค่เรื่องง่ายๆ หิริ โอตัปปะ รักษาให้ได้ ก็ยัง
ไม่มี โกหกหน้าด้านๆ
• เอ้า ผลงานข้อต่อมา ทำให้เกิด
สงครามแย่งชิงทรัพยากร ระหว่างผู้มีอิทธิพล นายทุน
นักการเมือง ข้าราชการ และชาวบ้าน จนป่าไม้
ทรัพยากรกำลังวอดวายเกือบหมดประเทศแล้ว พี่น้อง
• ทำให้ผู้จำหน่ายยาเสพติดรายเล็กหมด
ไป คงเหลือเอาไว้แต่รายใหญ่ๆ ที่เป็นคนของ
นักการเมือง และผู้มีอิทธิพล ลิ่วล้อนักการเมือง เผื่อ
ว่า เผื่อว่าอะไร เผื่อว่า ลูกหลานของนายใหญ่ จะได้
ใช้เสพโดยไม่ต้องเสียตังค์ อันนี้เรื่องจริงนะจ๊ะ ผล
งานจริงๆ เลยจ้ะ
ทั้งหมดที่อ่านมานี่ เป็นผลงานล้วนๆ จริงๆ ของ
รัฐบาลจ้ะ เพราะใช้เวลา 2 ปีค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ
ทุกวันๆๆ จนทำให้ได้ประมาณนี้แต่ยังเก็บไม่หมด
ค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้วันต่อไปจะมีโอกาสได้
เก็บหรือเปล่านะจ๊ะ
• ทำให้คนไทยรับรู้ว่า การเจรจากับผู้
แบ่งแยกแผ่นดินทางภาคใต้ ต้องดึงเอาต่างชาติมา
เป็นผู้จัดการเจรจา แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยชีวิต
ทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เอาอยู่
พี่น้อง
• และทำให้รองนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า
เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อหังการและยิ่งใหญ่ กลายเป็น
กรรมกรตัวเล็กๆไปชั่วข้ามคืน และทำให้เรารู้ว่า คน
เคยใหญ่แล้วต้องมาเล็ก เลยทำให้เส้นเลือดสมองแตก
• ทำให้เรารู้ว่า มิตรแท้ของรัฐบาลชุดนี้
คือ ผู้ที่ต้องเอาใจรัฐบาลเท่านั้น
• ทำให้คนไทยรู้ว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้
หรือไม่ได้ เพราะมีนายใหญ่ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่านาย
ใหญ่ เพราะมีประชาชน คนรักชาติ ยอมมันมั้ย พี่น้อง
(ไม่ยอม) เอ้อ ทำยังไง ไม่ยอม ก็ต้องมากันเยอะๆ
ไม่อย่างนั้น มันก็จะยิ่งใหญ่ไม่จบ
• ทำให้คนไทยได้รู้ว่า ที่ผ่านมา แกนนำ
เสื้อแดงในสายตารัฐบาลมีสถานะแค่ไม้กวาด กวาด
ขยะ เมื่อหมดขยะ ก็โยนทิ้งได้
• ผลงานล่าสุดของ นายกฯ ส.ส ฝ่าย
รัฐบาลที่มีมาเมื่อวานนี้ ก็ดาหน้ากันออกมาบอก
ประชาชนว่า เลิกแล้ว ถอนแล้ว ไม่เอาแล้ว พรบ.
สุดซอย เลิกชุมนุมเถอะ พี่น้อง กลัวแล้วค่ะ รู้แล้วค่ะ
ว่า คนไทยไม่โง่ ขืนชุมนุมต่อไป เศรษฐกิจจะเสียหาย
เดี๋ยวพวกดิชั้นก็ไม่มีแผ่นดินอยู่หรอกค่ะ อ้อ อันนี้
เค้าไม่ได้บอก อาตมารู้สึกไปเอง จำรัฐบาลเค้ามา
เพราะเค้าชอบพูดวลีนี้ติดปากเหลือเกิน ของแพงก็
ออกมาบอกว่า รู้สึกไปเอง
ที่รัฐบาลรีบถอยสุดซอย ก็เพราะกลัวว่า จะไม่มีแผ่น
ดินอยู่ ก็รู้สึกไปเอง
• และสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด หากไม่มี
พรบ. สุดซอย เราก็ไม่รู้ว่า แกนนำเสื้อแดงมีลิ้น
ยาวและหลายแฉกด้วย เพราะอะไร เพราะตอนเช้า
ตะวันเพิ่งโผล่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เราจะไม่ยอม
ถูกตบหน้าต่อหน้าศัตรู เราจะไม่ปกป้องรัฐบาลอีก
ต่อไป แต่พอตอนบ่าย ตวัดลิ้นอีกแฉกหนึ่งว่า ลิ้น
และฟันมันกระทบกันเป็นธรรมดา ต่อไปนี้ เราจะ
ต้องปกป้องรัฐบาลเพื่อรักษาประชาธิปไตย ไม่เป็นไร
แกนนำบอกว่า ผมทนได้ ครั้งนี้พี่ทำกับผม ผมทนได้
ครับ ทนได้ครับพี่ ดีครับผม นิยมครับท่าน ยอมรับ
ทุกอย่าง เพราะพี่จ่ายตังค์ผมมา
ถามว่า ทำไมแกนนำเสื้อแดงไม่กล้าตัดเชือกกับ
พรรครัฐบาล ก็เพราะว่า ถ้าตัดเชือกให้ขาดไป มัน
หมายถึงกระเป๋าแห้ง จึงต้องกลับมาเชลียนายใหญ่
และพรรครัฐบาลเพื่อให้กระเป๋าตุง มีตังค์
ตาสว่างได้แล้ว พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย อย่าโง่ให้
พวกแกนนำมันจูงจมูกอยู่ เพราะมันไม่ได้ทำเพื่อพี่
น้องหรอก มันทำเพื่อตังค์และกระเป่าของมัน มันไม่
ได้คิดจะเอาจริงเอาจังกับคนที่ออกกฏหมายยกเข่ง
หรอก แค่ได้ตังค์เข้าหน่อย มันก็เงียบแล้ว
จบผลงานชิ้นโบว์แดงซึ่งยังไม่สุดศอยเพราะยังเขียน
ไม่เลิก หรือยังเขียนไม่จบ จะพยายามเขียนไปเรื่อยๆ
แต่ก็มีแถลงการณ์ที่จริงเขียนฉบับนี้มาตั้งแต่เริ่ม
เวทีแรก ก็คือ ใกล้ๆ ทางรถไฟสามเสน ไปให้พรรค
ประชาธิปัตย์เค้าอ่าน แต่เค้าไม่ค่อยกล้าอ่าน ชั้นก็
เลยต้องมาอ่าน อ่านว่า
ขอให้กำลังใจผู้กล้า ผู้เสียสละกายและใจและความสุข
ส่วนตัว ที่มารวมกันแสดงพลังของผู้รักชาติ ศาสน์
กษัตริย์ พากันมาแสดงพลังปกป้องหลักนิติรัฐ
นิติธรรม อันเป็นหลักการสำคัญของการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตย มิใช่อัตตาธิปไตย ที่ต้องทำ
ตามใจกู อย่างที่รัฐบาลชุดนี้กำลังทำอยู่ ทำประหนึ่งว่า
ประเทศนี้เป็นสมบัติของตระกูลกู กูจะจำนำ กูจะซื้อ
กูจะขาย กูจะกู้ กูจะโกง กูจะเอาเปรียบ กูจะเหยียด
หยาม หรือกูจะยกย่อง (เฉพาะคนที่เอาใจกู) กู
ย่อมทำได้โดยมิละอาย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจดีว่า ดีอยู่ที่ทำตัว
ชั่วอยู่ที่ตัวทำ เหมือนกับว่าจะไม่สนใจเวรกรรมที่จะ
ตามมา แม้ธุระกรรมทั้งหลายจะเป็นผลกระทบ
โดยวงกว้างอย่างยาวนานแก่ประเทศชาติและ
ประชาชน อีกทั้งเป็นต้นแบบอันน่ารังเกียจยิ่ง
ของอนุชนคนชั้นหลัง รัฐบาลชุดนี้ก็ดูจะไม่สนใจ
เพราะประเทศนี้เป็นของตระกูลกู
(วงเล็บนิด เป็นผลงานสอดแทรกจาการแถลงการณ์
นอกแถลงการณ์ ได้ยินข่าวล่ามาเร็วๆว่า สมัยหน้า
จะส่งลูกชายนายใหญ่ลงสมัครรับเลือกตั้งนะจ๊ะ อันนี้
ไม่แน่ใจว่า รัฐบาลชุดต่อไปจะเปิดโอกาสให้ส่งออก
ยาเสพติดทั่วโลกหรือเปล่า)
ด้วยฐานความคิดนี้ มันไม่ได้มีอยู่แต่เฉพาะคนใน
รัฐบาลเท่านั้น มันแฝงเข้าไปในวงการคณะสงฆ์
และทุกสังคม มันน่ากลัวมาก น่ารังเกียจมากๆ หาก
ปล่อยให้คนพวกนี้ยังมีอำนาจต่อไป แผ่นดินนี้คงไม่
เหลืออะไรที่จะเป็นมรดกส่งมอบให้ลูกหลานใน
อนาคตอีกแล้ว พี่น้อง เอาไว้มั้ย (ไม่เอา) เอาไว้มั้ย
(ไม่เอา) ทำยังไร (ไล่ออก) ทำยังไร (ไล่ออก)
ช่วยๆ กันหน่อย
มันคงจะกิน จะโกง จะโกย แล้วก็มาออกกฏหมาย
สร้างความชอบธรรมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ
ตระกูลและพวกพ้องของกู จนมีคำพูดกันดังๆ ในคุกว่า
พวกที่ติดคุกน่ะ มันโง่ มันจน เป็นคนอ่อนแอ
หากร่ำรวยมีเงิน มีพวก ไม่มีสิทธิ์ติดคุกหรอก ดู
ตัวอย่าง ขับปอร์เช่ชนตำรวจตาย ยังลอยนวลอยู่ทุก
วันนี้ ไม่เห็นติดคุกอะไรเลย
ปัจจุบันนี้ คนดีแทบจะไม่มีที่อยู่ แม้อยู่ได้ก็ต้องสงบ
เสงี่ยม เจียมตัว ไม่มีสิทธิ์มีเสียง ไร้ศักดิ์ศรี แล้ว
พวกผู้กล้าทั้งหลาย จะยอมให้พวกอัตตาธิปไตยมี
อำนาจอยู่อีกหรือ ยอมมั้ย (ไม่ยอม) ยอมมั้ย (ไม่
ยอม) พรุ่งนี้ไปทำเนียบ
ว่าที่จริงแล้ว ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ใครสั่ง
ฆ่าพวกผู้คนในคดียาเสพติด 2,000 ศพ เมื่อ
หลายปีที่ผ่านมา และที่พวกพี่น้องพันธมิตรซึ่งมีทั้ง
บาดเจ็บ ตาย และพิการ อยู่ทุกวันนี้เหมือนๆ กับพี่
น้องเสื้อแดงที่อยากจะรู้ว่า ใครเป็นผู้ฆ่า 91 ศพ
เพราะถ้าทำให้เรื่องพวกนี้กระจ่างได้ นั่นหมายถึง
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลักนิติรัฐอันมีนิติธรรมอย่าง
สมบูรณ์ เป็นศักดิ์เป็นศรี สง่างามในสายตาของ
สังคมโลก ฉันอยากเห็นจริงๆนะ
ท้ายนี้ แถลงการณ์ เขียนมาหลายวันแล้ว ขอเรียก
ร้องให้คนไทยทุกหมู่เหล่า ได้ออกมาร่วมพลังแสดง
ความรักชาติให้เป็นที่ประจักษ์ อย่าแอบรักอยู่ลึก
เกินไป จนชาติพึ่งพาอาศัยท่านไม่ได้เลย ออกมาเถิด
พี่น้อง ออกมา ออกมาร่วมแสดงพลังช่วยกันขับไล่
ทรราชย์และคนขี้โกหกให้ออกไปจากแผ่นดินนี้ให้
หมด และการทำการเยี่ยงนี้ อย่าคิดว่า พวกเรามา
ช่วยพรรคประชาธิปัตย์นะจ๊ะ แต่พวกเรามาช่วยผู้มี
อุดมการณ์เดียวกัน ที่จะกำจัดคนชั่วให้สิ้นแผ่นดิน
ไทยเพื่อ เพื่ออะไร เพื่อปกป้องหลักนิติรัฐ นิติธรรม
และปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
อย่าให้ใครมันมาบังอาจทำให้ระคายเคืองเบื้อง
ยุคลบาทได้ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้กระทำสิ่งเหล่านี้อยู่
เนืองๆ ตลอดเวลา แล้สเราจะนิ่งเฉยอยู่หรือ พี่น้อง
ขอฝากเล็กๆน้อยๆ กับสมาชิกพรรคพรรคประชา
ธิปัตย์ด้วยว่า หากต้องการให้ธุรกรรมครั้งนี้ให้มีชัย
ชนะ ก็หาเสียงให้น้อยหน่อย แล้วพวกคุณจะงดงาม
ในสายตาสังคม
ขออวยพรให้ทุกท่านผู้กล้า ผู้มีใจเปี่ยมล้นไปด้วย
ความเสียสละ และมากไปด้วยคุณธรรม ความไม่
เห็นแก่ตัว จงมีสุขภาพที่แข็งแรง พลานามัยที่ดีงาม
จิตใจที่ผ่องใส สติปัญญาตั้งมั่น และมีชัยชนะต่อทุกสิ่ง
(สาธุๆๆ)
ท่านจันทร์ เสียงสาธุดังกระหึ่ม ไม่น้อยกว่าเสียง
นกหวีดและเสียงตรบมือในระหว่างที่ฟังเรื่องที่เรา
อยากเล่า เป็นยังไงบ้าง พี่น้องทั้งหลาย ถึงพริกถึงขิง
มากน้อยอย่างไรแค่ไหนบ้าง จริงๆ วันนี้ อาตมาขึ้น
face book ไว้ว่า จะมีการเทศน์บนเวที โดยมี
อาตมาและท่านหลวงปู่พุทธะอิสระ มีท่านผู้หนึ่ง
บอกว่า เหมาะมากเลยทีเดียวล่ะ หลวงปู่พุทธะอิสระ
เป็นพระบู๊ ส่วนท่านจันทร์เป็นพระหมุน จริงๆ เค้า
ต้องการจะใช้คำว่า พระบุ๋นล่ะนะ แต่ไปเขียนเป็น
พระหมุน อาตมาเห็นจะจริงล่ะนะ ฟังแถลงการณ์
ของท่านพุทธะอิสระแล้ว อาตมากลายเป็นพระหมุน
ต้องหมุนหัวสมองให้ทันสมัยล่ะนะ ไม่เช่นนั้น จะตก
ขบวนแน่นอนเลยเชียวแหละว่า พระคิดแบบนี้
เขียนแบบนี้
อาตมาคิดอย่างไรรู้มั้ย พี่น้องทั้งหลาย อาตมาคิดว่า
ข้อเขียน แถลงนโยบายและผลงานของท่านเนี่ย น่า
จะได้รับการเผยแพร่เป็นหนังสือทางสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ให้แพร่หลายเลยทีเดียว อาตมาเชื่อว่า หลายที่หลาย
แห่งคงอยากจะขอสำเนาเอกสารเหล่านี้ไปตีพิมพ์
แจกต่อ อาตมาเชื่อเช่นนั้นนะ และอาตมาเองก็ไม่ได้
เตี๊ยมมาก่อน แต่เราเพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี้ จริงๆ อาตมา
โทรศัพท์ ก็ไม่ได้คุยกับท่าน ติดต่อกับทีมงายของท่าน
อาตมาไปอยู่ที่วัดปรินายก ท่านมา อาตมาเดินออก
จากวัดปรินายกท่านก็เดินไปที่วัดปรินายก ไม่เจอกัน
มาเจอกันเมื่อสักครู่นี้ก่อนขึ้นเวทีแป๊บเดียว ไม่
ทราบว่า ท่านจะพูดอะไรด้วยซ้ำไป เพราะรายการนี้
คือ รายการ เรียนอิสระตามสำนึก
ขอเข้าสู่ช่วงที่ 2 นะครับ ท่านพุทธะอิสระครับ
หลวงปู่ ว่า
ท่านจันทร์ มีผู้หนึ่งบอกว่า มีพระบางรูปพูดว่า
คนที่ออกมาชุมนุมมีอุปาทานทางการเมือง คิดว่า รัก
ชาติยิ่งชีพ และกำลังตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ 2
ฝ่ายที่แย่งชิงกันอยู่ (พระรูปนั้น) จึงแนะนำให้
ถอนอุปาทานและปฏิบัติธรรมระดับตน ระดับครอบ
ครัว ระดับชุมชน ถึงจะเป็นความสุข ถูกต้องตาม
หลักพระพุทธศาสนาที่แท้จริง ขอกราบให้ท่านทั้ง 2
ให้ความกระจ่างกับดิฉันด้วยว่า อะไรเป็นสิ่งที่เรา
ควรทำกันแน่ในฐานะชาวพุทธ
หลวงปู่ เป็นธรรมชาติของบัณฑิตยุคปัจจุบันที่มี
วลีพูดติดปากว่า รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี ถ้าจะพูด
อย่างนี้ ก็แสดงว่า คนๆ นี้ไม่ได้ศึกษาพุทธประวัติ
ไม่ได้ศึกษาพุทธจริยา แม้พระศาสดาก็ยังต้องเสด็จ
ห้ามทัพระหว่างพระญาติพระวงศ์ฝ่ายพระบิดากับ
พระมารดาที่ยกพวกมารบกันเพื่อแย่งน้ำโรหินี
เพราะฉะนั้น เราจะบอกว่า การกระทำอย่างนี้เป็น
อุปาทานพระศาสดา ก็แสดงว่า ไอ้นักบวชคนที่พูดนี่
มันคงจะด่าพระศาสดา เรื่องน่ารังเกียจ ตัวเองทำไม่
ได้ ก็ไปบอกว่า คนอื่นทำไม่ถูก อย่างนี้ไม่ได้ ชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์
องค์ประกอบของคำว่าชาติ มันหมายถึงแผ่นดิน และ
ประชาชน เป็นที่ตั้งของศาสนา ถ้าไม่มีชาติ คือ ไม่มี
แผ่นดิน ไม่มีประชาชน ศาสนาจะเผยแพร่ให้ใครฟัง
เพราะฉะนั้น เป็นวลีของบัณฑิตยุคปัจจุบันที่ชอบตี
โฉบฉวย หาความเป็นฮีโร่บนซากศพเพื่อนฝูงและ
ชาวบ้านเพื่อทำให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น คนพวกนี้ไม่
เคยฟังไก่ขันตอนเช้า รู้มั้ยว่า ไก่มันขันตอนเช้าว่า
อะไร (..) ไม่ใช่ อยู่ไปก็รกโลก อืม ให้ความรู้
กับท่านที่รักทั้งหลายว่า ธรรมะมันมีอยู่ 2 ขั้น
ปรมัตรสัจจะ กับ สมมุติบัญญัติ
ไอ้ที่เราอยู่กันทุกวันนี้ ที่นั่งกันอยู่ทุกวันนี้เนี่ย เป็น
สมมุติ หรือ ปรมัตร
เป็นสมมุติ เมื่อมันเป็นสมมุติ ก็รู้จักสมมุติ หลวงปู่
เขียนบทโศลกไว้หลายร้อยบทมาก หนึ่งในหลาย
ร้อยบทนั้นก็เขียนว่า ลูกรัก จงรู้จักสมมุติ ใช้สมมุติ
ให้ประโยชน์สมมุติ ได้ประโยชน์จากสมมุติ และท้าย
ที่สุด อย่ายึดติดในสมมุติ
แต่ตอนนี้ มันท้ายที่สุดหรือยัง (ยัง) นั่นน่ะสิ
จะนิพพานกันหมดแล้วเหรอ ได้แค่หัวตะพานนี่แหละ
ตอนนี้อยู่ที่ตะพานอะไร (มัฆวาน) มัฆวาน
ท่านจันทร์ ผ่านฟ้า สะพานผ่านฟ้า
หลวงปู่ เอ้อ ตะพานผ่านฟ้า เพราะฉะนั้น อ้อ
เดี๋ยวจะไปตะพานมัฆวาน เอ้อ เดี๋ยวออกจากเวทีนี้
จะไปเวทีนู้น เพราะฉะนั้นก็เลยอยากบอกว่า อย่าไป
ใส่ใจคนที่ถึงปรมัตรแล้ว ก็ปล่อยให้แกมัดต่อไป
เรื่อยๆ ให้แกเป็นพระเอกต่อไปเรื่อยๆ เราเป็น
พระรองก็แล้วกัน
ท่านจันทร์ มีประเด็นต่อไปนะครับ ท่านครับ
อยากทราบว่า ทำไมนักการเมืองไทยทุกวันนี้เห็น
แก่ตัว เป็นข้าศึกกับบ้านเมืองและประชาชนครับ
หลวงปู่ มันไม่ผิดปกติ เค้าไม่เห็นแก่ตัว มันน่าจะ
ผิดปกติ ไอ้ความเห็นแก่ตัว มันเป็นเรื่องปกติของ
ธรรมชาติมนุษย์และปุถุชนทั่วไป เพราะมนุษย์
ปุถุชนคนทั่วไป มีความเห็นแก่ตัว นี่แหละ พระ
พุทธเจ้าจึงทรงแสดงไว้ หนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10
ข้อแรกเลย คือ ทานมัย เพื่อให้เราสละความคับแคบ
ความตระหนี่ ความเอาเปรียบ และความเห็นแก่ตัว
ให้ลดลง ก็ไอ้คนพวกนี้มันไม่เคยให้ทาน ถ้ามันให้
มันก็ไม่เอาของมันให้ มันเอาภาษีประชาชนมาให้
อยากเล่าให้ฟัง ประสบการณ์ตรงเลย ปี 54 หลวง
ปู่ไปแจกน้ำท่วม เอาข้าวไปส่ง เอาอาหารแห้งไปให้
นักการเมืองมันยืนโบกมืออยู่ข้างทาง เราก็นึกว่า
มันจะขออาศัยรถ ไม่ มันขึ้นรถ 10 ล้อของเรา
แล้วมันก็หยิบโทรโข่งที่มันติดมา พี่น้อง วันนี้เรา
เอาข้าวมาให้ท่านแล้ว ดู มันพูดหน้าด้านเฉยเลย ทั้ง
ที่ไอ้ข้าวนั้น มันก็ข้าวกู กูก็หุงเอง เอ๊อ ข้าวก็ข้าวเรา
เราก็เอามาเอง แต่มันพูดหน้าเฉยเลย เราเอาข้าว
มาให้แล้ว แสดงว่า เป็นข้าวของมันหมดเลย แล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ที่บางคล้า นี่ หลวงปู่ทำครัวมานี่ 2
เดือนยังไม่หยุดเลย เพราะว่า ทำครัวให้น้ำท่วมจาก
ปราจีนบุรี จากอรัญญฯ จากฉะเชิงเทรา อะไรเนี่ยนะ
จบน้ำท่วม ก็มาม๊อบต่อมานี่ ที่บางคล้า แม่ครัวเดี๋ยว
นี้ใช้น้ำเกลือไม่ได้ผลแล้ว ต้องให้น้ำปลาแทนละ เค้า
ว่า หยอดน้ำเกลือมันเข้มข้นน้อยไป เพราะทำครัว
มาเป็นเดือนๆ ไม่หยุดเลย ทำวันหนึ่ง อาหารมื้อละ
5,000 กล่อง 3,000 กล่อง วันหนึ่ง 2 มื้อ 2
-3 มื้ออย่างนี้ ก็ที่บางคล้า เห็นชัดๆ เค้ามากันเป็น
ฝูงเลย มากินข้าว มาถึงก็ลงจากรถมา เข้าโรงครัวเรา
กินเฉยเลย กินเสร็จแล้ว ไม่ถามซักคำว่า ของใคร
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกไปประกาศไมค์ว่า หิวมั้ย
พี่น้อง กินข้าวหรือยัง พูดเหมือนประหนึ่งว่า ไอ้ที่ไป
กินน่ะ ของกูให้ชาวบ้านไปกิน แล้วใครเป็นคน
ประกาศ รู้มั้ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
มหาดไทย น้ำก็น้ำเรา ข้าวก็ข้าวเรา มันไม่เคยถาม
เลยว่า ของใคร
ท่านจันทร์ ทราบว่า 2 วันที่ผ่านมาเนี่ย ที่มูลนิธิ
ธรรมอิสระ วัดอ้อน้อย ทำอาหารมาแจก ณ.เวที
แห่งนี้ 10,000 กล่อง
หลวงปู่ มาทุกวัน วันนี้ก็มา เมื่อวานก็มา มาตั้งแต่
เริ่มสามเสนมา ไล่ตามม๊อบมาเรื่อย เหมือนกับที่ทำ
อาหารเลี้ยงพวกน้ำท่วม ก็ไล่ตามน้ำไปเรื่อย ตั้งแต่
ปราจีนฯ กบินทร์ฯ บ้านสร้าง แล้วไปยันนู่น โคราช
ไปพิมาย น้ำแห่งก็กลับ
ท่านจันทร์ ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือว่า คนปรุงอาหาร
คนทำครัว เอามาแจก พ่อครัวมือหนึ่งก็คือ หลวงปู่
พุทธะอิสระ
หลวงปู่ มันมีความสุข พระพุทธเจ้าสอนให้ให้ คน
ให้จะมีความสุข คนรับนี่มันเป็นความทุกข์นะ ลูก ได้
ให้นี่เราจะรู้สึก ยิ่งใหญ่มาก แต่รับนี่ เราจะเล็กมากๆ
ท่านจันทร์ อาตมาอ่านหนังสือ มีอยู่ตอนหนึ่ง แม่
ครัวของวัดคนหนึ่งค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่มีฐานะทำ
ขนมจีน ทำน้ำยาไม่เป็น หลวงปู่พุทธะอิสระพูดว่า
อะไรกัน ทำขนมจีนน้ำยาไม่เป็นเหรอ อีห่า ทำไม
ขนาดนั้นน่ะ หลวงปู่
หลวงปู่ ไม่ ผมจะไม่ด่าลับหลัง แต่จะด่าต่อหน้า
คือ จะด่า อีห่าเอ๊ย เกิดมาเสียชาติเกิด ถามว่า เพราะ
อะไร ก็บอกกับเค้าต่อไปว่า กูเป็นผัวมึง กูก็ไม่เอา
มึงแล้ว กินอย่างนี้ไม่ได้ มีลูกมีผัวได้ยังไง มึงจับ
ฉลากมาหรือไง ทำเรื่องง่ายๆ ไม่เป็น อะไรอย่างนี้
คือ ถามว่า หลวงปู่สอนอะไร หลวงปู่สอนให้ทุกคน
ต้องใช้ศักยภาพของความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์ สอง
ขาให้แข็งแรง หนึ่งตัวให้ตั้งมั่น สอง มือให้ทำได้
หนึ่งหัวให้คิดออก แล้วไม่มีเรื่องอะไรที่เราบอก
แล้วทำไม่ได้ ลูก
ท่านจันทร์ มีคำถามว่า ขอนมัสการครับ พวกโกง
ชาติพวกนี้ ตายแล้วจะไปอยู่นรกขุมไหนเจ้าคะ
หลวงปู่ พระพุทธเจ้าทรงจัดมนุษย์ไว้ประมาณ 3
ประเภท มนุสสเทโว มนุสสเปรโต และมนุสสเด
รัจฉาโน มนุษย 3 ประเภทนี้ในยุค 2,000 กว่า
ปีเนี่ย ไม่มีเลยในยุคนี้ ถามว่า เพราะอะไร ก็เพราะว่า
มนุสสเทโวไม่ต้องพูดถึง เพราะว่า มนุษย์ที่เหมือน
ดั่งเทวดา คือ งามดั่งเทวดา ไม่ใช่งามด้วยรูป แต่งาม
ด้วยหัวใจ เหมือนกับมีคำกล่าวของคนโบราณว่า
คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
คนจะรวย รวยศีล รวยทาน ใช่บ้านโต
เพราะฉะนั้น มนุสเทโว หายาก แม้นมี ก็นั่งอยู่เต็ม
ข้างหน้านี้แหละ เรียกว่า มนุสสเทโว งั้น พี่น้องที่อยู่
ที่บ้านน่ะ อาจจะยังไม่เป็นมนุสสเทโว เพราะไม่เสีย
สละความสุขส่วนตนเพื่อแผ่นดินและส่วนรวม
ส่วนมนุสสเปรโต เปรตเนี่ย มีธรรมชาติที่หิวเป็นนิจ
เป็นอาจินต์ กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม เค้าจึงเรียก
มนษย์พวกนี้ว่า เปรต แต่เปรตยุคโบราณเนี่ย เค้า
กินข้าว กินก้อนข้าว กินหยดน้ำ แต่เปรตยุคนี้เนี่ย
มันกินเหล็ก กินหิน กินถนน กินทรัพยากร กินบ้าน
กินเมือง กินหลักนิติรัฐ นิติธรรม กินชาติ มันกินหมด
เพราะฉะนั้นจึงบอกว่า เปรตยุคเก่าน่ะแพ้ยุคนี้เลย
แล้วเปรตยุคนี้ มันอยู่ที่ไหน(รัฐสภา) อยู่ในสภาฯ
เปรตยุคนี้มันอยู่ในสภาฯ และที่ทำเนียบรัฐบาล นั่น
แหละ เปรตยุคนี้ กินทุกอย่าง ก้อนข้าว หยดน้ำ นี่
กระจอก นิดหน่อยน้อยมาก
แล้วอีกมนุษย์หนึ่งคือ มนุสสเดรัจฉาโน มนุษย์
เหมือนดั่งสัตว์เดรัจฉาน ถามว่า เพราะอะไร เพราะ
ไม่มีความรับผิดชอบในอะไรๆ เลย แล้วรัฐบาลชุดนี้
ก็ดูจะไม่พ้นวลีนี้เลยเพราะ ดูเหมือนไม่รับผิดชอบ
อะไรเลย เอาแต่พี่และพวกพ้องของตนอย่างเดียว
ท่านจันทร์ มีประเด็นที่คล้ายๆ กับที่ถามมาเมื่อสัก
ครู่นี้ พระพุทธองค์บัญญัติศีล 5 ข้อ ยิ่งโง่ทำผิดศีล
ต้องไปอยู่นรกขุมไหนครับ
หลวงปู่ ที่จริง เรื่องหลักของศีล มันมีหลักคิดอยู่
ศีลนี่มันมีลักษณะ คือ ศีลรับ กับศีลทำ มันคนละศีล
ศีลที่เรารับ ยังไม่ได้หมายถึงศีลที่เราลงมือกระทำ
ถ้าศีลที่ลงมือกระทำ แม้ไม่จำเป็นต้องรับ แค่มีตัว
รู้สึกตัวทั่วพร้อม คุณลองอ่านคำเขียนที่อยู่ในเสื้อที่
ชั้นพิมพ์ให้กับลูกหลานใส่
มีสติในกาย กายไม่ลำบาก
มีสติในวาจา วาจาไม่ลำบาก
มีสติในใจ ใจนี้ก็ไม่ลำบากเลย
เช่นนี้ ชื่อว่า ผู้ถือศีล เพราะฉะนั้น การที่เราจะกลาย
เป็นบุคคลผู้อยู่ ยืน เดิน นั่ง นอน อย่างไม่ลำบาก ก็คือ
ต้องมี สติ รู้สึกตัวทั่วพร้อม ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม นี่
แหละ เรียกว่า เป็นผู้รักษาศีล ผู้ถือศีล ผู้ปฏิบัติในศีล
แต่ถ้าเมื่อใดที่เราไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติตั้งมั่น ชื่อว่า
เราไม่มีศีล ให้ไปรับมาจากพระพุทธเจ้าเอง ก็ไม่ชื่อ
ว่า เป็นผู้รักษาศีลและปฏิบัติในศีล จบ
ท่านจันทร์ มีคำถามสุดท้ายครับ ท่านหลวงปู่
พุทธะอิสระครับ
หลวงปู่ ว่า
ท่านจันทร์ คำถามสุดท้าย มีผู้ได้ฟังเทศน์หลวงปู่
พุทธะอิสระที่อุรุพงษ์ หลวงปู่พูดว่าเป็นพระโพธิสัตว์
ไทย ผู้ที่ฟังอยู่ขอคำอธิบายเพิ่มเติม เรื่องพระ
โพธิสัตว์ไทย เป็นอย่างไรครับ
หลวงปู่ ก็พระโพธิสัตว์แบบไทยๆ ก็ต้องมานั่งอยู่
อย่างนี้แหละ พระโพธิสัตว์เค้าทำอะไรเพื่อสรรพสัตว์
ทีนี้พระโพธิสัตว์ไทยก็ต้องทำอะไรเพื่อพี่น้องไทย
แผ่นดินไทย ชาติไทย คนไทย สังคมไทย ประเทศ
ไทย เพราะมีหัวใจและเลือดเนื้อเป็นไทย
ท่านจันทร์ แหม หลายคนอยากจะให้มีพระเป็น
พระโพธิสัตว์แบบนี้กันให้เยอะๆ เพราะส่วนใหญ่มี
แต่สัตว์ใต้ต้นโพธิ์ ไม่ค่อยได้มีโอกาสเป็นพระ
โพธิสัตว์ อย่างไรก็ตาม คงจะต้อง
1. ขอเอกสารหลวงปู่พุทธะอิสระเพื่อนำ
ไปขยายผล ประการแรก อาตมาจะนำไปเผยแพร่
ผ่านทาง internet ทาง facebook รัก
ธรรมะ พระจันทร์ ก่อนทำได้เลย ตั้งแต่คืนนี้ จบไปก็
จะนำไปเผยแพร่ต่อ ใครอยากจะนำไปขยายผลต่อ ก็
ดึงไปจาก face book รักธรรมะ พระจันทร์รัก
ธรรมะ พระจันทร์ นี้ก่อนก็ได้ เพราะเป็นเรื่องเร่ง
ด่วนที่น่าจะทำให้คนได้อ่านกันทั่วไป อันนี้เป็น
ประการแรก รู้สึกว่าจะมีข้อ
หลวงปู่ยกมือ ขอบทสรุปนิดหนึ่งว่า ไอ้ที่เรามา
ทำกันอยู่ทุกวันนี้เนี่ย มันต้องมีคำตอบให้สังคม ลูก
ท่านจันทร์ ครับผม
หลวงปู่ ไม่ใช่ทำแล้วไม่มีคำตอบ แล้วก็ไม่รู้จะไป
ข้างใด เมื่อกี้นี้ก่อนจะขึ้นเวที หลวงปู่มาตั้งแต่ 4 โมง
แล้วก็มาคุยกับกลุ่มแกนนำ ก็บอกกับท่านทั้งหลาย
เหล่านั้นว่า เราควรจะต้องคิดหาคำตอบให้กับสังคม
ให้ได้ว่า ทำไมเราต้องมาอย่างนี้ ไอ้ตรงนั้นน่ะมัน
จบแล้ว เราต้องการมาขับไล่ทรราช ขับไล่สิ่งอัปรีย์
จัญไรออกจากแผ่นดิน แต่ขับไล่แล้ว ก้าวต่อไปคือ
อะไร
สิ่งที่เราอยากได้ ความคิดของหลวงปู่นะ ขอแชร์
ความคิด คือ สื่อความคิดออกไปดังๆว่า คือ หลวงปู่
อยากได้ คือ สภาล่างกับสภาบนเนี่ย มันเป็นสภาที่
เรียกว่า สภาเปรต สภาเดรัจฉาน มันทำอะไรไม่ได้
มันไม่สง่างาม ไม่เป็นศักดิ์ศรี ไม่มีความพึ่งพาอาศัย
ของแผ่นดินได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าอย่างนั้น เราเปลี่ยน
สภา 2 สภา ให้กลายเป็น สภาประชาชนได้มั้ย พี่น้อง
(ได้) แล้วก็ช่วยกันสื่อ ขายแนวคิดแบบนี้ เอา
ประชาชนทุกสังคม ทุกภาคส่วน ทุกสาขาอาชีพ มา
ก่อร่างสร้างเป็นสภาประชาชน หรือถ้าจะมีสภาล่าง
สภาบนอีกก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ให้มีสภาประชาชน
เป็นผู้กลั่นกรองและควบคุมอำนาจของสภาทั้ง 2
ให้อยู่ในความเห็นชอบของประชาชนแต่ละหมู่เหล่า
แต่ละชุมชน แต่ละกลุ่มก้อน แต่ละอำเภอ แต่ละตำบล
และแต่ละจังหวัด ให้เค้ามีส่วนรับรู้ว่า คุณกำลัง
กระทำอะไรกับผม กับฉันเพื่อให้ได้เข้าใจบทบาท
ร่วมกันว่า สิ่งที่คุณทำนั้น ฉันรับได้จริงๆ
แต่ณ.วันนี้ เรายังหาทางออกไม่ได้ ยังไม่ได้บอก
ทางออกให้กับคนทั้งหลายในประเทศนี้รับรู้ มันก็
เลยดูเหมือนเราจะมีแนวร่วมน้อยเกินไป ถ้าเป็นไป
ได้ ช่วยกันสื่อ คือส่งความคิดว่า เราจะเอาสภา
ประชาชนมั้ย เอามั้ย พี่น้อง (เอา) สภาประชาชน
ที่ทุกคนมีสิทธิ์ มีเสียงเท่ากันโดยไม่ต้องส่งผ่านอาศัย
นักการเมืองรับจ้าง เอามั้ย (เอา) แล้วทุกคนก็
เลือกบุคคลที่ตัวเองเห็นว่า มีศีล มีธรรม ไม่ใช่มี
อิทธิพล มีตังค์ เอามีศีล มีธรรม มีสัจจะ มีคนเคารพ
กราบไหว้ ไม่ใช่นับหน้าถือตา เพราะมีอิทธิพล มีตังค์
เอาเคารพได้ ไหว้ถูก บูชาสนิท คนเหล่านั้นแหละจะ
เป็นผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่แทนเรา และทุกครั้งที่เค้าทำ
เมื่อได้รับประชามติ รับฉันทานุมัติมาจากสภาใดๆ
งานการทั้งหลายในบ้านเมือง เค้าก็ต้องมาบอกกล่าว
แจ้งความจำนงค์นั้นๆ แก่เรา เราเห็นชอบก็ส่ง
เสียงกลับไปสู่กระบวนการบริหารจัดการบ้านเมือง
คือภาครัฐ หรือ รัฐมนตรี ให้ทำตามคำสั่งของสภา
ประชาชน
อย่างนี้แหละ มันจึงจะเป็นกระบวนการปฏิรูป ชั้น
เบื่อเต็มทีแล้วตั้งแต่ 14 ตุลาฯ เราไม่ได้มีชื่อเสียง
กับเค้า ไม่ได้อยู่สถาบันไหน ชั้นเนี่ย จริงๆ แล้วเป็น
คนเดือนตุลาฯ นะ ถามว่า เพราะอะไร เพราะลูกปืน
มันเฉี่ยวหูชั้นไปวิ๊วๆๆ เห็นเพื่อนนอนตาย ไปลาก
เข้ามาข้างถนน เพราะรถมันจะเหยียบซ้ำ แต่เราไม่
มีชื่ออยู่ในสถาบันธรรมศาสตร์ จุฬา หรือว่าอุดม
ศึกษาใด เพราะเราเป็นกรรมกรทำกินอยู่แถวๆ
ดาวคะนอง แถวบุคโล ถึงเย็นก็มาเฮกับเค้าแบบนี้
แหละ มาเพราะว่า ตอนนั้นเป็นวัยรุ่น เลือดร้อนไง
ก็มาเฮกับเค้า แล้วก็ตัวเองก็มีลูกปืนบินเฉี่ยว ต้อง
หมอบ ต้องคลาน เพราะมันเฉี่ยวหัว เฉี่ยวหูดังวิ๊วๆ
ไอ้สถานการณ์อย่างนั้น ชั้นเบื่อละ แล้วอีตอนไล่
นายหน้าเหลี่ยม ก็ต้องมาขึ้นเวทีที่พันธมิตรจัด
เพราะงั้นไม่อยากจะมาแบบนี้อีกแล้ว เบื่อมั้ย (เบื่อ)
เราจะหยุดพฤติกรรมอย่างนี้ได้ ก็ต่อเมื่อเราต้องช่วย
กันปฏิรูปบ้านเมืองให้มันกลายเป็นของประชาชน
จริงๆ ไม่ใช่ของนักการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ส.ส
คนใดคนหนึ่ง หรือ นายใหญ่ งั้น พวกเราต้องช่วย
กันแชร์ และขายความคิดอย่างนี้ออกไปให้
ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงจริงๆ
แม้เราจะบอกว่า ส.ส นั้นมาจากเราเลือกตั้ง เลือก
ตั้งหรือลากตั้ง เลือกหรือลาก (ลาก) ลากไปตั้ง ก็
เค้ามีนโยบาย นายกฯเค้ามีนโยบาย เมื่อกี้มาอ่านให้
ฟังแล้วไม่ใช่หรือว่า จะจัดซื้อจัดจ้าง ส.ส ส.ว ส.ข
ส.ก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้มาอยู่ในบริษัท การเมือง
จำกัด คิดไปเอง เนี่ย ไอ้ฉบับคิดไปเองเนี่ยนะ เรื่อง
นี้เค้าทำอยู่ และทำมาแล้ว และทำจริงๆ เลยต้องเอา
มาแถลงการณ์กับพี่น้องให้รู้ว่า นี่คือ ถ้อยแถลงของ
รัฐบาล
เพราะงั้น เราต้องรู้จักคิด เวลาน่าจะหมดแล้ว เวที
นู้นเค้ารอชั้นแล้ว
ท่านจันทร์ ก็เอาเป็นว่า ที่จริงเวลาหมดไปหลาย
นาทีแล้ว แต่ก็เห็นว่า มีความต่อเนื่อง เลยนำเสนอ
ให้เกิดความต่อเนื่องสืบต่อไป ได้ยินแว่วๆ ว่าจะมีค่า
กัณฑ์เทศน์ ปกติเวลาพระเทศน์จบเนี่ย โยมหลาย
คนจะถวายค่ากัณฑ์เทศน์ เมื่อกี้นี้
หลวงปู่ ชั้นไม่เอาค่ากัณฑ์เทศน์ แต่จะเอาปัจจัย
มามอบบริจาคให้กับนักสู้ผู้กล้า เป็นกองทุนสำหรับ
เอาไว้กู้บ้านกู้เมือง แล้วก็ช่วยเหลือพี่น้องที่กำลัง
ต่อสู้อยู่ จำนวนเงิน 100,000 บาท (สาธุ)
ท่านจันทร์ นี่แหละเป็นค่ากัณฑ์เทศน์ของพระ
ทวนกระแสล่ะนะ คือ ปกติพระจะรับค่ากัณฑ์เทศน์
ปรากฏว่า
หลวงปู่ ปัจจัยอยู่ไหนล่ะ ใครเป็นคนรับล่ะ
ท่านจันทร์ เดี๋ยวมีท่านผู้ใหญ่ พลเอกปรีชา เอี่ยม
สุพรรณ คณะเสนาธิการร่วม เมื่อสักครู่นี้ คือ อาตมา
เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกดี จึงเรียกว่า ค่ากัณฑ์เทศน์
ปกติ โยมถวายพระ แต่คราวนี้ พระถวายโยม
หลวงปู่ เอ่อ พระไม่ได้ถวายโยม แต่พระมาบริจาค
ให้โยม แล้วก็ไม่ใช่ของพระ ปัจจัยนี้เป็นเงินของ
บริษัทพฤกชเวชและหอมจัง จำกัด ซึ่งกรรมการผู้
จัดการบริษัท มันประท้วงชั้นว่า เจ๊งแล้วจ้ะๆ เพราะ
บริจาคมาตลอดจนตัวเลขในบริษัทแดงแล้ว
ท่านจันทร์ ปรากฏว่า คณะเสนาธิการมากันเพียบ
เลยทีเดียวล่ะนะ ไม่ว่าจะเป็นพลเอกปรีชา ลุงเอี่ยม
แล้วก็ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ท่านอื่นอีกหลายท่าน เอ้า
ไปนั่งพร้อมๆ กัน
หลวงปู่ ถ้าอยากจะช่วยกระบวนการสงเคราะห์
ประชาชน และผู้คนในสังคม ก็ช่วยใช้หอมจังเยอะๆ
หน่อยแล้วกันนะจ๊ะ ขายซะเลย หาตังค์ เอ้า หนึ่ง
แสนบาท ลูก ก็เมื่อ 2 วันก่อนก็ไปให้ที่เวทีอุรุพงษ์
เค้าอีกแสนบาท แบ่งบุญให้ลูกหลานด้วย ลูก เอาล่ะ
ไปล่ะ โชคดี แล้วก็สุขภาพแข็งแรง ให้มีชัยชนะต่อ
ทุกสิ่ง ลูก (สาธุ)
ท่านจันทร์ นิมนต์หลวงปู่แป๊บเดียว ลุงเอี่ยมจะ
ขออนุญาตพูดฝากถ้อยคำ ถวายหลวงปู่นิดหนึ่ง
พลเอกปรีชา กราบนมัสการหลวงปู่ พวกผม
และพิธีกร วิทยากรต่างๆ พูดมาตลอด ก็ไม่สามารถ
จะเรียกผู้คนได้มากเหมือนหลวงปู่มาวันนี้ ขอ
อนุญาตนมัสการหลวงปู่ล่วงหน้าให้มาบ่อยๆ ครับ
เงินไม่ต้องก็ได้ครับ หลวงปู่มาครับ
หลวงปู่ นี่ คุณรู้มั้ย เมื่อตอนที่ชั้นขึ้นเวทีพันธมิตร
เฮียหน้าเหลี่ยม แกเอาชื่อชั้นไปอยู่ในบัญชีสันติบาล
ผู้ทรงอิทธพลที่ตัองระวังลำดับที่ 38 แล้วทุกครั้งที่มี
การชุมนุม ประชุมกันอย่างนี้ ตำรวจต้องไปเฝ้าหน้า
วัดชั้นทุกครั้ง แล้วก็ไปสืบว่า จะนัดรวมพลเมื่อไหร่
แม้ที่สุด ผบ. ทบ.และอดีตผบ.ทบ.ทั้ง 4 ท่าน
ไปที่วัด ก็ยังมีข่าวว่า ชั้นเรียกชุมนุมเพื่อจะปฏิวัติ
วันนี้ก็เลยจัดหนักซะเลย ไหนๆ ก็ระวังแล้วก็ไม่ต้อง
ระวัง มาเองเลย เพราะงั้น ก็ถือว่า ชั้นเนี่ย เป็น
ผู้ทรงอิทธิพลที่ยังมีบัญชีรายชื่ออยู่ในทะเบียนให้
ระวังอย่างยิ่งในบัญชีของสันติบาลลำดับที่ 38 ตอน
นั้นไม่ว่าชั้นจะไปไหน มันจะต้องส่งตำรวจนอก
เครื่องแบบคอยติดตาม ตามไปยันเชียงใหม่ เวลาไป
แสดงธรรม มันก็ตาม เราก็ เอ๊อ ก็มีเกียรติเหมือน
กันนะ ทำให้ตำรวจเค้ารักเรา ช่วยกันปกป้อง รักษา
เรา
ไม่เป็นไร ชีวิตเกิดขึ้นมาแล้วตาย สำคัญมันอยู่ที่ว่า
ตายแล้วภูมิใจที่จะตายหรือไม่ นั่นแหละ
ท่านจันทร์ เอาล่ะ พี่น้องทั้งหลาย สุดท้ายนี้ ขอ
พวกเราเปล่งสาธุดังๆ พร้อมๆ กัน (สาธุๆๆ) เอ้า
เป็นอันจบ ส่วนเอกสารเนี่ย หลวงปู่ เดี๋ยวผมขอนะ
เดี๋ยวจะเผยแพร่ผ่าน face book รักธรรมะ
พระจันทร์ ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปเลยทีเดียว