11พ.ย. 2555    13.00 น.  ธรรมะสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน โดยองค์หลวงปู่พุทธะอิสระ
(กราบ)
เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนคนดีที่รักทุกท่าน ที่รับชมรายการ อาทิตย์สดใส คุณแทนคุณ จิตอิสระ ผู้ดำเนินรายการ ญาติโยมพุทธบริษัท ผู้ชุมนุมกัน ณ. ศาลาในอาวาสวัดอ้อน้อย เพื่อเป็นการสดับตรับฟังธรรม ประจำเดือน ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก็ถือว่า วันนี้แสดงธรรม เดือนหนึ่ง 3 ครั้งทุกสัปดาห์ ก็คือ ทุกวันอาทิตย์ อาทิตย์ต้นเดือนอาทิตย์ที่ 2 แล้วก็ อาทิตย์ที่ 4 สองอาทิตย์แรก ก็เป็นช่วงเช้า รักษาโรค ตั้งแต่เช้าจนถึง 11 โมง คือ อาทิตย์ต้นเดือน กับอาทิตย์กลางเดือน ส่วนอาทิตย์ที่ 4 ก็คือ การปฏิบัติธรรม เริ่มตั้งแต่บ่าย 1 โมงตรง
วันนี้ เรามีผู้ดำเนินรายการผู้ทรงเกียรติ เพราะเป็นนักการเมืองผู้ใหญ่ ที่มีโอกาสจะไปนั่งในสภาในอนาคตข้างหน้า นู้น นู้นยาว ก็ ตลบมือให้เกียรติกันหน่อยแล้วกันคุณแทนคุณ    ครับ กราบนมัสการ หลวงปู่พุทธะอิสระที่เคารพนะครับ ท่านผู้ชมรายการอาทิตย์สดใส ทางสถานี Global Network 170 กว่าประเทศทั่วโลก แล้วก็ท่านที่อยู่ในศาลาแห่งนี้ด้วยนะครับ
ถามเรื่องสุขภาพของหลวงปู่ก่อนดีกว่าครับ ว่า ช่วงนี้ ข่าวที่เด่นๆ คงจะเป็นข่าวแผ่นดินไหวแล้วหลวงปู่ไปทองผาภูมิบ่อยๆ หลวงปู่กังวลไม๊ครับ
หลวงปู่  ไม่ เมื่อเช้า ชั้นรักษาไข้อยู่ เหมือนกับแผ่นดินมันโยก
คุณแทนคุณ    ใช่ฮะ แถวพม่าฮะ 7 ริกเตอร์
หลวงปู่    เมื่อเช้าเหรอ
คุณแทนคุณ     ครับผม
หลวงปู่    เออ มันโยก รู้เลยล่ะ เราก็ เอ๊ เราเวียนหัวหรือเปล่า เราคลื่นไส้ แล้วก็ เออ สงสัย

แผ่นดินจะไหว
คุณแทนคุณ     ก็เลยเป็นห่วงหลวงปู่ว่า หลวงปู่มีวิธีดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไรให้แข็งแรง

แล้วก็สามารถที่จะเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลง
หลงงปู่     อุ๊ย มันคงไม่มาไหวกับชั้นคนเดียวหร๊อก มันคงไหวกับคนอื่นด้วยล่ะ ส่วน

สุขภาพพลานามัย ก็ดูไปตามเหตุ ตามปัจจัย ธรรมชาติ คนอายุมากแล้ว มันก็ต้องมีโรคเป็น

เครื่องรองรับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวน เสื่อมสลาย แล้วก็ตายลงโดยธรรมชาติ ไม่มีใครคง

ทนถาวรตลอดกาลตลอดสมัย
ปัญหาสำคัญมันไม่ใช่อยู่ที่ว่า ตายอย่างไร จะตายเมื่อไหร่ แต่ปัญหาสำคัญของมนุษย์เรา ก็

คือ อยู่แล้วทำอะไร ทำสิ่งที่เราทำแล้ว มันได้ประโยชน์ต่อตน และคนรอบข้างมากน้อยแค่

ไหน
ถ้าอยู่แล้ว ไม่คิดจะทำอะไร หรือ ทำแล้ว มันไม่ได้ให้ประโยชน์ตน มันไม่ได้ให้ประโยชน์

คนรอบข้าง ก็แสดงว่า เสียชาติอยู่ เสียเวลาอยู่ เสียโอกาสที่จะอยู่ แล้วก็ สิ้นเปลือง

ทรัพยากรในการเป็นอยู่
งั้น ถ้าเราอยู่แล้ว เพื่อจะยังประโยชน์ตนและคนรอบข้างให้เกิดขึ้น ก็ทำให้สังคมมองแล้ว

เราเป็นคนมีสาระ สังคมมองเราว่า เป็นผู้มีสาระ แล้วเราก็เป็นผู้ให้สาระแก่สังคมได้ สิ่งแวด

ล้อม ก็จะเต็มไปด้วย เค้าเรียกว่า อะไร ประโยชน์สูง ประหยัดสุด สิ่งแวดล้อมมันก็จะเป็น

ไปด้วยความปลอดภัย ผ่อนคลาย ร่มเย็น
แต่ทุกวันนี้ที่เราทุรนทุราย เร้าร้อนกันอยู่ หน้าหนาวนะเนี่ย
คุณแทนคุณ    ครับ มันร้อน
หลวงปู่     หน้าหนาว ถือพัดโบกกันให้พรึบไปหมด มาจากปัญหาของเรา ที่อยู่แล้วไม่รู้ว่า

จะทำอะไร
คุณแทนคุณ    ในอนาคต เค้ามีการพูดกันเยอะนะครับว่า หิมะจะตกที่เมืองไทย หลวงปู่ว่า

เป็นไปได้ไม๊ครับ
หลวงปู่      ฝันเหรอ
คุณแทนคุณ    มันมีโอกาสที่อากาศมันจะสวิงกลับมา ร้อนจะกลายเป็นหนาว เพราะว่า

ความแปรปรวนของอากาศครับ
หลวงปู่       เออ นี่ก็ตก จนต้องถือพัดโบกกัน
คุณแทนคุณ    ไม่ได้เหงื่อตก
หลวงปู่     ฝันไปมั๊ง ชีวิตเราจะมีโอกาสได้เห็นหรือเปล่า คงยังอีกนาน ตราบใดที่น้ำทะเล

มันยังไม่มาท่วมถึงกรุงเทพฯ มันยังไม่ถึงขนาดนั้นหร๊อก เมื่อใดที่น้ำทะเลท่วมบ่าถึง

กรุงเทพฯ อาจจะเป็นไปได้
คุณแทนคุณ    ครับ
หลวงปู่      คือ ขั้วโลกใต้ ก็กลายเป็นขั้วโลกเหนือ
คุณแทนคุณ    ใช่ครับ สลับขั้วกัน
หลวงปู่     เออ จากผัว กลายมาเป็นเมีย อย่างนี้ล่ะนะ สลับขั้วกันนะ จากชีมากลายเป็นพระ

จากพระกลายเป็นชี อะไรอย่างนี้ จากสมภารวัดอ้อน้อย กลายเป็นนายกรัฐมนตรี เออ สลับ

ขั้ว อาจเป็นไปได้
คุณแทนคุณ      ที่ผมถามเรื่องสุขภาพ เพราะถ้าผมจำไม่ผิด ผมทำรายการกับหลวงปู่ น่าจะ

เป็น 10 ปีแล้ว หลวงปู่ไม่ค่อยเปลี่ยนเลย ยังหน้าเด้งอยู่เลย
หลวงปู่      ชั้นลองไม้หน้าสามทุกวันแหละ ลองไม้หน้าสาม ลองลูกระเบิด ลองเท้า ลองมือ

ชาวบ้านอยู่ตลอดล่ะ หน้าเด้งมันคือ อะไร ความหมายของคนหน้าเด้ง
คุณแทนคุณ    คือ หลวงปู่ไม่มีริ้วรอยที่แบบเหี่ยวย่น
หลวงปู่     เวอร์ๆๆ
คุณแทนคุณ    จริงๆ นะครับ 10 ปี
หลวงปู่       อ๋อ เพราะชั้นใช้สบู่ดี สบู่หอมจัง ขอบคุณมากที่ให้โอกาส ในการทำมาหากิน
คุณแทนคุณ     คือ 10 ปีล่ะ ผมรู้สึกว่า ผมแก่ลงเยอะมากกว่าความแปรปรวนของหลวงปู่
หลวงปู่    เหร๊อ
คุณแทนคุณ    หลวงปู่ยังไม่ค่อยเปลี่ยนเลยฮะ
หลวงปู่    เปลี่ยนแล้ว เราจะรู้ตัวด้วยตัวเราเองล่ะ เพราะว่า เวลานี้ นั่งก็โอย นอนก็โอยล่ะ

เป็นดอกไม้โรย ไม่มีเกสร เดี๋ยวนี้ มองอะไรก็ชักจะหยีตา ชักจะ(เอามือป้องหน้าผาก)

อย่างนี้ล่ะ ชักจะเป็นตัวตลกล่ะ หรือไม่ ก็ต้องเพ่งนานๆ อะไรอย่างนี้ เพราะความเสื่อมมันมา

บางทีก็ คำถามฟังไม่ชัด ต้องให้ถามหลายรอบ อะไรอย่างนี้  คือ ความไว ปฏิภาณ ปัญญา

สมองสั่งงาน ก็จะช้าลง
หัวใจ มันก็จะขยับน้อยลง การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองก็น้อย อ้ายเซลล์สมองก็จะเสื่อม

ง่ายขึ้น คือ คนอายุมาก การเต้นของหัวใจจะเบาลงนะ ไม่ใช่อายุมาก หัวใจจะเต้นแรง ไม่

ใช่นะ
คุณแทนคุณ    ยิ่งน้อยลง ยิ่งดี
หลวงปู่      เออ ยิ่งน้อยลง มันก็เลยทำให้เกิดกระบวนการเสื่อมไง เหมือนเครื่องยนต์ที่

น้ำมันไปไม่ทั่วถึง ยกเว้นคนเป็นโรค เป็นโรคบางชนิด เช่นโรคความดัน อาจจะเป็นไปได้

ความดันสูง ไม่เกี่ยวกับอายุ บางทีอายุมาก กลายเป็นว่า เต้น 2 เท่าของคนอายุน้อยก็มี
งั้นก็ ความเสื่อมมันมีอยู่ตลอดเวลา ส่วนจะมีเร็ว มีช้า มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะอยู่เพื่อ คนเรา

ถ้าจะอยู่เพื่อตัวเองอยู่ตลอดเวลา มันเสื่อมง่ายนะ เพราะว่า โลกของตัวเองมันแคบไง
คุณแทนคุณ    มันกระตุ้นตัวเอง เร้าตัวเองอยู่ตลอด
หลวงปู่     เออ มันจะใช้ตัณหา ใช้ความอยาก ใช้ราคะ ใช้โทสะ ใช้โมหะ ใช้อวิชชาของตัว

เองอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าอยู่ เพื่อคนอื่นเนี่ย วิธีคิดมันจะปรับเปลี่ยนไปนะ มันจะมีวิธีคิดที่

เป็นบวกกับชีวิต
คุณแทนคุณ     กว้างขวางขึ้น
หลวงปู่    ใช่ แล้วก็ในขณะเดียวกัน ธาตุทั้งหลายในร่างกาย มันจะมีสมดุลย์อย่างเหมาะสม

เพราะว่า เมื่อทัศนวิสัยมันกว้าง กระบวนการทำงานของธาตุ มันจะพัฒนา มันจะพัฒนา

แต่ถ้าทัศนวิสัยมันแคบ วิธีมองมันแคบ กระบวนการคิดมันแคบ อ้ายธาตุ กระบวนการ

ธาตุและการเผาผลาญการทำงานของร่างกายเรา อวัยวะทั้งหลาย มันไม่มีการพัฒนา
เมื่อทุกอย่างมันไม่พัฒนา ก็เสื่อม เหมือนกับแขน ถ้าคุณยกไม่สุดทุกวันๆ ไม่ยก หรือไม่

ยอมยก สุดท้าย ยกไม่ขึ้น
คุณแทนคุณ    ไหล่ติดครับ
หลวงปู่    เออ ไหล่ติด เพราะฉะนั้น ถ้ารู้จักที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่นเยอะๆ อ้ายตัวศักยภาพ

ในร่างกายเรามันจะพัฒนาไปเรื่อยๆ มันไม่มีวันจบสิ้นนะ พัฒนาไม่มีขีดสุด ไม่มีขีดจำกัด

เว้นเสียแต่ว่า ชีวิตเราจะหาไม่ เพราะว่า มนุษย์เราเนี่ย เป็นยี่ห้อของคำว่า พัฒนา นะ
ชื่อว่า มนุษย์ ถ้ามนุษย์ตนใดไม่พัฒนา ไม่ควรจะใช้ชื่อนี้นะ ไม่ควรจะเรียกยี่ห้อนี้ มันควร

จะเรียกคำว่า คน เพราะถ้าเมื่อใดที่เราใช้สรรพนาม นำหน้าตัวเองว่า มนุษย์เนี่ยนะ พระ

พุทธเจ้าจึงเวลาคนมาบวช ท่านให้ถามว่า เป็นมนุษย์หรือเปล่า มึงเป็นมนุษย์หรือเปล่า คือ

เป็นบุคคลที่จะพัฒนาได้หรือเปล่า พร้อมจะพัฒนาไม๊ และควรที่จะพัฒนาหรือไม่
ถ้าพร้อมและพัฒนาได้ ควรจะพัฒนา ท่านจึงจะรับเอาเข้ามา แต่ถ้าหากว่า อ้ายคนเข้ามา

บวชแล้ว ยังไม่ใช่ คือ พัฒนาไม่ได้ แล้วก็ไม่พร้อมพัฒนา แล้วไม่ควรพัฒนา ท่านไม่รับเอา

เข้ามา แม้จะมีศรัทธามหาศาล ดูอย่าง พญานาคเข้ามาบวชไง ก็ไม่ใช่มนุษย์ พัฒนาไม่ได้

นาคนี่ เป็นไปตาม เค้าเรียกว่า อะไร เป็นไปตาม บุพเพ กต ปุญญตา คือ ทำบุญทำกรรม

มาแต่เก่าก่อนอย่างไร ก็ควรรับผลอย่างนั้นด้วยเหตุปัจจัย
แต่มนุษย์นี่ มันมีโอกาสจะทำชีวิตให้เหนือกรรมได้ เหนือเหตุปัจจัยเหล่านั้นได้ เพราะจาก

การพัฒนาตัวเอง เพราะงั้น นาคยังถือว่า เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่
คุณแทนคุณ     ทีนี้ ในการถือพรหมจรรย์ของนักบวช หรือ พระภิกษุสงฆ์ ก็ถือว่า เป็น

การทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
หลวงปู่    ชะลอความแก่
คุณแทนคุณ    ชะลอความแก่ด้วย สนใจนะครับ
หลวงปู่   ไม่จริงหร๊อก ชั้นก็เห็นพระแก่ๆ ก็เยอะ แกก็ถือพรหมจรรย์เหมือนกัน ทำไมแก

ยังแก่ได้
คุณแทนคุณ     คือ แก่ มันต้องแก่ตามเวลาอยู่แล้ว แต่มันช้ากว่าคนอื่น ถ้าเทียบในวัย

เดียวกับหลวงปู่ ผมว่า ไปไกลกว่าหลวงปู่เยอะฮะ
หลวงปู่    ไม่มี๊ง ชั้นอาจจะเป็นคนที่รู้จัก ผสมสัดส่วนทางเคมีของร่างกาย คือ สัดส่วนเคมี

ของร่างกาย อย่างเมื่อเช้า เค้ามีอะไรมาให้ฉัน เราก็มองว่า เออ อ้ายนั่น เมื่อวานนี้ เราฉัน

แล้ว, อ้ายนี่ เมื่อวาน เราก็ฉันแล้ว, วันนี้เรา เล่นผักซะมั่งวันหนึ่งวะ อะไรอย่างนี้
คือ เรารู้ว่า เราจะผสมสัดส่วนให้ร่างกายยังไงให้มันเหมาะสมว่า เออ ร่างกายมันควรจะว่างๆ

บ้าง ไม่ควรจะให้อะไรมันหนักไปกว่านั้น วันไหนถ้าเราหนักมาตลอด คือ สังเกตุดู พวกคุณ

เวลากินข้าว วันไหนถ้าคุณกินเยอะๆ แล้วรุ่งขึ้นอีกวัน ก็กินเยอะๆ อีกวันก็กินเยอะๆ มันก็

เหมือนรถถัง มันเหมือนกับถัง มันหนัก มันแน่น มันหนัก
แต่ถ้าหากว่า เออ วันนี้กินเยอะ พรุ่งนี้หยุดซะบ้าง ไม่ใช่หยุดกินนะ กินอะไรที่มันเบาๆ บ้าง

แล้วมื้อต่อไป ก็กินอะไรที่มันปานกลางบ้าง เราจะรู้สึกว่า เออ เรายังมีอะไรเยอะแยะที่เรา

ยังต้องแสวงหาได้
คุณแทนคุณ     ซึ่งที่ถูกคือ ตอนเช้าควรทานเยอะหน่อย กลางวันน้อยหน่อย ตอนเย็นควร

จะงด อะไรอย่างนี้
หลวงปู่     ไม่ สำหรับชั้น เช้าๆ ควรจะทานอาหารอะไรที่มันอ่อนๆ
คุณแทนคุณ      หรือไม่ อาจจะเป็นวิถีของพระที่อาจจะเป็นฉัน 2 มื้อ ส่วนใหญ่คนใน

ปัจจุบัน นี่ตรงข้าม มื้อเย็นจะหนักสุด เพราะเป็นเวลาที่มีเวลาว่างเยอะ
หลวงปู่    มื้อเย็นนี่ เป็นมื้อเน่าเลยล่ะ มันไม่ได้ผ่านกระบวนการย่อยไง ร่างกายมันต้องพัก

ผ่อน แล้วมันก็ไปหมักหมม ทำให้เกิดก๊าซ เกิดแก๊ส แล้วมันก็กลายเป็นโลหิตเป็นพิษ ทำให้

เซลล์ต่างๆ มันรับอิทธิพลความเน่าและเสื่อมเร็ว
ไม่เชื่อ ลองหยุดกินข้าวซักเดือนหนึ่ง ข้าวเย็นนะ
คุณแทนคุณ     เฉพาะข้าวเย็น
หลวงปู่     เออ หยุดกินอาหารเย็นซักเดือน แล้วจะแก่น้อยลง แต่จะตายไวขึ้น เพราะ

กระเพาะมันจะ..คือ หยุดเลยไม่ได้ ก็ต้องหาอะไรที่มันเหมาะสม รองท้องไว้บ้าง
ในช่วงที่กินเจ คุณลองสังเกตุดู เวลาเรากินเจ เราจะรู้สึกตัวเบา
คุณแทนคุณ     ครับ สบายขี้น
หลวงปู่     เออ เราจะสบายขึ้น แต่ในมุมกลับกัน ถ้าคนกินเจไม่เป็น ก็คือ เล่นแต่น้ำมันตะ

พืด น้ำมัน แป้ง ข้าว, น้ำมัน แป้ง ข้าว อ้ายนี่มันเบาลง มันหนักขึ้นกว่าเก่าอีกนะ
ชั้นสังเกตุดู เวลาชั้น อ้ายช่วงที่ฉันเจ พุงชั้นป่องมากขึ้น
คุณแทนคุณ    เพราะหิวบ่อย เกี่ยวไม๊ครับ
หลวงปู่    ไม่ใช่
คุณแทนคุณ     เพราะทานแน่นเข้าไป
หลวงปู่     ไม่ใช่ ก็คนทำอาหารเจ มันเอาน้ำมันผัดผัก ไม่ใช่ ผักผัดน้ำมัน อ้ายเจนี่ มันไม่จำ

เป็นต้องมีน้ำมันเสมอไป มันนึ่งก็ได้ มันต้มก็ได้ ลวกก็ได้ อะไรอย่างนี้ มันสดก็ได้ อ้ายนี่

เล่นน้ำมันตะพืดเลย อ้ายเราก็ไปหากินอื่นไม่ได้ ก็ต้องอาศัยแบบนั้นน่ะ ก็พยายามเลือกๆ ก็

ไม่วายต้องเจอน้ำมัน
งั้น มนุษย์เนี่ย สรุปง่ายๆ คือ มีสติในกาย ความลำบากของกาย มันจะน้อยลงกับการกิน

เหมือนเมื่อเช้าที่มา บอกว่า เป็นโรคมะเร็งในกระดูก แล้วก็น้ำตาลขึ้น แล้วหาเหตุใด

ทำไมน้ำตาลขึ้น คุณกินอะไรมา, เออ กิน ทุเรียน
คุณแทนคุณ    ก็ควรอยู่นะฮะ
หลวงปู่      สมควรตาย, บอก สมควรล่ะ โรคทั้งหมด มันเกิดขึ้น ก็เพราะไม่รู้จักระวังปาก

ถ้ารู้จักระวังปาก พระเนี่ย สมภารอยู่วัดอะไร ทุ่งหนองโพรงนก อะไรเนี่ย องค์ก่อน องค์

โน้นน่ะ กินทุเรียน ช๊อคตาย, ฉันทุเรียน ช๊อคตาย, ฉันทุเรียน กับ อ้ายเครื่องดื่ม

บำรุงกำลัง ช๊อคตาย
งั้น น้ำตาลมันขึ้นมาก ทุเรียนเค้าว่า กินพูหนึ่ง เนี่ยนะ เท่ากับกินน้ำตาลประมาณซักกี่โลน่ะ

เป็นโลนะ คือ แคลลอรี่กับพลังงานมันสูงมากไง อ้ายตัวกระบวนการให้พลังงาน แล้วพวก

กินแล้วไม่เผาผลาญเลย
ถ้ากินทุเรียนเม็ดหนึ่ง นี่ต้องขึ้นลงอ้ายตึก 3 ชั้น อย่างน้อย 5 รอบ จึงจะเผาผลาญได้หมด

อ้ายนี่ เล่นกินทั้งลูก อืดอย่างนี้ไง แล้วมันจะเหลืออะไร แล้วมันกินวันหนึ่งหยุดที่ไหน มัน

เล่นทุกวัน ทุกเดือนอย่างนี้ มันก็ โรคตามมา
ดีแล้วล่ะ ที่เราไม่ฉัน ทุเรียน
คุณแทนคุณ    แล้วพระจะมีวิธีบอกอย่างไร ไม่อยากฉันอันนี้ บอกโยมว่า ถวายอันนั้นบ้าง

ถ้าบอก ญาติโยมว่า ขอผักเพิ่มหน่อย อย่างนี้บาปไม๊ฮะ
หลวงปู่     ขอผักเพิ่ม
คุณแทนคุณ    ฮะ ขอผักเพิ่ม
หลวงปู่      อ๊อ
คุณแทนคุณ     เช่นว่า อู้หู นี่มันเหลือเกิน มื้อหน้าบิณฑบาตร ขอผัก ใส่ผักเยอะหน่อยได้ไม๊

พระบางรูป ก็เป็นห่วงสุขภาพ
หลวงปู่      พระ เค้ามีบทพิจารณานะ เรา ปฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิ เรา

ย่อมพิจารณาโดยแยบคาย แล้วจึงฉันบิณฑบาตร ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเพลิดเพลินสนุก

สนาน ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเมามัน เกิดกำลังและพลังทางกาย และไม่ให้เป็นไปเพื่อ

ประดับ แต่ยังอัตภาพให้ดำรงค์อยู่ได้
คำว่า อยู่ได้ นี่หมายถึงว่า อยู่ แล้ว เราต้องได้นะ, ถ้าอยู่แล้วเสีย นั่นหมายถึงว่า เราเสียสุ

ขาพ เสียชีวิต เสียพลานามัย ก็แสดงว่า เราอยู่ไม่ได้
งั้น ความหมายของคำว่า อยู่ได้ มันตีความไปรวมว่า ให้มันเหมาะสมกับฐานุรูป แล้วก็

สุขภาพพลานามัยชองตน
เค้ามีคำกล่าวโบราณ มีคนมาหาชั้น มาจากขอนแก่น บอก อู้หู ไม่เจอหลวงปู่ 10 ปี

ทำไมไม่เปลี่ยนเลย พุงไม่ป่อง
เราก็เลยบอก เอ้ย หมูพีน่ะ ฤษีต้องผอม, คนเป็นฤษี มันต้องผอม ถ้าเป็นหมู มันต้องอ้วน

ต้องพี
งั้น ถ้าฤษีอ้วนๆ เนี่ย ไหว้ไม่ได้ล่ะ แสดงว่า ฤษีตะกละ, ฤษีตะกละ ฤษีอยากได้ ฤษีต้อง

การ ฤษีตะกรุมตะกราม
งั้น พระต้องพิจารณาอาหาร แล้ววิธีพิจารณาอาหาร นี่ไม่ใช่หมายถึงว่า เราต้องเลือกเอาแต่

ของดีๆ แต่เลือกให้มันเหมาะสมกับสภาพการดำรงค์อยู่ เรียกว่า อยู่ได้ ไม่ใช่อยู่ แล้วเรา

กินแล้ว เราอยู่ไม่ได้ ทุเรียนดี หูฉลามดี กุ้งดี ปลาดี เป๋าฮือดี แล้วมันอยู่ได้ไม๊
คำว่า อยู่ได้ คือ เราเป็นโรคจากการกินนั้นไม๊
คุณแทนคุณ     เป็นแน่นอน
หลวงปู่    เออ ถ้าเป็น ก็แสดงว่า อยู่ไม่ได้ล่ะ
คุณแทนคุณ     งั้นในกรณี ผมกลับไปถามมันเหมาะไม๊ ญาติโยม
หลวงปู่    ขอผักเพิ่มหน่อย
คุณแทนคุณ    ขอผักเพิ่มหน่อย ขอผลไม้เยอะหน่อย.....
หลวงปู่    ผักไม่มีแล้วจ้ะท่าน มีแต่หญ้า พอไหวไม๊ เออ มีแต่หญ้า
คุณแทนคุณ    คือ ไม่เหมาะที่จะขอเพิ่ม
หลวงปู่    ไม่ได้ ยกเว้น ปวารณา โยมนั้นเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นผู้ให้ปวารณา แม้ไม่ใช่พ่อ

ไม่ใช่แม่ แต่เป็นญาติ ผู้มาให้ปวารณาว่า หรือ เป็นชาวบ้านมาให้ปวารณาว่า ท่านเจ้าขา

ถ้าท่านปรารถนา ต้องการสิ่งใดๆ ขอจงบอก ตามอัตภาพ ตามสมณะสารูปไม่ใช่บอกว่า

อยากได้ มายบัค ซักคันหนึ่ง หรือว่า เครื่องบินเจทซักลำหนึ่ง อะไรอย่างนี้
คุณแทนคุณ     งั้น เกินไปครับ
หลวงปู่     หา เค้าขอกัน, เค้าขอกัน แล้วเค้าขอกันได้ด้วยนะ, คอปเตอร์ซักลำหนึ่ง ขับ

โชว์โยม อะไรอย่างนี้ อ้ายอย่างนั้น คนให้ แสดงว่า ไม่มีปัญญา สมองฝ่อ ไม่รู้จักคิด
คุณแทนคุณ    สมมุติว่า ในทางกลับกัน ถ้ามองในแง่ดี พระบางรูปทำงานหนัก แล้วญาติ

โยมรวย มาอุปฐาก พระไม่ได้ขอ แต่โยมถวายรถเบ็นซ์ รับ หรือไม่รับ จะผิดพระวินัย

อย่างไร
หลวงปู่       ชั้นก็มี ชั้นก็มีคนมาถวาย ขายหมด นี่ ก็เตรียมตัวจะขายอีกแล้ว มีคนมาถวาย

ให้เค้าไปซ่อมให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะเอามาขาย เอาตังค์มาเข้าวัด
ก็ มันไม่เห็นมีเหตุจำเป็นอะไรที่เราจะต้อง เวอร์ ขนาดนั้นน่ะ เราเป็นผู้ออกจากเรือน ไม่

เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว เราเป็นผู้ที่ไม่มีกาม เป็นผู้ที่ต้องพ้นจากกาม เป็นผู้ที่ปฏิเสธกาม

ไม่ตกอยู่ในอำนาจ ไม่เป็นทาสของกาม แล้วไปแสวงหากามไปทำไม
เพราะฉะนั้น หน้าที่ของพระ ก็คือ ผู้เปลื้องภาระ  แล้วถ้าพระยังขวนขวาย ถ้าภาระนั้นมัน

เป็นประโยชน์ทั้งตนและคนรอบข้าง อย่างชั้นทำสมุนไพรนี่ ถามว่า เป็นภาระไม๊, เป็น

แต่มันเป็นประโยชน์ทั้งตนและ คนรอบข้าง อย่างเมื่อเช้า รักษาคนไข้ ก็เป็นประโยชน์ทั้ง

คนรอบข้าง เป็นประโยชน์ทั้งที่ไกล ที่ใกล้ ขณะเดียวกัน ปัจจัยได้มา มันก็เป็นประโยชน์

ต่อพระศาสนา ต่อผู้คนที่อาศัยอยู่
งั้น มันก็ถือว่า มันเป็นภาระเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ไม่ใช่เป็นภาระเพื่อ

ประโยชน์เราอย่างเดียว ถ้าเข้าใจความหมายนี้ ก็ต้องรู้ว่า อะไรเหมาะสมสำหรับสมณะสารูป
แต่นักบวชสมัยนี้ ก็ต้องยอมรับ บางที ชั้นเปิดโทรทัศน์ดู ใส่ประคำลูกเบ่อเริ่มเลยนะ ใส่

อ้ายจีวรดำๆ นะ ผ้าอะไรก็ไม่รู้ สังฆาฏิก็ไม่ใช่นะ มีลาย มียันต์ ประกาศขายนางกวัก

ประกาศขายอ้ายขิก ประกาศขายเครื่องราง อะไรก็ไม่รู้นะ ประกาศขายเสือเผ่น ผ้าตระกวด
คุณแทนคุณ     ถ้าเราโทรฯไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับพระที่อาศัยผ้าเหลืองหากินอย่างนี้

เราผิดหรือเราได้บุญอย่างไร
หลวงปู่      ต้องถามมหาเถรฯน่ะ มหาเถรฯ ท่านมัวแต่ดูละครอยู่
คุณแทนคุณ    แรงเงา
หลวงปู่      เออ ท่านมัวแต่ดูละครอยู่หรือไง ท่านทำไมไม่ดูมันทั่วทุกช่อง ชั้นเนี่ย ร้อยกว่า

ช่อง กูกดมันจน คือ กดมันทุกช่อง คือไม่ดูมันหมด ดูว่า อะไรที่มันมีสาระ ชั้นกดๆ ทุกช่อง

จนอ้ายเด็กทำความสะอาด มันบอกว่า หลวงปู่ อ้าย รีโมท นี่มันเจ๊งแล้วนะ คือ กดมันดู

หมดทุกช่อง
เราอยากรู้ว่า แต่ละช่อง เค้าให้ความรู้อะไรแก่เราบ้าง แล้วแต่ละช่อง มันมีคุณ มีโทษ

เหมือนอย่างที่เล่าให้ฟัง บางคนมันมาประกาศขายนาฬิกา ใส่แล้ว ถูกหวยทั้งบ้าน อย่างนั้น

มึงมาขายทำไม มึงก็เอาไว้ใส่ซะคนเดียว แล้วอย่าใส่เรือนเดียว ใส่ตีน ใส่มือ ใส่ให้หมด

มันจะได้ถูกหลายๆ เออ มันใส่แล้วถูกหวยทั้งบ้าน
พูดเหมือนกับคนฟังไม่มีสติปัญญา แล้วก็น่าอายขายขี้หน้า
คุณแทนคุณ    แต่ก็มีคนที่ซื้อ
หลวงปู่        มีคนเชื่อ เออ เนี่ย เหมือนกับบ้านเราเมืองเรา หรือประเทศ คนในยุคสมัยนี้

สมองมันฝ่อลงไง ความเชื่อในเรื่องอะไรๆ ยา นี่สารพัดยา อู๊ย สารพัดยา ขายให้หลึ่มไป

หมด จนมันมีความรู้สึกว่า ไม่ใช่ถูกนะ ขวดหนึ่ง 3,000, 5,000
คุณแทนคุณ     ยาบำรุง
หลวงปู่     เออ เราก็มีความรู้สึก เอ๊ะ ชีวิตที่มันมีอยู่ทุกวันนี้ มันก็เป็นชีวิตที่มันสามารถจะ

สร้างให้เกิดการบำรุงทั้งกายและใจได้หรือเปล่า
คุณแทนคุณ   ครับ พูดถึงยา อยากกราบเรียนถามหลวงปู่ มันมีน้ำหมักชีวภาพ บางยี่ห้อ

มันมีประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่บางอย่าง มันก็น่ากลัว เช่น เอาไปหยอดตา ในความเป็นจริง

สรรพคุณ
หลวงปู่    คุณว่า น้ำตาลนี่ มีประโยชน์ไม๊
คุณแทนคุณ    น้ำตาลเหรอครับ มีครับ
หลวงปู่    เออ แล้วคนเป็นเบาหวานได้ไง มันก็มีทั้งโทษแล้วก็ทั้งประโยชน์ ทุกอย่างน่ะ

ข้าวมีประโยชน์ไม๊ล่ะ
คุณแทนคุณ     มีครับ
หลวงปู่     อ้าว แล้วคนเป็นโรคไขมันอุดตัน โรคอ้วนฉุได้ไง
คุณแทนคุณ     ทานเยอะไป
หลวงปู่     เออ โรคเบาหวานถามหาได้ไง ความดันสูง เส้นเลือดอุดตัน กินแป้งมากเกินไป

กลายเป็นน้ำตาลสะสม อย่างนี้ เผาผลาญพลังงานไม่หมด ของทุกอย่างมันมีประโยชน์ ใน

มุมกลับกัน มันก็มีโทษ ยามันก็เหมือนกัน คุณกินยา มันก็มีประโยชน์ในเวลาที่คุณเป็นโรค

แต่เมื่อใดที่คุณไม่มีโรค แล้วคุณไปกิน มันก็กลายเป็นโทษทันที
คุณแทนคุณ   คือ อย่างกรณีน้ำหมักของป้าคนหนึ่งที่ออกรายการ
หลวงปู่    อย่าไปยุ่งกับแกนะ แกปาก อู้หู เดี๋ยวแกด่าเปิด
คุณแทนคุณ     ผมก็เลยสงสัย บางคนก็บอกว่า ได้ผลนะฮะ อย่างเพื่อนผมเอาไปใช้ บอก

เออ ได้ผล แต่บางคนก็บอก มันน่ากลัวมาก เพราะไปดูการหมัก การอะไร เอาของต่างๆ

ซึ่งมันเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ
หลวงปู่       มีลูกศิษย์ชั้นน่ะ ลูกศิษย์ชั้น สนิทเลย อ้ายอวยชัยน่ะนะ มันเป็นโรคอะไรไม่รู้

ลูกสาวไปเอาน้ำหมักเนี่ยมาให้กินนะ กินจนกระทั่งไตเสื่อมน่ะ หมอบอกว่า ไตเสื่อม ค่า

ของไตเกือบจะไม่มีแล้ว ถามว่า ไปกินอะไรมา เนี่ย ไปกินอ้ายหมักเนี่ย เออ ลูกสาวเอาให้

กินทุกวันๆ ก็อวดอ้างโฆษณากัน งั้น ทุกอย่างมันมี เค้าเรียกว่า อะไร ลางเนื้อมันชอบลางยาง

คนบางคนมันไม่ชอบกัน มันไม่ถูกกัน มันกินแล้วมันก็เป็นโทษ
คุณแทนคุณ     เคมีไม่ถูกกัน ค่าไม่ถูกกัน
หลวงปู่        ใช่ เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่า ทุกอย่างมันจะดีเฉพาะเราทั้งหมด ยาบางอย่างที่

หลวงปู่ทำ บางทีรักษาหลายโรคหลายคนหาย กับบางคนกินแล้วเป็นผื่น แพ้ก็มี มันไม่ใช่

เสมอไป อ้ายยาซัลฟา ยาแก้อักเสบ ยาอะไรต่ออะไร ทั้งๆ ที่เค้าผ่านกระบวนการมาแล้ว

ทดสอบมาอย่างดี วิจัยมาแล้ว บางคนกินแล้ว ก็ช๊อคคาปากเลย
คุณแทนคุณ     ซัลฟา นี่แพ้กันเยอะ
หลวงปู่    ใช่ แต่ทำไมเค้ายังขายกันอยู่ เพราะว่า รักษาโรคบางโรคได้ไง งั้น คน มันมีสิ่งให้

เลือกกินเยอะแยะ แล้วก็ใช้ปัญญาหน่อยหนึ่ง เอ๊ะ วันนี้ ทำไมมีแต่เรื่องกินๆ อยู่ๆ, หิว

ข้าวมาเหรอ
คุณแทนคุณ      ไม่ครับ เพิ่งทานเสร็จ
หลวงปู่    เหรอ
คุณแทนคุณ     เรื่องสุขภาพครับ การเปลี่ยนแปลงบ่อยครับหลวงปู่ เดี๋ยวทราบว่า ปลายปี

หลวงปู่จะไปที่ทองผาภูมิด้วย
หลวงปู่    ใช่ บวชพระภาคถวายพระราชกุศลในหลวง ไปอยู่เพื่อจะปฏิบัติธรรม แล้วก็มี

ชาวบ้าน ปีนี้เค้ารับให้ชาวบ้านไปด้วยหรือเปล่า หา (ไปค่ะ)
ไปทำไมล่ะ, ไม่ ไปทุกปี ไม่เบื่อบ้างเหรอ, มึงไม่เบื่อ แต่กูน่ะเบื่อ กูรำคาญ
คุณแทนคุณ    สมมุติว่า มีวิศวกร มาเตือนหลวงปู่ว่า เส้นทางทองผาภูมิ มันมีความเสี่ยง

ต่อการเกิดแผ่นดินไหว เกิดเขื่อนทะลักขึ้นมา น้ำล้นมา หลวงปู่จะพิจารณา
หลวงปู่     ช่างมันเฮอะ ชั้นไม่ได้ตายคนดียว ชั้นมีเพื่อนตาย มันจะเป็นอะไร มันก็ควรจะ

ต้องเป็นน่ะ ตามเหตุตามปัจจัย แต่มันไม่เป็นเร็วหรอก เราตายแล้ว ยังไม่เป็นเลย อย่าไป

กังวลอะไรมันมาก บางทีคนกังวลมากๆ ไม่เป็นโรค ก็เป็น, ไม่ตาย ก็ใกล้ตาย, แต่ถ้า

ไม่กังวลอะไรเลย อ้ายที่จะตาย ยังเดินหิ้วหัวมาถามว่า จะต่อได้ยังไง เออ เพราะมันไม่

กังวลอะไรเลย
งั้น อ้ายเรื่องความกังวล มันเป็นอะไรที่ทำร้ายตัวเองเหมือนกันนะ คุณก็อย่าคิดมาก เอา

เป็นว่า สมัยหน้า จะได้เป็น ส.ส ไม๊เนี่ย
คุณแทนคุณ    ยังไม่ได้หวังอะไรเลยครับ หวังยากครับ
หลวงปู่    ทำการบ้านไว้เยอะๆ พยายามทำการบ้าน ลงชุมชน ลงพิ้นที่ ไปเคาะประตูเรียก

ไหว้มันส่งแหละ หมูหมา กาไก่ ยกมือไหว้มันหมดแหละ จิ้งจก ตุ๊กแก ไหว้แล้วไม่แจก

เค้าก็ไม่รับไหว้ ใช่ไม๊ ไม่หร๊อก เค้าก็มีคนที่คิดจะ คือ อยากบอกว่า อ้ายสังคมของ

ประชาธิปไตยของบ้านเราเนี่ย ไม่มีสิทธิ์จะเป็นประชาธิปไตยได้หร๊อก ถ้าเมื่อใดที่เรายัง

เข้าใจว่า ประชาธิปไตย มันต้องได้มาจากการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง เหมือนกับที่เค้าเลือก อบต

อบจ อะไรแถวนี้ ไปบอก เอ๊ย โรงงานข้างๆ มันส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นเหม็น ทำไมมึงไม่ไปบอก

อบต อบจ
เคยบอก อบต มันบอก มึงจะมาบอกอะไรกู อีตอนมึงเลือกกู กูจ่ายตังค์มึงนะ, แล้วจะพูด

ยังไง, อีตอนมึงเลือกกู กูจ่ายตังค์มึงนะ
คุณแทนคุณ    จ้างไว้เยอะ
หลวงปู่    แล้วทำไง, จ้างมึงเลือก, แล้วเดือดร้อน มึงจะมาบอกอะไรกู ก็จบไปแล้ว

บุญคุณ ความแค้น ไม่มีเหลือแล้ว  เออ นี่ไง ประเทศไทยมันเป็นอย่างนี้ไง
แล้วเดี๋ยวนี้ อบต อบจ มันไม่ใช่ 500, 1,000 นะ, มัน 3,000, 5,000

นะ, เออ 3,000 ขึ้นนะ อ้ายลูกน้องน่ะ แถวนี้ มันบอก อู้หู อย่างนี้ เลือกทุกเดือน กู

ไม่ต้องทำกินล่ะ เพราะมันแจกกันทุกคนๆ ละ 3,000 เออ ถ้ามันเลือกซะ 5 คน คือ

มันสมัครซะ 5 คน มันก็ได้เท่าไหร่ล่ะ 3, 5, 15 ได้ 15,000 ล่ะ วันนั้น

เหนาะๆ 15,000 สบายๆ
แล้วนี่ไง ประชาธิปไตยบ้านเรา ประชาธิปไตยจ๋า พวกบรรดาสารพัดเสิ้อทั้งหลาย ที่

พยายามให้มีการเลือกตั้ง อยากจะฝากบอกไว้ว่า นี่คือ ประชาธิปไตยของคุณเหรอ อ้าย

ประชาธิปไตยที่มันต้องลงขัน ลงตังค์ ซื้อกันเนี่ยนะ มันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน
ชั้นยังมีความรู้สึกว่า  อ้ายกระบวนการประชาธิปไตยบ้านเราเนี่ย เอ๊ มันมายังไงกันนี่ เมื่อกี้

เราคุยกันถึงเรื่องอะไร
คุณแทนคุณ     ผมกะจะคุยเรื่องสุขภาพ
หลวงปู่      เรื่องทองผาภูมิ แล้วโผล่มาประชาธิปไตยได้ยังไง เอ้า ๆ ย้ายกลับๆ
คุณแทนคุณ    แต่จริงๆ มันก็ อย่างเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ผมนึกว่า หลวงปู่จะตอบใน

trend นี้
หลวงปู่    อ๋อ ยังไงเค้าก็
คุณแทนคุณ    ผมก็เลยอยากจะถามว่า ในมุมกลับกัน
หลวงปู่     อเมริกาจะเจ๊งแล้ว
คุณแทนคุณ    ว่า การรับเงิน แล้วไม่เลือก บาปไม๊ หรือ การปฏิเสธ แล้วมีความเสี่ยงต่อ

ชีวิต เช่น ถูกกาหัว ถูกขู่เนี่ย
หลวงปู่      ไม่, กตัญญู นี่มันจะต้องกตัญญูต่อบุคคลผู้ไม่หวังสิ่งตอบแทน เค้าให้เรา เค้า

หวังให้เราไปกา อย่างนี้ไม่ควรกตัญญู  อย่างนี้เค้าเรียกว่า จ้างวาน
คุณแทนคุณ     ครับ แล้วถ้าเรารับมาแล้วเราไม่เลือก เราก็ไม่ผิด ใช่ไม๊ฮะ
หลวงปู่      รับมาแล้วไม่เลือก ก็แน่นอนล่ะ มันยิงไม่ผิดตัว ตีไม่ผิดหัว เพราะมันรู้ ก็หมู่

บ้านนี้ มันมี 300 เสียง อ้าว คุณก็เอาเงินกูไปครบหมดทุกคน แล้วมึงหายไปตั้ง 5-6

-70 เสียง หรือไม่ก็ 100 เสียง กูได้มา 50 เสียง อ้าว ที่เหลือ มึงไปไหน กูตีไม่ผิด

ตัว มันก็แค่ 300 เสียง มันจะไปไหน อย่างนี้เป็นต้น เพราะอ้าย อบต แต่ละหมู่บ้าน หรือ

แต่ละหมู่ๆ มันไม่ได้มีเป็นพันๆ หมู่เมื่อไหร่ล่ะ พันหลังเมื่อไหร่ ก็เป็นร้อย, เป็นร้อย งั้น

คนก็กล้าที่จะซื้อมากๆ
แล้วพวกนี้ มันก็มาเป็นเครื่องมือของนักการเมืองระดับชาติ มาเรียกร้องประชาธิปไตย
แต่ว่าที่ถูกแล้ว คือ ประชาธิปไตยมันไม่ได้เกิดมาตั้งแต่รากเหง้าแล้วล่ะ ตั้งแต่เลือกตั้ง

ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิกสภาฯ ไม่มี คำว่าประชาธิปไตย มีแต่คำว่า ซื้อ ทั้งนั้นแหละ
คุณแทนคุณ    ธนาธิปไตย เงินเป็นใหญ่
หลวงปู่      เออ เงินเป็นใหญ่น่ะ คือ มันต้องยอมรับความจริงในสังคมปัจจุบันนี้ว่า เราไม่

มีคำว่า ประชาธิปไตยจริงๆ หรอก
คุณแทนคุณ    ผมว่า ในสังคม จะมีพระที่เทศน์เรื่องธรรมะ กับ การเมืองน้อยลงทุกวัน

แล้วก็ หมายความว่า การให้สติในเรื่องนี้น่ะฮะ
หลวงปู่      เค้าก็เลยไม่ค่อยมีใครคบชั้นไง ราชการเวลาเค้ามีงาน มีราชพิธีอะไร เค้าจะ

นิมนต์ เค้าจะยกเว้นชั้นคนเดียว
คุณแทนคุณ      แต่หลวงปู่ขนาดเชิญอดีต ผบ. ทบ. มาได้ตั้ง 3-4 คน นี่ก็สุดยอด

แล้วนะฮะ ขึ้นภาพหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์บางฉบับด้วยนะฮะ
หลวงปู่       นี่เค้าเงียบไปแล้ว คุณยังมาหาเรื่องใส่ชั้นอีก เดี๋ยว เค้าจะหาว่า นี่ ระดมวันที่

27
คุณแทนคุณ     24 ฮะ
หลวงปู่     เออ 24 นี่ยังจะมาหาแววให้อีก ชาวบ้านเค้าลืมๆ กันไปแล้ว ยังเอาเรื่องอะไร

มายัดใส่อีกแล้ว ขนาดนี้ยังไม่วายเลย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังมีตำรวจมาไล่ถามเลยว่า จะไป

ประท้วงกับเค้าหรือเปล่า เห็นคนเต็มวัดเนี่ย นี่ ไม่แน่ใจว่า อาทิตย์หน้า จะมีมาตามถามอีก

ไม๊เนี่ย
เออ เพราะฉะนั้น ก็เลยอยากบอกว่า พวกนั้นน่ะ เค้าเป็นลูกศิษย์ เค้าไม่ได้คิดอะไร เค้ามา

เพราะเค้าอยากมาทำบุญ แต่อ้ายส่วนที่คนคิดอะไรมากๆ เนี่ย มันก็ว่ากันไป เอาแล้ว เรียก

ระดมพล ขุนทหารพร้อมกันที่ อะไรนะ ที่หัวหน้คณะปฏิวัติ กลายเป็น อาตมาเป็นหัวหน้า

คณะปฏิวัติ
คุณแทนคุณ    จริงๆ ผมอยากจะถามเป็นประเด็นสุดท้ายในเรื่องนี้ ว่า ทำยังไง คนไทยจึง

จะสามารถลดการเห็นผลประโยชน์ ที่เค้ามีการสำรวจ โกงก็ยอมรับได้ถ้าได้ผลประโยชน์ด้วย

อะไรอย่างนี้ แล้วก็มองว่า ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
คือ ผมอยากจะมองอย่างอริยประเทศ อย่างอเมริกา อย่างญี่ปุ่น ที่เค้ามีสำนึกต่อส่วนรวมใน

เรื่องนี้มากขึ้น แล้วก็มองให้รู้เท่าทันกลไกมากขึ้นว่า นักการเมืองลงทุนตรงนี้ เค้าก็ต้องไป

ถอนทุนในส่วนอื่น เช่น งบประมาณแผ่นดิน ที่มันเป็นภาษีของเราเอง แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ว่า มองเห็นตรงนี้หรือเปล่า ธรรมะจะช่วยอะไรได้ไม๊ครับ หลวงปู่
หลวงปู่      ไม่ ชั้นอยากบอกพวกคุณทั้งหลาย ญาติโยมพุทธบริษัทว่า ให้คุณเขียนรัฐ

ธรรมนูญเป็นหมื่นฉบับมาวางไว้ข้างหน้า แต่อ้ายบุคคลากรและกลไกที่บริหารจัดการตาม

หนังสือที่เขียน ตัวบทกฏหมายที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ มันไม่ทำงาน หรือ ละเว้นการ

ปฏิบัติหน้าที่ ละเลย เพิกเฉย หรือ เพิกถอน หรือไม่ใส่ใจ ให้เขียนแล้วต้มน้ำแจก ก็ไม่ได้

เป็นประโยชน์อะไร
ถ้าทุกวันนี้ เราเรียกร้องอ้ายตัวบทกฏหมายที่เขียนโดยลายลักษณ์อักษร แต่เราไม่เคยถามว่า

เขียนมาแล้ว ใครจะเป็นคนคุมมัน คุมที่จะใช้ตามตัวบทกฏหมาย ลายลักษณ์อักษรนั้นๆ
ถ้าเราบังคับใช้กฏหมายให้ตรงไปตรงมา ชัดเจน ว่ากันไปตามตัวอักษรชัดเจน แล้วมี

บุคคลากร บุคคลที่ซื่อตรง รับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจนนะ ไม่จำเป็นต้องมีรัฐ

ธรรมนูญ ก็ยังอยู่ได้
แต่ณ.วันนี้เรา คือ คนมันคดน่ะ พูดง่ายๆ คือ คนมันคด แล้วจะทำให้รัฐธรรมนูญซื่อตรง

มันคงยาก ให้เขียนให้ตาย มันก็ออกมาจากคนคดๆอยู่ดี
เพราะงั้น ไม่มีประโยชน์อะไร คุณเรียกร้องไป ประกาศไป เขียนขึ้นมาใหม่ เดี๋ยว ก็มีคน

มาลบมันลงไปอีก ก็เริ่มต้นมาตั้งแต่อ้ายรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย จนฉบับนี้

เป็นฉบับที่เท่าไหร่แล้ว
คุณแทนคุณ     18 ครับ
หลวงปู่     นั่นสิ ก็เดี๋ยวก็เขียน เดี๋ยวก็ฉีก, เดี๋ยวก็เขียน เดี๋ยวก็ฉีก แล้วเมื่อไหร่มันจะ

เลิกฉีกล่ะ ยังไม่รู้ว่า อ้ายฉบับหน้าที่จะเขียนกันใหม่เนี่ย อีกกี่ปีมันจะได้ใช้ ใช้แล้วมันจะใช้

ได้ซักกี่เดือน
คุณแทนคุณ     ส่วนใหญ่ประมาณ 10 ปี ครับ รัฐธรรมนูญบ้านเรา
หลวงปู่    ถึงเหรอ ไม่ถึ๊ง
คุณแทนคุณ     ปี 40 ก็ปฏิวัติปี 49 ครับ 9 ปี
หลวงปู่    เออ ฉบับนี้เพิ่งจะไม่ได้กี่ปีเอง
คุณแทนคุณ     จะเปลี่ยนใหม่อีกแล้ว
หลวงปู่     เออ จะเปลี่ยนใหม่อีกแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าจะเปลี่ยน เปลี่ยนคนเถอะ อย่าไป

เปลี่ยนรัฐธรรมนูญ
คุณแทนคุณ     เพราะฉะนั้น ระบบตรงนี้ ผมว่า สำคัญมาก ระบบความคิดของคนในสังคม

การศึกษา ธรรมะ ศาสนา สื่อ หรือ แม้แต่กลไกต่างๆ คือ เป็นกลไกที่เพิ่มพูนปัญญา มันไม่
หลวงปู่     มันพูดยากนะ ช่องว่างระหว่างสังคม มันดูเหมือนมันมี แต่พอเราเข้าไปแล้ว มัน

ไม่มีที่ว่าง ด้วยเหตุผลว่า มันมีอัตตา คือ ตัวกู เยอะมาก อ้ายช่องว่างระหว่างวัย มันดู

เหมือนมันมี จากเด็ก จากอายุ 10 ขวบ ไปจนถึง 15, 20 มันเหมือนมันมีช่องว่าง

แต่จริงๆ แล้ว มันไม่มี
เพราะเหตุผลที่ว่า อ้ายเด็ก 10 ขวบ มันก็มีอัตตาของมัน มีโลกส่วนตัวของมัน มีเรื่องมี

ราวมีชีวิตของเค้า อ้ายเด็ก 15 ขึ้นไป มันก็มีเรื่องของมัน มีโลกส่วนตัว มันมีกิ๊ก มีก๊อก มี

face book มีอะไรของมัน แล้วเราจะแทรกเข้าไปตรงไหน
นี่เราไม่ต้องไปพูดถึงว่า นักการเมือง นักปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี รัฐมนตรี ไม่

ต้องพูดกันเลย
คุณแทนคุณ    แค่เด็กๆ พื้นฐานง่ายๆ
หลวงปู่    เรายังแทรกเข้าไปได้ยากเลยถ้าเค้าไม่เปิดใจ แล้วไม่ลดช่องว่าง คือ ไม่ลดภาระ

กรรมและกิจกรรมในส่วนตัวของเค้า เพื่อจะมารับฟังเรา มันยากมาก
ก็ดูซิ ศาลาตั้งกว้าง นั่งกันมานี่ ดูสิ มันไปไหนกันหมดเนี่ย ทอดกฐินเหรอ
คุณแทนคุณ    ส่วนใหญ่คนที่มาวัด ก็จะอายุ เยอะเหมือนกันนะฮะ เยอะไม๊ฮะ
หลวงปู่      เยอะไม๊ มันไม่มีที่ไปแล้วไง ไปไหนไม่รอด ไม่มีที่จะไปแล้วล่ะ คือไปห้าง ก็

เดินไม่ไหว ไป shopping ก็ปวดหัวเข่า จะตาย ไปดูหนังก็ ฟังไม่รู้เรื่อง อะไรกัน

นักหนา
เอ้า มาวัดดีกว่าวะ หลับๆ ตื่นๆ ก็ยังพอเอา ทำเนา
คุณแทนคุณ   ผมมองเจาะลึกลงไป เฉพาะระบบทางศาสนา พระที่จะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

คือ คนที่จะรู้ว่า พระดี ยากขึ้น
หลวงปู่    ไม่ สมัยนี้ เค้าบอกดูไม่ยาก เค้าดูตรงที่ว่า พูดดี พระองค์ไหนถ้าพูดดี องค์นั้น

ปฏิบัติดี เค้าคิดกันอย่างนั้นนะ งั้น เราก็จะชอบพระองค์ไหนที่พูดดี
คำว่า พูดดี ในที่นี้ เค้าหมายถึงว่า พูดเพราะ พูดถูกใจ
คุณแทนคุณ    มี นะจง นะจ๊ะ อะไรอย่างนี้
หลวงปู่      เออ จ๊ะๆ จ้า อะไรอย่างนี้ แล้วพูดแล้ว รู้สึกว่า เออ มันทำให้เราสบายใจ แต่เค้า

ไม่ได้สนใจว่า คุณจะปฏิบัติดี ไม่ปฏิบัติดี เอาเป็นว่า คุณพูดดีให้ชั้นฟังแล้วกัน
อ้ายคนชอบอย่างนี้ บางทีมาวัดนี้ ได้ยินชั้น 2 คำ มันไปเลย ออกไปเลย เพราะชั้นพูดไม่

ดีไง ชั้นพูดไม่ค่อยดี งั้น ถ้าพูดดีๆ มันก็จะต้อง คือ คนเรามันชอบ เค้าเรียกว่า อะไร ชอบ

ให้คนใส่หน้ากากให้ตัวเอง เพราะว่า ตัวเองเคยใส่หน้ากากให้คนอื่น ก็อยากให้คนอื่นใส่

หน้ากากให้แก่ตัวเอง แล้วก็ไม่ชอบให้ใครถอดหน้ากาก ด้วยเหตุผลว่า ถ้าเมื่อใดที่ถอด

หน้ากาก เค้าจะกลัวตัวเอง
คุณแทนคุณ     ต้องถอดหน้ากากด้วย
หลวงปู่      เอ้า พอถอดแล้ว มันจะรู้สึก อู้หู ตัวเอง กูน่าเกลียดขนาดนี้เลยเหรอ ใส่ต่อไป

เถอะวะ กูยังสวยอยู่ ประมาณนั้นน่ะ
คุณแทนคุณ    ในสังคม มันต้องมีบ้าง มีมารยา มารยาท, มารยากับมารยาท มันคล้ายๆ

กัน
หลวงปู่      ก็มี ประมาณว่า ที่ไป shopping ปวดเข่าน่ะ ไปไหนก็ไม่ได้ ดูหนังก็ฟัง

ไม่สนุกแล้วล่ะ เออ ประมาณนี้ พวกนี้ไม่ชอบใส่หน้ากากแล้ว เพราะ ขืนใส่ ข้างในก็เหี่ยว
คุณแทนคุณ     หลวงปู่พูดค่อนข้างตรงไปตรงมา ทีนี้ ผมอยากจะเรียนถามว่า ทำยังไง

ระบบการศึกษา สามารถเป็นที่พึ่งได้ในแง่ของทางโลกด้วย
หลวงปู่      ไม่ได้ ระบบการศึกษาของชาติล้มเหลว  
คุณแทนคุณ    ออกมาวิภาควิจารณ์ ออกมาเตือน
หลวงปู่    ไม่ได้
คุณแทนคุณ    เหมือน สมเด็จโต ถือไต้ ไป
หลวงปู่        คือ ระบบการศึกษาของไทยเรา นี่มันล้มเหลวมาตั้งแต่เริ่มปฏิรูปการศึกษา

หรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่เริ่มตั้งแต่มีกระทรวงศึกษาธิการมานี่ มันไม่ได้ให้อะไรกับสังคมไทย

คือ ไม่ได้ตอบโจทก์สังคมไทยได้ครบทุกด้าน
ถ้ามันจะตอบโจทก์สังคมไทย เรื่องวัตถุ ก็ โอ เค ล่ะ แน่นอนล่ะ สังคมไทยได้วัตถุจากการ

ศึกษาเยอะมาก แต่ถามว่า ได้จิตวิญญาณ ได้จริยธรรม ได้คุณค่าของความเป็นคน ได้

ศักยภาพความเป็นมนุษย์สมบูรณ์ไม๊ ไม่มี, ไม่มี เพราะระบบการศึกษาไทย ไม่ได้ใส่ใจ

เรื่องจิตวิญญาณ เรื่องคุณค่า เรื่องศักยภาพ แต่ใส่ใจเรื่องความสามารถ และความทรงจำ
คุณสามารถที่จะรังสรรค์ จะทำ จะซ่อม บำรุง จะเสริมอะไร คือ เราผลิตบุคคลากรมาให้

เป็นหุ่นยนต์ ที่จะทำตามคำสั่งใครก็ไม่รู้ อ้ายใครก็ไม่รู้ ก็อาจจะกลายเป็นนักการเมือง เป็น

นักปกครอง หรือ เป็นใครก็ตามแม้กระทั่ง เฒ่าแก่ ผู้ที่จะซื้อแรงงานจากบุคคลเหล่านี้ เท่า

นั้นเอง แล้วพวกนี้ก็จะคิด คิดอยู่ในกรอบ
ระบบการศึกษาเรา พยายามจะตีกรอบให้คนคิด แต่ไม่พยายามจะบอกว่า อะไรที่อยู่

นอกกรอบ ควรจะรู้ เรากลัวที่จะมีคนรู้แบบนั้น เพราะ ถ้ารู้แบบนั้น มันจะกระทบไปถึง

อ้ายรากเหง้าของคนที่สร้างนโยบายการศึกษาว่า จะปกครองยาก จะดูแลลำบาก เพราะเมื่อ

ใดที่ประชาชนคิดนอกกรอบขึ้นมา ประชาชนก็จะยากต่อการที่จะเชื่อฟัง
คุณแทนคุณ     ใช่ครับ
หลวงปู่    เลยเป็นที่มาว่า เราก็ตกอยู่ในอำนาจ กระบวนการครอบของระบบการศึกษาน้ำเน่า

น้ำเน่าที่อ้างนักวิชาการ มาคิดให้เราที่จะทำตาม
มันไม่ใช่คำตอบของชีวิตในกระบวนการศึกษา ซึ่งจะต่างจากสมัยก่อนว่า เออ เวลาตาให้

หลานไปเรียน พ่อแม่ส่งลูกไปเรียน ก็จะบอกว่า อ้ายหนู ส่งไปเรียนน่ะ ให้พึ่งตัวเองได้

แล้วก็เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ แต่ระบบการศึกษาสมัยนี้ ส่งให้ไปเรียน นี่ เอาตัวให้รอด
คุณแทนคุณ    เป็น เจ้าคนนายคน อย่างนี้
หลวงปู่   เอาตัวให้รอด คือ เอาตัวให้รอด พอแล้ว อุ๊ย สมัยเจ้าคนนายคนน่ะ สมัยคุณยังเป็น

เด็กดูดนม สมัยนี้ เค้าไม่มีคำว่า เจ้าคนนายคน เค้าไม่เอา เพราะว่า เดี๋ยวนี้ เค้าไม่ชอบ

อำมาตย์ เค้าชอบไพร่ เอ๊อ เจ้าคนนายคนเค้าเลยไม่เอา ให้มันทันสมัยหน่อยสิ
เพราะงั้น เมื่อไม่ชอบอำมาตย์ ชอบไพร่ ก็เลยบอกว่า มึงเอาตัวให้รอด ระบบการศึกษายุค

ไทยเราก็เลยบอกว่า  เอาตัวรอดอย่างเดียว  ทีนี้ ทำอะไรบ้างที่ตัวมันจะรอด ก็ทำทุกอย่างที่

ตัวเองจะรอดโดยไม่ใส่ใจว่า ใครไม่รอด แม้กระทั่งบางที คนในครอบครัวไม่รอด ก็ช่างมัน

เออ วงศ์วานหว่านเครือไม่รอด ก็ช่างมัน ให้กูรอดก็พอแล้ว อะไรอย่างนี้
คุณแทนคุณ     ฟังดู มันหดหู่นะฮะ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
หลวงปู่     หดหู่ทำไม นี่คือ ของจริงที่เราต้องเปิดหน้ากากขึ้นมารับรู้ แล้วเราจะต้องอยู่กับ

มันแบบชนิดที่เราไม่ต้องเพลี้ยงพล้ำ ไม่ต้องตกเป็นทาส ไม่อยู่ในอำนาจการครอบงำ
คุณแทนคุณ    คือ อาทิตย์ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับเด็กๆ เด็ก 14 ที่เล่นเกมมากๆ แล้วก็แม่

ไปห้าม ก็ฆ่าแม่ กับเด็ก 8 ขวบที่ดูรายการทีวี ดูละคร แล้วก็เลียนแบบนะครับ ด้วยการ

ผูกคอตาย ทีนี้ มันก็สะท้อนได้ว่า คนที่ไปจบการศึกษาจากระบบที่หลวงปู่บอก ก็ไปผลิตสื่อ

หรือไปทำกระบวนการที่เอาตัวให้รอด เอาตัวเองรอดเป็นหลัก คือ ขายได้ แล้วคนอื่นจะพัง

ยังไง ก็ไม่สนใจ
หลวงปู่      ก็คนมันเล่นเกม แล้วมันฆ่าแม่มัน ก็เพราะมันคิดว่า มันต้องรอด แล้วคนอื่นไม่

รอด ช่างมัน งั้น ก็เลยฆ่าแม่มัน เพราะมันอยากเล่นเกม แม่มาห้ามมัน แสดงว่า แม่กำลัง

ทำให้กูไม่รอด งั้น แม่ก็อย่าอยู่เลย ประมาณนี้
คุณแทนคุณ     คือเคยมีประวัติว่า เป็นออทิสติค แต่ว่ารักษาหายแล้ว ผมอยากถามว่า อันนี้

มันเป็นวิบากกรรมซึ่งกันและกันหรือเปล่า
หลวงปู่    ถ้ามองกันในเรื่องระบบการศึกษา มันต้องโทษที่ระบบและกระบวนการ แต่ถ้า

มองเรื่องกฏของกรรม ก็อาจจะใช่ มันมีมุมให้เรามองหลากหลาย แล้วถ้าเรามองเป็นเรื่อง

ของโรค ก็ต้องยอมรับว่า เด็กที่เป็นโรคอย่างนี้ บางทีบางกรณี มันคุมตัวเองไม่ได้
แต่ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวง เด็กมีการศึกษาไม๊ เด็กมีพ่อมีแม่ไม๊ เด็กมีสังคมไม๊ เด็กมี

ศาสนาไม๊ เด็กมีองค์คุณของการเรียนรู้ไม๊ กระบวนการเรียนรู้ที่ครบสมบูรณ์ต่อการที่จะ

บำบัดรักษา และตอบโจทย์ให้ชีวิตตัวเองได้ไม๊
คุณแทนคุณ    ครับ
หลวงปู่    เออ มันขาดตรงนี้ไง พอมันขาดสิ่งเหล่านี้ แล้วเด็กก็เลยได้ไปข้างหนึ่ง คือ เอาตัว

กูรอด เอาตัวกูเป็นใหญ่ โดยไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม
คุณแทนคุณ     ทีนี้ ผมอยากจะถามในอีกมุมหนึ่ง ในมุมของคนที่ผลิตเกม หรือ ผลิตสื่อ

เค้าหวังว่า คนที่เล่น จะแยกแยะ
หลวงปู่    มันเหมือนกับคุณกำลังจะยกคำถามที่มันเป็นโลกแตกล่ะนะ เหมือนกับ อ้ายไข่

กับไก่ ใครเกิดก่อนกัน อะไรประมาณนี้ สินค้าเค้าอยากขาย
คุณแทนคุณ    แต่มันต้องมีสำนึกบ้าง ควรระมัดระวังมากขึ้นไม๊ฮะ
หลวงปู่       เค้าก็จะต้องมีคำเถียงกลับมา ชั้นไม่รู้จักเค้านะ อ้ายคนทำเกม เค้าก็ต้องเถียง

กลับมาว่า อ้าว พ่อแม่ทำอะไรอยู่ เออ ทำไมไม่สอนไม่ดูลูก ชั้นทำสินค้า ชั้นก็อยากขาย

แต่ชั้นก็ไม่ได้บอกว่า จะให้เด็กอายุเท่าไหร่เล่น ชั้นขายคนไปทั่ว เพราะงั้น คุณมาซื้อ

ทำไมคุณไม่สอนลูกคุณว่า ควรเล่นไม่ควรเล่น งั้น มันก็โทษกันไปโทษกันมา ไม่จบ
คุณแทนคุณ     อย่างละคร ละครสะท้อนสังคมว่า นี่คือ ความเป็นจริงของสังคมที่มีเมียน้อย

มีการแย่งผัวแย่งเมียกัน แต่บางกลุ่ม เค้าบอก นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว ทำไมมาดูถูก

ผู้หญิง ทำไมถึงเอาเรื่องแบบนี้มา ..ถ้าไม่สะท้อนและไม่สรุปตอนจบ คนก็จะไม่กลัว มัน

ควรจะเริ่มจากตรงไหนครับ ...
หลวงปู่    ก็หลักคิด หลักคิดของคนทำสื่อ โดยเฉพาะคนทำละคร เค้าคิดอยู่ในกรอบของเค้า

หรือเปล่า แล้วก็วัตถุดิบ แล้วก็ทรัพย์สินทางปัญญา ต้นทุนของเค้าทางปัญญา ต้นทุนทาง

สังคม ต้นทุนทางเศรษฐกิจ เค้ามีอยู่แค่ไหน มากน้อยอย่างไร
ทำไม คนดูละครเกาหลี ดูละครญี่ปุ่น แล้วทำให้ประเทืองปัญญา ทำให้เข้าใจวัฒนธรรม มัน

สื่อออกถึงความหมายของการมีชีวิต เห็นคุณค่าในการอยู่ร่วมกัน แต่คนดูละครไทย ดูแล้ว

เมื่อไหร่ ก็เน่าตลอดศก ก็เพราะหลักคิด วิธีคิดไง
คุณแทนคุณ    ครับ เรื่องนี้ น่าสนใจมาก
หลวงปู่     แล้วมันก็ย้อนกลับมาถึงวิธีคิดว่า คนพวกนี้ ได้วิธีคิดเหล่านี้มาจากไหน ระบบ

การศึกษา ใช่หรือเปล่า ได้วิธีคิดมาจากระบบการศึกษา ได้วิธีคิดมาจากสังคม ได้วิธีคิดมา

จากสิ่งแวดล้อม
คือ คนไทยเราเนี่ย ถ้าทำดี ไม่เป็นข่าว แต่ทำชั่ว แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ออกข่าว
คุณแทนคุณ    ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์
หลวงปู่    เออ นั่นแหละ ประมาณนี้เลยล่ะ หลักคิดอย่างนี้ไง คือ ชอบที่จะเสพของเน่าๆ คน

ไทยเรา นี่ ถ้าถามว่า ประเภทประมาณไหน ก็ แมลงวันหัวเขียว
คุณแทนคุณ    เรื่องชาวบ้าน เป็นงานของเรา
หลวงปู่     ไม่ อ้ายเรื่องความชิบหายของชาวบ้าน คือ งานของเราที่จะต้องสนใจดู มีอยู่ครั้ง

หนึ่ง ชั้นนั่งรถไปแสดงธรรม อ้ายเราก็ว่า รถมันติดอะไรนะ ถามอ้ายคนขับ คนขับบอก อ๋อ

เมื่อเช้าผมมา รถมันชนกันตรงนั้นแล้วคว่ำ แล้วเมื่อเช้ากับเวลานี้ มันต่างกันตั้ง 3 ชั่วโมง

แล้ว แล้วทำไมมันยังติด
ก็เพราะว่า เรื่องชาวบ้าน เป็นงานของเราไง อ้ายเราขับรถไป ก็ชะเง้อดู เอ๊อ นั่นแหละ มัน

ติดเพราะว่า พวกชะลอดู นี่แหละ
นี่แหละ เรื่องชาวบ้าน เป็นงานของเราล่ะ ทั้งที่เค้าก็เก็บไปล่ะ เหลือแต่ซากเละๆ แต่มันก็ยัง

เป็นงานของมัน
คุณแทนคุณ    อยากรู้ๆ
หลวงปู่    เออ นี่แหละ ชาวบ้าน ชาวไทย แต่คนต่างชาติ เค้าไม่มีอย่างนี้ เค้าถือว่า เออ มัน

จบไปแล้ว ก็แล้วกัน คือ เค้ามองว่า อ้ายรถข้างหลังมันจะติดเพราะเรา เค้ารู้จักที่จะอาทร

รู้จักคิด วิเคราะห์ รู้จักมองว่า เออ ใครจะเดือดร้อน เพราะการมีชีวิตของเรา
แต่คนไทยเรา ก็บอกแล้ว มีหลักคิดแค่นี้ไง มันเหมือนๆ กับว่า อ้ายคำสอนที่บอกว่า เรียน

ให้เอาตัวรอด มันฝังเข้าไปในก้นบึ้งของจิตวิญญาณมนุษย์ไทย
งั้น มันก็จะโกงเพื่อเอาตัวรอด มันจะกินเพื่อเอาตัวรอด มันจะขายสิทธิ์ ขายเสียงเพื่อเอาตัว

รอด อะไรอย่างนี้
ทำไม วันนี้ มันมีแต่งานสังคมตลอดเลย
คุณแทนคุณ     .......เดือนนี้ที่ออกอากาศ จะมีวันสำคัญคือ วันที่ 5 ธันวาฯ

....อยากกราบเรียนถามว่า เราจะทำอะไรจึงจะถือว่ามีธรรมะ แล้วนำธรรมะน้อมถวาย

เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ดีที่สุด ที่ง่ายที่สุด และตรงกับเป้า

ประสงค์ที่สุด
หลวงปู่      ถามทุกปี ถามทุกปี เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณเป็นใคร
คุณแทนคุณ    ผม ประชาชนธรรมดาคนหนึ่งฮะ
หลวงปู่      เป็นพ่อ
คุณแทนคุณ    เป็นพ่อ
หลวงปู่    เป็นผัว
คุณแทนคุณ    เป็น ผัว
หลวงปู่   หรือเป็นเมีย
คุณแทนคุณ    ผัวก่อนดีกว่า
หลวงปู่     เพราะฉะนั้น เป็นพ่อ เป็นผัว ก็ทำหน้าที่เฮอะ ทำหน้าที่พ่อ ทำหน้าที่ผัว
คือ คุณเป็นอะไร แล้วก็เป็นใคร ก็กลับไปทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด 
คุณแทนคุณ     ทำหน้าที่ คือ การปฏิบัติธรรม
หลวงปู่    ใช่ทำหน้าที่นั่นแหละ คือ สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านอยากเห็น อยาก

เห็นคนไทยได้หน้าที่ของตนให้สมบูรณ์แบบ ถูกต้องที่สุด
คุณแทนคุณ     มีพระราชดำรัสหลายครั้ง คล้ายๆ อย่างนี้นะฮะ
หลวงปู่    ใช่ การทำหน้าที่อย่างซื่อตรง และตรงไปตรงมา
คุณแทนคุณ    ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
หลวงปู่     เออ ของตนไป ก็เหมือนกับพระราชดำรัสในวันที่พระองค์ทรงครองราชย์ 60

ปี ชั้นพิมพ์แจกนะ ผู้คนที่มาถวายพระพร ทรงตรัสว่า ขอให้ทุกคน ต่างฝ่ายต่างกลับไปทำ

หน้าที่ของตนๆ ให้ดีที่สุดอย่างซื่อตรงและเที่ยงธรรม  เท่านั้นแหละ
งั้น ก็ถามกลับไปว่า คุณมีหน้าที่อะไร คุณเป็นรัฐมนตรี ก็ทำหน้าที่, นายกฯ ก็ไปทำ

หน้าที่, สส. สว. ก็ไปทำหน้าที่, พระเถร ชี ไปทำหน้าที่ของตน แล้วก็ทำหน้าที่

อย่างเที่ยงตรงและซื่อตรง ดีที่สุด อย่างรับผิดชอบ
แล้วมันอยู่ในบุญกิริยาวัตถุด้วยนะ ว่าด้วยเรื่อง การทำหน้าที่ถูกต้อง เป็นบุญสูงสุด เป็นบุญ

ของชีวิต
คุณแทนคุณ    เป็นสัมมาทิฏฐิอย่างหนึ่ง
หลวงปู่    เออ ใช่ เพราะฉะนั้น จึงอยากจะบอกว่า ถ้าจะถามว่า วันเฉลิมฯ ควรทำอะไร ก็

ทำหน้าที่ กลับไปทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ รับผิดชอบในหน้าที่ ดูแลในหน้าที่ ศึกษาในหน้าที่

เรียนรู้ในหน้าที่ แล้วก็บริหารจัดการในหน้าที่ให้ถูกต้อง แล้วก็ซื่อสัตย์
คุณแทนคุณ    สาธุครับ ผมลองมองอีกมุม หน้าที่ เปรียบเทียบเหมือนกับ ที่เค้าบอกว่า มา

ดีไปดี มันก็จะมี 4 ลักษณะ
มาดี ไปดี คือ ได้หน้าที่ดี การงานดี เค้าเรียก เต็มระดับ
มาดี ไปไม่ดี เรียกว่า ตกระดับ คือ ได้งาน แต่ไม่ขวนขวาย ไม่ขยัน
มาไม่ดี ไปดี คือ ไต่ระดับ พยายามขวนขวาย พัฒนาตัวเอง
สุดท้าย มาไม่ดี ไปก็ไม่ดี บางคนทำหน้าที่ เหมือนกับว่า ทำแบบขอไปที จ้างแค่นี้ ก็ทำแค่นี้
หลวงปู่    ที่จริง นี่มันเป็นสุภาษิตนะ อ้ายประเภทสุดท้ายนี่มัน ต้นคด ปลายก็คดนะ
อ้ายประเภท มาไม่ดี แล้วไปดี นี่เค้าเรียกว่า ต้นคด ปลายตรงนะ
อ้ายประเภทที่บอกว่า มาดี ไปไม่ดี  ก็คือ ต้นตรง ปลายคด
มันเป็นสุภาษิตนะ สรุปรวมๆ ก็คือว่า
ถ้าคุณมีชีวิตอยู่อย่างคดไปคดมาเนี่ยนะ คุณก็จะไปยากที่จะไปหาความซื่อตรง จากคนอื่น
ถ้าคุณมีชีวิตอยู่อย่างชนิดไม่ดี ก็จะลำบากที่คุณจะไปรู้จักคำว่า ดี จากคนอื่น
ถ้าคุณมีชีวิตที่อยู่ด้วยความรู้สึกไม่เที่ยงธรรม ไม่ชอบธรรม คุณก็จะเป็นเรื่องทุกข์ยากมาก

ที่คุณจะไปแสวงหาความเที่ยงธรรม ความชอบธรรมจากสิ่งอื่น
งั้น เอาเป็นว่า ถ้าเมื่อใดที่คุณอยากจะได้สิ่งงดงาม สิ่งดีงาม สุจริต เที่ยงธรรม ชอบธรรม

ซื่อตรง ยุติธรรม แล้วก็มีน้ำใจ คุณต้องมีก่อน แล้วคุณก็จะรู้ว่า คนไหนมี และไม่มี แล้วทีนี้

คุณก็จะเลือกเข้าใกล้ และเลือกที่จะไม่เข้าใกล้กับคนที่ไม่มี
คุณแทนคุณ     ซึ่งก็คือ การเลือสรร คือ ผมสนใจตรงนี้ฮะ พุทธศาสนา จริงๆ แล้ว ไม่ใช่

เป็นหลักที่จะทำให้เราต้องทำอะไรแบบหว่านแหไป แต่จะต้องเลือกสรรอยู่ด้วย ใช่ไม๊ฮะ

เช่น มงคลสูตร เริ่มจากการที่ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต บูชาคนที่ควรบูชา อยู่ในสิ่งแวดล้อม

ที่ดี อย่างนี้เป็นต้น หรืออย่างพระพุทธเจ้า เวลาท่านสอน ท่านเลือกคนที่มีธุลีกิเลส กิเลสน้อย

อันนี้เข้าใจถูกไม๊ฮะ อย่างถ้ามหายาน จะมองว่า วิธีคิดแบบนี้ มันค่อนข้างแคบไปหรือเปล่า
หลวงปู่    ชั้นกำลังจะมองคุณเนี่ยนะว่า คุณนี่ พัฒนาขึ้นนะ
คุณแทนคุณ    ครับ
หลวงปู่     พัฒนาขึ้น พอเป็นนักการเมือง จะซักอะไรเยอะขึ้น แล้วก็จะไปได้กว้างๆ มากขึ้น
คุณแทนคุณ     คือ ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรครับ หลวงปู่ ลูกศิษย์หลวงปู่เหมือนเดิม
หลวงปู่      มันอาจจะเป็นเพราะว่า อยู่ในสถาบันที่คุยเก่งก็ได้
คุณแทนคุณ    ผมชอบฟัง
หลวงปู่     เออ เอาเป็นว่า อะไรนะ เมื่อกี้ถาม มหายาน ยังไงนะ
คุณแทนคุณ     ถามว่า แนวคิดที่ว่า ต้องเลือกสรรเฉาะคนที่สามารถเข้าถึงได้ก่อน เป็น

แนวคิดที่มหายานมองว่า แคบไป ควรจะเผยแพร่ไป แล้วใครใคร่ได้ ก็ได้ไป เราไม่

สามารถที่จะไปปิดกั้น หรือว่า เราจะเลือกก่อน
แต่ หินยาน บอกว่า อาจจะต้องเลือกก่อน แล้วถึงจะสอน มันจะได้ลึก และจะได้คนที่สนใจ

จริง
หลวงปู่     มหายาน เค้าจะคิดอย่างนี้ เค้าคิดแบบวิถีพระโพธิสัตว์ ขอเพียงมีปฏิสัมพันธ์

ระดับต้นๆ
นั่นคือ วิธีโปรดสัตว์ ชนิดหนึ่ง มหายาน เค้าจะคิดแบบนี้ คือ คิดว่า เราสอนไม่ได้ ก็แค่รู้จัก
คุณแทนคุณ    ให้มีโอกาสซักเล็กน้อย
หลวงปู่    เออ คุยไม่ได้ ก็แค่รู้จัก เพราะมหายานเชื่อในเรื่องของ บุพเพกตปุญญตา บุพเพ

สันนิวาส แล้วก็เชื่อเรื่อง กฏของกรรม, เชื่อว่า คนเราถ้าได้พูด ได้มีปฏิสัมพันธ์กันซัก

เล็กน้อย มันก็จะเป็นเชื้อ หน่อเนื้อ เชื้อที่จะส่งต่อให้วันพรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีหน้า อ้าว ผมรู้จัก

คุณนี่ เคยคุยกัน เออ ก็เป็นที่มาของความสนิสนม
แต่ หินยาน เค้าจะเอาตัวรอด อ้าว ตัวใครตัวมัน
คุณแทนคุณ    พึ่งตัวเองให้ได้ก่อน
หลวงปู่       ก็นั่นไง ก็เอาตัวให้รอดไง เค้าจะไม่สนใจรหรอกว่า คุณจะไปยังไง จะมายังไง

จะเป็นยังไง จะอยู่แบบไง เอาเป็นว่า คือ ตัวกูต้องรอด ตัวเองต้องแข็งแรงก่อน
แล้ววันที่ตัวเองแข็งแรง คือ วันที่ตัวเองตายพอดีไง เลยไม่ได้พึ่งไง เลยไม่ทันได้พึ่งไง
ทีนี้ คน ทำไมถึงชอบ ว่า เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำไมหินยานจึงรุ่งเรืองอยู่ได้
ก็เพราะว่า เมื่อคนรู้สึกว่า ต้องทำให้ตัวเองแข็งแรงก่อน จึงจะไปช่วยคนอื่น
เพราะ อ้ายความคิดที่จะต้องทำให้ตัวเองแข็งแรง จนเป็นมรรคเป็นผลนี่แหละ มันทำให้คน

ที่ไม่แข็งแรงทั้งหลาย ได้มองถึงจุดดีของคนที่แข็งแรง ว่า โอ้ คนๆ นี้เค้าแข็งแรง เพราะ

เค้าทำอย่างนี้ๆ
ซึ่งจะแตกต่างจากมหายานที่ว่า ไม่ใส่ใจความแข็งแรงของตน แต่สนใจความอ่อนแอของ

คนอื่น
คุณแทนคุณ    ช่วยไปก่อน คุยไปก่อน พบปะไปก่อน
หลวงปู่    เออ คุยกันไปก่อน พบปะกันไปก่อน ทั้งๆ ที่ ตัวเองก็ ลากกูไปทีวะ, มึงลากกู

ไปช่วยคนๆ นั้นทีวะ อะไรอย่างนี้
ในมุมกลับกัน มันก็มองเป็นเรื่องลบได้ว่า เอ่ย มึงยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วมึงจะมาสอน

อะไรกู มึงก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วมึงจะมาช่วยอะไรกู ประมาณนี้
เค้าก็เลยมีความรู้สึกว่า คนที่มอง ที่จะเห็น เอามรรค เอาผลในปัจจุบัน ก็จะคิดว่า ไร้สาระ
แต่อ้ายคนที่มองให้เห็นว่า เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน มองให้เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน แล้วก็

เป็นประโยชน์ที่จะส่งผลให้เค้าไปถึงอนาคต เค้าก็จะมองว่า มหายาน เป็นสิ่งที่มีสาระ
คุณแทนคุณ    ผมเข้าใจว่า หลวงปู่ก็ทำทั้ง 2 อย่าง ทำทั้ง 2 ทาง ในขณะที่ฝึกปฏิบัติไป

ด้วย แล้วก็เผยแผ่ไปด้วย
หลวงปู่    แล้วไง
คุณแทนคุณ    ทีนี้ หลวงปู่คิดว่า มันมีจุดร่วม หรือ มันจะมีวัน ที่ทั้ง 2 จะรวมกัน
หลวงปู่      บางทีมันก็ยาก อันนี้พูดถึงส่วนตัวนะ
คุณแทนคุณ    ใช่ฮะ
หลวงปู่       บางที มันก็ทำใจยากนะ
คุณแทนคุณ    ยังไงฮะ
หลวงปู่     บางวัน ชั้นก็ หิ น ย๊าน หินยาน
คุณแทนคุณ    คือ ไม่สนใจใคร ไม่ยุ่งกับใครเลย ใช่ไม๊ฮะ
หลวงปู่        เอ้า จริงๆ มา ยังไม่มองหน้าเลย บางวัน ชั้นก็ หิ น ย๊าน หินยาน, บางวัน

ชั้นก็มหา ย๊าน มหายาน, เห็นหมายังทักเลยล่ะ อ้าว จริงๆ เห็นหมา ยังเดินเข้าไปหา,

เฮ้ย เป็นไง มึง, เห็นหมูนี่ ดูหมู กับนกกระยาง มีนกกระยางอยู่ตัว กินนอนกับหมู,

เห็นหมู ก็ยังเดินไปทัก
เพราะงั้น บางที มันก็หาจุดร่วมได้ยากเหมือนกันนะ กับยุคในปัจจุบัน ที่เราอยู่ในสังคมที่

ต้องการหาที่พึ่งทั้งชาติน่ะ
คนที่มาวัดนี่ คือ คนที่ต้องการที่พึ่งทั้งชาติ มันไม่ใช่พึ่งแค่วันเดียว ช่วงเดียว
เพราะงั้น เราก็จะต้องทำ เอ๊ะ กูจะอยู่ยังไงวะ เป็นที่พึ่งให้เค้าทั้งชาติ
ก็ต้อง เอาหินยานบ้าง ขืนเอาแต่มหายาน โอ๊ย ป่านนี้ ชั้นเหลือแต่กระดูกแล้ว
ก็ต้องเป็นหินยานบ้าง คือ ต้องหลบบ้าง, เห็นคน แว๊บ, เห็นคน แว๊บ บ้าง ต้องเอาตัว

รอดบ้าง
คือ วิธีคิดของมหายานเนี่ย เค้าสร้างปฏิสัมพันธ์เบื้องต้น พอมีปฏิสัมพันธ์เบื้องต้น เค้าก็จะ

คิดว่า ปฏิสัมพันธ์ครั้งที่ 2, ที่ 3, ที่ 4 จะมีต่อไป นั่นคือ มหายานที่เค้าต่างคนต่างไป

เค้าแสวงหา
แต่พอมหายานของชั้น นี่มันไม่ใช่ มันมหายานกระจุก มันไม่กระจาย
พอมีปฏิสัมพันธ์เบื้องต้นปุ๊บนี่ มันยังกับแหนเลยล่ะ ยังกับหมัดหมาเลยล่ะ พูดเห็นภาพไม๊
คุณแทนคุณ    เห็นภาพเลย
หลวงปู่    เออ มันกระโดดปุ๊บ เกาะปั๊บเลย เรานี่ จะผอมเอาๆ จะเดินไม่ได้เลยล่ะ มันจะ

เป็นพันธุ์นั้นเลย อ้ายมหายาน เริ่มต้นหลักคิดเค้าเนี่ย พอเค้าสร้างปฏิสัมพันธ์ ก็ต่างคนต่าง

ไป ถูกไม๊
อ้ายมหายานยุคปัจจุบัน ขืนเป็นอย่างนั้น พอปุ๊บนี่ มันจะฮือเข้ามาหา แล้วเผอิญอ้ายเรา

เป็นคนที่ไม่ชอบเสพ คือ ลึกๆ มันก็มีจิตเป็นหินยานอยู่ คือ ไม่ชอบเสพ ไม่ชอบสะสม ไม่

ชอบละโมภ เค้าเรียกว่า อะไร ไม่ชอบติดในตระกูล คือ ตระหนี่ในตระกูล เป็นผู้ตระหนี่ใน

ตระกูล ไม่มักมากในตระกูล
เพราะถือหินยาน ต้องรักษาพระวินัยข้อนี้ เรื่องของอาบัติ สังฆาทิเสส เป็นผู้ไม่ประจบใน

ตระกูล
พอยึดถือว่า เราจะไม่ทำอาบัติข้อนี้ให้เกิดขึ้น ไม่ยึดในตระกูล ไม่ประจบในตระกูล ไม่

สอพลอกับตระกูล ทีนี้ พอเราทำตัวเป็นมหายานปุ๊บ ตระกูลมันก็จะหลั่งไหลเข้ามาสิ แล้ว

เราก็จะมีความรู้สึกว่า เอ๊ อาบัติกูจะเสีย อาบัติกูจะเกิดขึ้น อาบัติมันไม่ใช่น้องพ่อนะ มันจะ

เป็นญาติเราแล้ว
คุณแทนคุณ    เป็นสังฆาทิเสสด้วย
หลวงปู่      เออ มันก็จะต้องหาวิธีที่ที่จะผลักดัน มันยากมากนะ ทำตัวยาก ถ้าหินยานด้วย

มหายานด้วย ให้มันไปคู่ด้วยกัน บางทีมันหาจุดร่วมได้ยาก
คุณแทนคุณ    อุเบกขาบ้าง คือ รู้จัก แตะ ปฏิสัมพันธ์ แล้วก็ปล่อยๆๆ
หลวงปู่       ก็นี่ไง พอปล่อยปุ๊บ แล้วมัน, เอ้า ปล่อย, มันไป๊ แต่มันหันมาด่าเรา หยิ่ง
คุณแทนคุณ     จริงนะๆ
หลวงปู่    เออ โอ๊ย วัดนี้ไม่ไปหร๊อก ดูซิ ไหว้ ยังไม่มองเลย, เออ หยิ่ง, เอาตังค์ไป

ถวาย, ขอบใจ วางไว้ที่นั่น เออ ดู ไปทำทำไม ประมาณนั้นไง
ที่จริง ที่เราทำน่ะ ทำถูกวินัยนะ แต่เค้าคิด คือ ชาวบ้านคิดแบบวิถีชาวบ้านว่า มันต้อง จ๊ะจ๋า

จ๊อกแจ๊ะไง ทีนี้ พอมัน จ๊ะจ๋า, จ๊อกแจ๊ะ แล้ว มันไม่ใช่เรื่องของญาณล่ะ
ญาณ แปลว่า ปัญญา มันไม่ใช่แล้วไง มันกลายเป็นหย่อนยานแล้วไง เออ มันยานโตงเตง

มันยึดยาด เราก็เลย อื๊ม ทำตัวลำบากกับคนที่ไม่รู้จักสมมุติ
คุณแทนคุณ     ทีนี้ ต้องประกาศไว้เลย ต่อไปนี้ ถ้าหลวงปู่มี
หลวงปู่     วันไหน หินยานจะเข้ากู วันไหน อาตมาจะเข้าหินยานล่ะ วันไหนอาตมาจะเข้า

มหายาน ยกป้าย ต้องให้ลูกศิษย์ ถือป้าย ยก
คุณแทนคุณ    วันนี้ หินยาน
หลวงปู่      เออ วันนี้ หินยานจ๊า, จะได้ต่างคนต่างไป
เฮ้ยๆ อย่าเข้าเว้ย หินยานเว้ย
เอ้า วันนี้ มหายานเว้ย ไปเว้ย ไป๊ ไป
ประมาณนี้ล่ะนะ
แต่อยากจะบอกว่า บางทีเนี่ยนะ คือ อ้ายวิถีชีวิตของการสั่งสมบารมีธรรมเนี่ย คุณแทนคุณ

มันไม่ได้ง่าย อย่างที่คนทั่วไปคิดว่า เออ จะไปยากลำบากอะไร ก็แค่ทำตัวให้เค้าไหว้ ทำตัว

ให้เค้ากราบ
หินยาน เค้าจะถือกันว่า อยู่เพื่อไหว้ตัวเอง เรียกว่า ไหว้ตัวเองได้ บูชาตัวเองได้ เคารพตัว

เองได้
แต่มหายาน ท่านสอนไว้ว่า ทำตัวให้เค้าไหว้ ทำตัวให้เค้าไหว้ คือ ทำให้เค้าศรัทธา
มันแตกต่างกันนะ
ทีนี้ ถามว่า 2 อย่างนี่ เรามีไม๊, เราก็มี, แล้วถามว่า อันไหนมันมากกว่ากัน
มันอยู่ที่ลมฟ้าอากาศ
คือ อ้ายเรื่องทำตัวให้เค้าไหว้เนี่ย แหม มันพูดยาก ทำยาก
แต่ทำตัวให้ไหว้ตัวเองน่ะ ทำสบายมาก, ยืน เดิน นั่ง นอน ตีลังกา อยู่ได้ทั้งวัน เราก็ไหว้

ตัวเองได้ตลอด
คุณแทนคุณ     แต่ไหว้ ต้องไหว้แบบไม่หลงตัวเองด้วยไม๊ฮะ
หลวงปู่     เอ้า คนเรา ถ้าจะไหว้ตัวเองได้ มันต้องมีอะไรให้ไหว้
คุณแทนคุณ    มี หิริ โอตัปปะ
หลวงปู่    เอ๊อ มันต้องมีดีให้ไหว้ ถึงจะเรียกว่า ไหว้ตัวเองได้, ไม่ใช่ไหว้แบบ, คน

ไหว้ตัวเองได้ นี่มันหมายถึงว่า มันต้องใช้กระบวนการไตร่ตรองแล้ว ใคร่ครวญแล้ว

วิเคราะห์แล้ว ไม่ได้มีโมหะในการไหว้
งั้น ความหมายของ หินยาน มหายาน เนี่ย มันสวนทางกัน ด้วยเหตุปัจจัย
หลวงปู่พยายามทำนะ พยายามทำ
เหมือนสมัยก่อนที่จอมพล ป.ฯ ท่านสร้างวัด เอ๊ จอมพลป. หรือ จอมพลสฤษด์ฯ สร้าง

วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เมื่อก่อนนี้ เอามหานิกายอยู่ฝั่งหนึ่ง วัดพระศรีมหาธาตุ เค้าจะ

มีคลองอยู่คลองหนึ่ง คลองผ่ากลางวัดสมัยก่อนนะ บ่อน้ำ บ่อคลองอะไรเนี่ย มหานิกายอยู่

ฝั่งหนึ่ง ธรรมยุตอีกฝั่งหนึ่ง กะว่า ให้ทั้ง 2 ฝั่ง ลงโบสถ์ร่วมกัน
คุณแทนคุณ     อ๊อ เพราะเค้ามีกฏ ห้ามสังฆกรรมร่วมกัน
หลวงปู่     เออ จะได้ให้อยู่ร่วมกัน เพราะมันจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ผลที่สุดแล้ว อยู่ไป

ได้สักพรรษาหนึ่ง ก็เอาขี้ปากัน แม้ธรรมยุตกับมหานิกาย ยังอยู่ร่วมกันไม่ได้เลยล่ะ
ชั้นน่ะ เป็นคนที่ทำอะไร ชอบขวางโลก พยายามให้มหายานกับหินยานมาอยู่ในคนๆ เดียว

กัน
คุณแทนคุณ    ดูอย่างพระ ก็ยังมีทั้ง 2 แบบ ทั้งหินยาน กับมหายาน
หลวงปู่     เค้าก็เลยด่าชั้นไง เจ้าคณะองค์ปัจจุบัน เค้าก็เลยว่าไง หาว่าเป็นพวกนอกรีต นอก

คอก สมัยก่อน เค้าเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดถึงกับฟ้องร้อง ขึ้นโรงขึ้นศาลไง
คือ เราคิดไม่เหมือนกับวิธีคิดของเค้า คิดไม่เหมือนกับวิธีคิด เค้าก็เลยคิด สิ่งที่เราคิด ว่า

เป็นเรื่องผิด
ที่จริงแล้ว คนทุกคนมีสิทธิ์คิด แล้วความคิดของแต่ละคน มันไม่ได้ผิด ถ้ามันไม่ได้ทำให้

ใครเดือดร้อน แต่ทีนี้ เค้าไม่ได้คิดยาวขนาดนี้ เค้าคิดได้อยู่ในกรอบของเค้าว่า ถ้าคิดไม่

เหมือนเค้า ก็คือ ต้องผิด น่ะเป็นวิธีคิดของคนยุคดึกดำบรรพ์
(หลวงปู่เล่าเรื่องพ่อของพราหมณ์ที่ไปเกิดเป็นลูกสุนัข..............)
คุณแทนคุณ    เอาล่ะครับ เดี๋ยวให้หลวงปู่พัก ซัก 10 วินาทีนะครับ จะได้อ่านจดหมายต่อ

จะเป็นคำถามที่ทางญาติโยมที่อยู่ในนี้ ถามมานะครับ
ปุจฉา       ผู้ชาย อายุ 50 ปี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เวลาทำงาน เครียด และหงุดหงิดง่าย

ในบางครั้ง ไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาล พบว่าเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ บี อยากทราบว่า

จะทานยาบำรุงตับของหลวงปู่ได้หรือไม่ ถ้าทาน ทานอย่างไร และนานเท่าไหร่
วิสัชนา       กินยา 3 ตัว ยาบำรุงตับ ยาบำรุงเลือด แล้วก็ยาแก้อักเสบ จบ
คุณแทนคุณ     และต้องทำตัวอย่างไร
หลวงปู่       หาอาหารที่บำรุงเลือด ตับ นี่มันต้องอาหารเย็น ห้ามกินของที่มันเป็นของร้อน

เผ็ด, กินของเย็น, ถ้าปอด ต้องกินร้อน ตับต้องกินเย็น จบ
ปุจฉา     ญาติอยู่ต่างจังหวัด ป่วย ไม่ค่อยมีแรง ขึ้นบรรได 10 ขั้น ก็เหนื่อยแล้ว

หมอบอกว่า เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง บางครั้งพูดไม่ค่อยมีเสียง จะทานยาชนิดใดของ

หลวงปู่ดี
วิสัชนา      ยาบำรุงเลือด กับ ยาบำรุงหัวใจ ทำให้เลือดมันสูบฉีดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อให้ได้มาก

แล้วทำให้เลือดมันแข็งแรง แล้วก็พยายามออกกำลังกายในน้ำ ต้องทำกายภาพไปควบคู่กัน

จบ
ปุจฉา      อายุ 54 ปี ยังมีรอบเดือนอยู่ ครั้งหลังสุดมาเยอะมาก 1 ครั้ง หมอตัดชิ้นไป

ตรวจ บอกว่า มีโอกาสจะเป็นมะเร็ง 2% หมอให้ฮอร์โมนมาทาน 3 เดือน แต่ไม่อยาก

ทาน ขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยแนะนำด้วย
วิสัชนา      ยาฮอร์โมน บางทีบางครั้ง เรากินส่งเดชไป ก็มีสิทธิ์ทำให้ก่อมะเร็งได้นะ

ฮอร์โมนเนี่ย มันทำให้เกิดกระบวนการก่อมะเร็งได้ คือ คนทุกคน มีเซลล์มะเร็งอยู่ในตัว

ปัญหามันอยู่ที่ว่า มันจะแสดงตนออกมา ร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันไม๊ แล้วภูมิฯ ของเรา

สามารถกดเซลล์มะเร็งเหล่านั้นให้คงอยู่ได้แค่ไหน ถ้าภูมิฯ เราอ่อนแอ แล้วเราไปกินสิ่งที่

เรียกว่า สารกระตุ้น หรือ กระบวนการกระตุ้น มันก็อาจจะทำให้โต และเจริญเติบโตได้เร็ว

ขึ้น
งั้น ทางที่ดีก็ควรจะหาวิธี ไปตรวจเช็คอีกสักโรงพยาบาลหนึ่ง เช็คให้แน่นอนว่า ใช่หรือไม่ใช่

จบ
ปุจฉา     กราบเรียนถาม น้ำนมถั่วเหลือง จัดเป็น น้ำปานะ หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ นำไปถวายพระ

จะบาปหรือไม่
วิสัชนา      น้ำที่พระฉันได้ มันมี 2 น้ำ ลูก น้ำหัตถบาล กับ น้ำปานะ
น้ำหัตถบาล คือ น้ำที่คั้นจากมือสดๆ ซึ่งไม่ผ่านกระบวนการต้ม น้ำที่คั้นด้วยมือ สดๆ ไม่

ใช่น้ำล้างมือนะ เช่น น้ำมะม่วง น้ำมะซาง น้ำมะหวด น้ำพุทรา คั้นสดๆ น้ำส้ม อย่างนี้ เค้า

เรียก น้ำหัตถบาล
ส่วน น้ำปานะ เป็นน้ำที่ต้องผ่านกระบวนการต้ม ปรุงรส ซึ่งมันก็จัดอยู่ในพวกน้ำปานะได้

พวกถั่ว พวกน้ำเปรี้ยว ก็จัดอยู่ในน้ำปานะอย่างหนึ่ง เพราะว่า มันต้องผ่านกระบวนการหมัก

คือ ผ่านกรรมวิธี มันไม่สด งั้นก็ ยังจัดว่า เป็นน้ำปานะ
แต่ไม่ใช่อะไรนะ อ้ายรังนก เออ เห็นเล่นกันเฉยเลย ไอสครีม อย่างนี้
คุณแทนคุณ    มีข้อยกเว้นห้าม อย่างเช่นอะไรที่เป็นเม็ดๆ ผมจำไม่ได้ อย่างเม็ดแมงลักนี่

ฉันได้ไม๊ฮะ
หลวงปู่     เม็ดแมงลักเหรอ เล่นสาคู ซะก็หมดเรื่อง
คุณแทนคุณ    จะได้อยู่ท้อง แต่ธรรมยุต ผมไม่แน่ใจ หลังเพล ก็ยังฉันเม็ด อะไรนะ เห็น

เคี้ยวๆ กัน
หลวงปู่    มะขามป้อม, มะขามป้อม ถือว่า เป็นยา วกาลิก คือ ยาถ่ายไง มะขามป้อม สมอ

นี่ ฉันได้ เออ มะขามป้อมกับสมอ ฉันได้ ไม่จำกัดกาล
ปุจฉา      หนูเกิดวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2526 ปีกุน เวลา 16.44 นาฬิกา หนู

อยากเป็นนักกอล์ฟระดับโลกเพื่อนำเงินรางวัลไปบริจาค จะต้องทำอย่างไร
วิสัชนา     ไป เอาที่สวนทุเรียนน่ะ ลูก ไปดูลูกทุเรียนอ่อนๆ อ้าปาก แล้วก็อมเข้าไป แล้วก็

ชักเข้าชักออก เดี๋ยวก็ได้เป็นระดับโลก เออ กูก็ไม่รู้หรอก เพราะกูก็ไม่ใช่นักร้อง ตอบไม่ได้

หนูอยากจะเป็นนักร้องระดับโลกไหน
(กอล์ฟ)
หลวงปู่     นักกอล์ฟ
คุณแทนคุณ     หลวงปู่ได้ยินเป็นอะไร นักกอล์ฟ
หลวงปู่       ได้ยินว่า นักร้อง
คุณแทนคุณ     นักกอล์ฟ ตีกอล์ฟ ฮะ หลวงปู่
หลวงปู่    ตีกอล์ฟ
คุณแทนคุณ    กอล์ฟ ขออภัยฮะ อ่านผิด อ่านถูกแล้วฮะ กอล์ฟ
หลวงปู่       นี่ไง เริ่มแก่แล้วไง หูเสื่อมล่ะ ไปหา ไปที่
คุณแทนคุณ     Tiger Wood
หลวงปู่    ไม่รู้  หลวงปู่ไม่รู้จะแนะนำยังไง ทำสมาธิ สมาธิ นี่เป็นเรื่องสำคัญ สมาธิจิต นี่

เป็นเรื่องสำคัญมาก กระบวนการที่จะทำภาระกรรม ภาระกิจ เพราะว่า ทุกอย่างมันต้องใช้

อาศัยสมาธิ จบ
ปุจฉา     ตั้งแต่จำความได้จนถึงปัจจุบัน อายุ 29 ปีเวลาหลับตาและลืมตา จะเห็นจุดเล็กๆ

สีแดง เคลื่อนที่ ไร้ทิศทาง เต็มไปหมด มันคืออะไร อันตรายหรือไม่
วิสัชนา      บางทีมันมาจากลูกตาตัวเอง บางทีจอประสาท มันอาจจะเป็นรูก็ได้ หรือมีรอย

ด่าง มีจุด อะไรอย่างนี้ บางทีไม่ใช่เห็นเป็นจุด บางคนเห็นเป็นเส้น วิ่งไปวิ่งมา ก็มี
แต่ในมุมกลับกัน คนที่จะฝึกนิมิต เค้าใช้จุดนี้ เป็นตัวสร้างนิมิตนะ เอาจิตผูกไว้ เวลาหลับตา

มองเห็นจุด ก็เอาจิตจับไว้ที่จุดจนกระทั่งแนบแน่นเป็น อุปจารสมาธิ ได้ ถ้าใช้ความ

บกพร่องของตัวเองเป็นเครื่องมือ จบ
ปุจฉา      คำว่า เป็นคำบทสวด สัมมาสัมพุทธัสสะ สหัสเนโต โสทายะ บทนี้ แปลว่า อะไร

สหัสสเนตโต แปลว่า อะไร
วิสัชนา    คำบูชาพระสหัสสนัย พระสหัสสเนตร สหัสสนัย
คุณแทนคุณ    เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เป็นปัจเจกใช่ไม๊ฮะ
หลวงปู่     ไม่ใช่ พระสหัสสนัยไม่รู้จัก พระอินทร์ไง
คุณแทนคุณ     อ๋อ ไม่รู้จัก
หลวงปู่     เออ คำบูชา พระสหัสสเนตร หรือ พระสหัสสนัย หรือ บางที เค้าก็ใช้บูชาพระ

โพธิสัตว์พระองค์หนึ่งซึ่งอยู่ในมหายาน มีนามว่า คือ พระอวโลกิเตศวรนี่แหละ แต่ท่านอยู่

ในฐานะของผู้มีฤทธิ์ แสดงฤทธิ์ และมีอำนาจ มีพันมือ พันตา ก็ได้
มันแปลได้ 2 อย่าง ขึ้นอยู่กับผู้จะใช้ บูชาพระสหัสสนัย คือ พระอินทร์ ก็ได้
บูชาพระอวโลกิเตศวร หรือ ที่เรียกว่า พระแม่กวนอิม พันมือ พันตา จบ
ปุจฉา     เพื่อนอยู่ที่อังกฤษ ซื้อยากิน และสมุนไพรยี่ห้อที่ดังมากที่สุด คือ หอมจัง โฆษณา

ด้วย
หลวงปู่    ขอบใจที่ช่วยทำมาหากิน
คุณแทนคุณ    ยี่ห้อดังมากนะฮะ หอมจัง ดังมาก ดังถึงอังกฤษนะฮะ แต่นำเข้าอังกฤษไม่ได้

คือ กินแล้วชอบมาก แต่นำเข้าอังกฤษไม่ได้ จะต้องทำอย่างไร จะให้เพื่อนที่อังกฤษนำเข้า

เค้าก็ไม่กล้าเหมือนกัน
หลวงปู่    ใส่กระเป๋า
คุณแทนคุณ    โดนตรวจฮะ
หลวงปู่    ใส่กระเป๋า load ใต้เครื่องบินไม่ได้เหรอ
คุณแทนคุณ    ไม่ได้ฮะ เพราะไปถึง ต้องไปสำแดงให้เค้าที่ศุลกากร แล้วค่าปรับแพง
หลวงปู่    ชั้นเอาไปจีน ไปแจกจีน ไม่เห็นเค้าว่า
คุณแทนคุณ    จีนเค้าไม่ค่อย serious ครับหลวงปู่  อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

เข้มงวดครับ
หลวงปู่    เหรอ
คุณแทนคุณ    นอกจากไปแจกศุลกากรให้เค้าลองใช้ดู แล้วจะเปลี่ยนใจ
หลวงปู่      อ้าว แล้วมันยึด ทิ้งเหรอ มันยึดเลยเหรอ
คุณแทนคุณ    ยึด แล้วเค้าปรับด้วยครับ เสียค่าปรับ
หลวงปู่    อ้าว แล้วคนจะใช้ยา ใช้อะไร ทำไง
คุณแทนคุณ   ถ้าเฉพาะ ต้องให้แพทย์รับรอง แต่ยุ่งยากมาก
หลวงปู่    อ้าว แล้วเค้าเปิดประเทศเสรี แล้วเค้าทำไง พวกนี้ ผ่านได้ไม๊
คุณแทนคุณ     ถ้าเป็นยา เป็นสมุนไพร ก็ต้องดูเป็นเรื่องๆ เป็นกรณีๆ อย่างของหลวงปู่

อาจเข้าข่ายเป็นยา หรือเป็น เวชสำอางค์ เข้าข่าย เหมือน อ.ย เค้าก็จะเข้มวงด
หลวงปู่     เอ๊ เห็นคนที่สหรัฐเค้าเอาไปใช้ได้นะ คนสหรัฐมา นิวซีแลนด์มา เค้าซื้อไปได้

ทำไมเข้าไปได้
คุณแทนคุณ    ปริมาณน้อยมั๊งฮะ....
หลวงปู่      ส่งไปทางไปรษณีย์ได้ไม๊
คุณแทนคุณ     ก็ไม่ได้ฮะ ไม่ได้ ตรวจเหมือนกัน หรือใครมีประสบการณ์อย่างอื่น ผมไม่

ทราบเหมือนกัน
หลวงปู่       มี๊ เค้าส่งได้ เค้าส่งกัน
คุณแทนคุณ    คือ เค้าตรวจหมดน่ะครับ คือ การส่งยา เค้ามีขั้นตอนเข้มงวด
หลวงปู่    เหรอ หลวงปู่ไม่รู้ ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์ แต่มีประสบการณ์หิ้วเข้า

จีนน่ะ ได้ เอาไปแจกพวกคนจีน
คุณแทนคุณ     จีนเค้าน่าจะชอบ เพราะจีนเค้าไม่ชอบอะไรที่เป็นตะวันตกอยู่แล้ว จีนเค้า

จะมีพวกฝังเข็ม พวกสมุนไพร
หลวงปู่    ใช่ เค้าจะแอนตี้
คุณแทนคุณ     ถ้าหลวงปู่ไปเมืองจีนนะ เป็นปรมาจารย์เลย ไปอยู่ ดังเลยฮะ
หลวงปู่    ไม่ไหวๆ
คุณแทนคุณ     แต่จีนมีกฏหมายหนึ่ง ที่น่าห่วงมาก คือ รถชนคน เค้าจะไม่ช่วย เพราะ ศาล

เคยตัดสินว่า คนที่เข้าไปช่วยผืด เพราะถ้าไม่ผิด คงไม่ช่วย ถ้าไม่ผิด ก็ไม่จำเป็นต้องช่วย

มันถึงได้มีภาพในสื่อ เด็กโดนรถชนแล้วก็ คนผ่านไปผ่านมา ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ อันนี้

เป็นข้อเสีย เพราะถ้าช่วยแล้ว จะถูกตีตราว่า เป็นคนผิด
หลวงปู่       อ้ายนั่น ชั้นไม่ห่วงหรอก ที่ชั้นห่วงก็คือว่า เวลานี้ เราเอาของเข้าจีน เราต้องเสีย

ภาษี 15% หรือว่า ประมาณ 25% ของทุกชนิดที่เป็นสินค้าเกษตร แต่ถ้าจีนเอาของเข้า

ไทย เป็น 0%
คุณแทนคุณ    FTA
หลวงปู่    นี่นแหละ ชั้นล่ะห่วงตรงนี้แหละ
คุณแทนคุณ     แล้วของมาเยอะมากเลย
หลวงปู่       เออ นี่แหละ ผักพืชกระเทียมทั้งหลาย
คุณแทนคุณ    แครอท นี่เยอะมาก
หลวงปู่      เออ อีกหน่อยไทยนี่ไม่ต้องปลูกเลย รอกินจีนอย่างเดียวเลย แล้วก็ คนก็จน ตาย

เลย
คุณแทนคุณ    แล้วก็ถูกกว่าบ้านเรา เยอะมาก
หลวงปู่       ถูกกว่าไทยปลูกอีก แต่คุณภาพไม่ดีเท่า อย่างกระเทียมจีน หัวใหญ่แต่ไม่ฉุน

ไม่เผ็ด แต่กระเทียมไทย หัวเล็ก แต่ฉุน เผ็ด
งั้น ก็เลยอยากบอกว่า ไทยเราไปตกลงกับเค้าได้ยังไงไม่รู้ เกษตรกรรมเสียเปรียบอย่างนี้

แล้วบ้านเราจะอยู่รอดไม๊เนี่ย
คุณแทนคุณ    น่าจะชวนคุยเรื่องจำนำข้าวนะฮะ
หลวงปู่        ไปเฮอะไป กลับเฮอะ เลิก
คุณแทนคุณ    เดี๋ยวยาวๆ เอาคำถามอีกสัก 2-3 ข้อครับ
หลวงปู่    ว่า
ปุจฉา       บอกว่า ความตายเป็นสาธารณะ เมื่อเดินไปที่ๆ มีคนตาย มักจะรู้สึกขนลุก

บรรยากาศวังเวง เยือกเย็น อะไรเป็นสาเหตุ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ใช่หรือไม่ แล้ว

ทำอย่างไร จะมีอาการปกติ ไม่มีอาการเช่นนั้นเกิดขึ้น
วิสัชนา      กินยาแก้โรคประสาท จบ
ปุจฉา      ทานยาแก้ข้อกระดูกเสื่อม แล้วตามร่างกายขึ้นตุ่ม คันมาก จะแก้ไขอย่างไร
วิสัชนา    น่าจะแพ้ยานะ เพราะกินนานเกินไปหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ถ้ากินนานเกินไป มัน

อาจจะเป็นผล ควรจะไม่ให้กินนานเกินไป หรือไม่ก็ลองหยุดยาสักสัปดาห์หนึ่ง ดื่มแต่น้ำ

ปรับธาตุ จบ
ปุจฉา     ระหว่าง บุญ กับ ความเก่ง สิ่งไหนทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่ากัน
วิสัชนา      บุญ กับ ความเก่ง ที่จริง มันต้อง บุญ กับ ปัญญา นะ ลูก
อ้าย คนมีปัญญา แต่ขาดบุญ บางครั้งก็ลำบากเหมือนกันนะ เพราะว่า มันทำอะไร มันจะยุ่ง

ยาก มันจะทุกข์ยาก มันจะไม่สะดวก มันจะไม่มีใครสนับสนุน มันจะมีอุปสรรคขวากหนาม

มันจะมีปัญหา มันจะมีอะไรเยอะแยะมากมาย
งั้น บุญ นี่มันเหมือนกับใบเบิกทางได้เหมือนกันนะ เหมือนกับคนเดินทาง แล้วมีสตางค์

พอตำรวจยกมือเรียก เราก็ยกมือจ่าย อะไรประมาณนี้ เค้าเรียกว่า บุญ คนมีบุญ ประมาณนี้

มันก็ไปได้ง่าย
อ้ายคนที่ไม่มีบุญ ก็นั่งหน้าแห้งอยู่ตรงนั้น ตำรวจก็โบก จอดอยู่ข้างทาง นั่งหน้าแห้งกัน

เป็นแถวๆ ไปไหนก็ไปไม่ได้ ตำรวจเค้าไม่ให้ไป ประมาณนี้ เค้าเรียกว่า คนไม่มีบุญ
งั้น ประมาณว่า คนมีบุญ มันเหมือนกับ ทำอะไรแล้วมีใครคอยช่วย แม้มนุษย์ไม่ช่วย

เทวดาก็ช่วยเหลือ
งั้น คนมีบุญ ถือว่า เป็นผู้ช่วยที่เรามองไม่เห็นตัว
คุณแทนคุณ    มือที่มองไม่เห็น
หลวงปู่    คุณ อย่าพาชั้นเข้าสิ, เดี๋ยวชั้นเข้า แล้วมันไปลึกนะ
คุณแทนคุณ     ที่จริง จะชวนคุย เรื่อง มีวันนี้ เพราะพี่ให้ เดี๋ยว ยาวฮะ
หลวงปู่    วันที่ 25 เหรอ
คุณแทนคุณ    อะไรนะฮะ
หลวงปู่      25 หรือ 24
คุณแทนคุณ    24, มีวันนี้ เพราะพี่ให้
หลวงปู่     อ๋อ ไม่ เค้านัดกันเมื่อไหร่ล่ะ
คุณแทนคุณ     24 ฮะ
หลวงปู่    นัดวันที่ 24 เหรอ อ๊อ ก็ไปบ้าง ก็ดี, ไม่ ไม่ได้ไปเพราะไปขับไล่ แต่ไป ให้

พวกเค้าได้เห็นว่า เรายังมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้ เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ประเทศนี้ไม่ใช่

ของเค้าพวกเดียว เท่านั้นแหละ คือ ไป ให้เค้าเห็นว่า เออ กูยังมีอยู่นะ กูยังอยู่นะ กูยังไม่

ตายนะ ไปแสดงพลังให้เค้ารู้เฉยๆ  ไม่ได้ไปขับไล่อะไรเค้าหรอก
เพราะบ้านเมืองมันก็กำลังไปได้ดี กำลังจะมีการพัฒนา มีกระบวนการกินเล็กกินน้อย กิน

มากกินใหญ่ อะไรก็ว่าไป คือ กำลังกินได้ดี กำลังกินกันได้ดี แล้วก็แข็งแรงในการกินอย่าง

ยั่งยืน ก็ไปแสดงตนให้เค้ารู้ว่า เออ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า มันก็มาอีกแหละ ว่า กูยังมีชีวิตอยู่ใน

แผ่นดินนี้ ไม่ใช่พวกมึงพวกคนเดียวที่มันอยู่ได้ งั้น กูก็ควรจะอยู่ได้ด้วย อะไรประมาณนี้
แต่ว่า อย่าไปทำอะไรให้เสียหาย ไม่งั้น จะไปขายขี้หน้าบ้านเมือง
อ้ายประมาณคิดแบบ หักด้ามพร้าด้วยเข่า ว่า แช่แข็งประเทศไทย มันไม่ใช่วิธีของอริยชน

ไม่ใช่วิธีคิดของอริยชน เป็นวิธีคิดของคนที่ เค้าเรียกว่า อะไร วิธีคิดของคนที่หาทางออกไม่

ได้ หาทางออกในโลกใบนี้ไม่ได้ มันมากเกินไป
ถามว่า ดีไม๊
ใครจะรับประกันว่า มันแก้ปัญหาได้ จะไปแช่แข็งบ้านเมือง
แล้วถ้ามันแก้ไม่ได้ อะไรมันจะเกิดขึ้น
บ้านเมืองเรา มันอยู่ใน คือ เวลาเค้าวางเสาหลักบ้านเมือง มันไม่มีเลขที่ดีเลย คือ มันไม่มี

เลขเอกเลย มันมีแต่เลขโท แล้วเมื่อมันมีเลขโท มันก็ต้องอยู่กลางระหว่าง ความสะดวก กับ

ความไม่สะดวก ความโชคดี กับ ความโชคร้าย
งั้น คนไทย ต้องทำตัวให้ได้ว่า จะอยู่ระหว่างกลาง ระหว่างโชคร้าย กับโชคดี อย่างไร
บ้านเมืองเรา ถูกผูกดวงมาแบบนี้ เพราะว่า มันไม่มีเลขให้ผูกมากกว่านี้ เพราะว่า

สถานการณ์ในช่วงที่ผูกดวงเมือง มันเป็นสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมือง เพราะมีสงคราม

รบพุ่งกันไปทั่ว
คุณแทนคุณ    แล้วผูกใหม่ไม่ได้เหรอครับ คือ ผูกใหม่ให้มันดีขึ้น ได้ไม๊ หรือว่า เราไม่เชื่อ

เรื่องนี้เลยแล้วทำอย่างอื่น เช่น ทำบุญ
หลวงปู่      ก็สังเกตดู ประเทศไทยมัน เคยมีอะไรที่มันโรจน์ที่สุด รุ่งที่สุด
คุณแทนคุณ     รุ่งนี่ ไม่มีเลย
หลวงปู่     ไม่มีเลย
คุณแทนคุณ    จริงๆ เราพัฒนามาก่อนด้วยซ้ำ ก่อนเกาหลี ก่อนญี่ปุ่น ด้วยซ้ำ 150 ปี

ก่อน ในสมัย รัชกาลที่ 5
หลวงปู่     ใช่ เราจะล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเวลา ก็เพราะว่า เราไม่มีสงครามข้างนอก เรา

ก็มีภัยภายใน ก่อกันเอง
คุณแทนคุณ     เรารบกันเอง
หลวงปู่    ใช่ คือ บ้านเมืองเรา ถ้าเมื่อใดที่คนไทยยังไม่สำนึก และไม่คิด และ คิดไม่เป็น

แล้วไม่รู้จักวิธีคิดที่ซื่อตรง ถูกต้อง แล้วไม่รักษาความเที่ยงธรรม ถูกต้อง ชอบธรรมเอาไว้

เราก็จะเอนไปข้างใดข้างหนึ่งระหว่างโชคดี กับ โชคร้าย
ส่วนโชคดี ไม่ค่อย..หรอก เพราะเมื่อใดที่เราทำดี พูดดี คิดดี ถ้าคนไทยสำนึกรับผิดชอบ

แล้วก็มีความซื่อตรง แสดงว่า เราอยู่ในขั้นของคำว่า  เอนเอียงไปทางความโชคดี
แต่เมื่อใดที่บ้านเมืองเรา เอาเปรียบ คับแคบ เห็นแก่ตัว ละโมภ โลภมาก จิตใจคด มันก็จะ

กลายเป็นพวกโชคร้ายไป ทีนี้ มันก็จะมีแต่เรื่องบาดหมางกันไม่จบไม่สิ้น
งั้นก็ ถ้าเราจะอยู่ได้ ถามว่า จะไปตั้งบ้านตั้งเมืองใหม่ หรือว่า จะไปวางหลักเมืองใหม่ มัน

หมายถึงราชวงศ์ เพราะบ้านเมืองนี่ ท่านวางไว้โดยราชวงศ์ ต้นราชวงศ์ท่านเป็นผู้วางเอาไว้

ในยุคนั้น วันที่ดีที่สุด ก็คือ เป็นวันที่มันไม่ได้สะดวกปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
คุณแทนคุณ    แต่มันก็ไม่เลวร้ายแบบสุดโต่ง
หลวงปู่     อ้าว ก็มันเป็นช่วงสร้างบ้านแปลงเมือง ก็รบพุ่งพม่า ขับไล่พม่าออกไป แล้วก็แต่

ละก๊ก แต่ละเหล่า หัวเมืองทั้งหลายยังแตกแยก ฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้ ยังเป็นเมืองเอกเทศ ยัง

เป็นประเทศราช อ้ายกรุงไทย ยังมีอยู่แค่ราชบุรี ลพบุรี อยุธยา เท่านี้ มันไม่ใช่ง่าย แล้วไม่รู้

พวกเจ้าเมือง เจ้าประเทศราชเหล่านั้น จะแข็งข้อ ไม่ยอมขึ้น
เลยต้องรีบลงหลักปักเมือง แล้วประกาศ เป็นประเทศสยาม
งั้น มันก็เลยใช้ช่วงดวงเมืองที่ไม่ค่อยสะดวกนัก
จำได้ว่า โหรท่านก็เคยทำนาย เถระในยุคสมัยนั้น ท่านก็เคยทำนายว่า ถ้ามีโอกาส ก็ให้ได้

สร้าง เค้าเรียกสร้างอะไร สร้างหลักเมืองเสียใหม่ เพื่อให้มันสะดวกสบาย เพราะนี่คือ หลัก

เมืองเฉพาะหน้า เรียกว่า หลักเมืองให้มันเฉพาะเรื่อง เฉพาะให้มันจบๆ ไป จะได้ประกาศ

เป็นประเทศ เป็นกรุงสยาม
แต่สุดท้าย ก็ไม่มีใครกล้า เพราะว่า ไม่มีใครจะมีบุญญาบารมีที่จะตั้งราชวงศ์ เพราะว่านั่น

เป็นเรื่องการก่อตั้งราชวงศ์ เป็นผู้กระทำขึ้น
คุณแทนคุณ      ซึ่งตรงนี้ ผมอยากให้หลวงปู่แสดงธรรมหน่อย เพราะบางครั้ง คนเรามอง

เฉพาะว่า ทุกคนต้องเท่ากัน แต่ในความเป็นจริง อย่างน้อยในหลักพุทธว่า คนเราแตกต่าง

กันเพราะกรรม ด้วยบุพกรรม ด้วยชนกกรรม ด้วยบารมี อย่างการจะเป็นพระราชาได้ ต้อง

ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบารมีในอดีตมามาก สั่งสม ทานบารมี ศีลบารมี
หลวงปู่     คือ เป็นในหลวง เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่ละยุค ต้องบำเพ็ญมาคนละ

เรื่องนะ ช่วงรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 ก็ว่าไปเรื่องหนึ่ง ต้องรบพุ่ง ต้องเอาการทหารนำ

หน้าการเมือง เอาการทหาร การเศรษฐกิจนำหน้าการเมือง เพราะว่า ช่วงนั้น การติดต่อ

สัมพันธ์กับรอบๆ ประเทศ มันไม่ได้มีมาก เพียงแต่บริหารจัดการคนของตัวเอง และทำให้

ตัวเองมั่งคั่ง มีการค้า การขายได้สะดวกสบาย ก็ว่ากันไป ใช้การการค้านำหน้าการเมืองใน

ยุคนั้น
หลังจากนั้นรัชกาลที่ 5 มา เอาการเมืองนำหน้าการทหาร อ้ายสงครามโลกมันเกิดขึ้น ก็

เพราะการเมือง มันเคลียร์กันไม่ได้ มันก็เลยเอาการทหารเข้ามาใส่
แล้วหลังจากรัชกาลที่ 5 มาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ยาก เพราะคนทุกคน เริ่มมีความคิด เริ่ม

มีสติปัญญา เริ่มติดต่อค้าขาย มันไม่มีพรมแดนแล้วไง มันไม่มีโลก เค้าเรียกว่า โลกเสรี มัน

เกิดขึ้นนี่ มันพูดยาก คนที่คิดว่า โลกเสรีมันยังต้องมี แล้วต้องเจริญ แล้วต้องทำให้พัฒนา

แล้วต้องยอมรับโลกเสรีมากกว่าโลกอนุรักษ์
ก็จะมองว่า โลกอนุรักษ์ เป็นพวกที่ใช้ไม่ได้ ต้องหาวิธีกำจัด หรือ จัดการ
งั้น อ้ายพวกที่คิดโลกเสรี ก็ต้องจะไม่มีขอบเขต แม้กระทั่ง ประเทศก็ไม่มี เค้าเรียกว่า ไม่มี

หลักเขต เงินก็ใช้สกุลเดียวแบบยูโร อะไรประมาณนี้ แล้วก็เจ๊งไปแล้ว นั่น โลกเสรี

ตัวอย่างนะ
คุณแทนคุณ     ยูโรเจ๊งไปแล้วนะฮะ
หลวงปู่     นั่น ยูโรเจ๊งแล้ว ก็โลกเสรีไง คือ อัตลักษณ์ของแต่ละคน แต่ละประเทศ  มันมีอัต

ลักษณ์แต่ละตำบล แต่ละบ้าน แต่ละเมือง แต่ละจังหวัด นี่มันมี แล้วจะทำให้ทุกคนรับอัต

ลักษณ์ ในที่สุด มันก็รับไม่ได้ มันเหมือนจะให้คนกรุงเทพฯไปกินข้าวเหนียว กินทุกมื้อๆ

นี่กินได้ไม๊ ไม่ได๊
คุณแทนคุณ    บางมื้อ ยังพอไหว
หลวงปู่       เออ เหมือนกับให้คนอีสานไปกินข้าวต้ม ให้กินทุกมื้อๆ นี่กินได้ไม๊  อ้าว ก็คน

จีนชอบกินข้าวต้ม ถูกไม๊ เออ ก็กินทุกมื้อ ก็ไม่ได้
สุดท้าย อัตลักษณ์ตัวเอง ก็ต้องแสดงออกมา แสดงออกมา อ้าว ก็เริ่มมามอง จับผิดกันล่ะ

เริ่มขัดแย้งกัน เออ ตัวกูไม่เหมือนกับฝ่ายนู้น  ฝ่ายนู้นไม่เหมือนกับกู
ทุกวันนี้ มันก็กลายเป็นเหมือนกับว่า เรามีโลกไร้พรมแดนที่มองข้ามอัตลักษณ์ของตน จน

ทำลายเอกลักษณ์ของตนเอง แล้วเราก็มาทำร้ายตัวเองในที่สุด
แล้วถ้าเมื่อใด ที่เรายังไม่รู้จักคิดอย่างนี้นะ วิธีบริหารจัดการโลกนี่ ยากมาก
คือ ไม่คิดระวังเนี่ยนะ มันจะยากมาก เราจะมีโลกไร้พรมแดนไปเรื่อยๆ เหมือนกับ อ้าว

ลูกบ้านนี้ กับลูกบ้านนู้น ก็ลูกเดียวกัน ก็มันเด็กเหมือนกัน เอ้า ช่างมัน มันจะทำอะไร ก็

เรื่องของมัน คือ โลกไร้พรมแดนไง เออ มันเป็นสิทธิ์ของมัน มันมีสิทธิ์เท่ากับเรา เออ มัน

จะไปมั่วกันยังไง มันจะไปเสพกันยังไง ก็เรื่องของมัน เออ แล้วสุดท้าย มันเป็นอะไร
สภาพสังคม มันจะเป็นยังไง มันก็เสื่อมโทรม มันก็ล่มสลาย แล้วเค้าก็เสื่อมให้เราดูนะ
คุณแทนคุณ    ที่หลวงปู่พูดมานี่ ผมว่า มันเห็นได้ชัดมากในทุกวันนี้
หลวงปู่     นี่ไง ชั้นกำลังจะบอกว่า ยุคนี้ มันเข้ายุคนี้แล้ว
คุณแทนคุณ    ต่างคนก็ต่างอ้างเสรี ไม่สนใจ
หลวงปู่     เออ ใช่ ไม่สนใจว่า ลูกใคร ผัวใคร เมียใคร สมบัติใคร ญาติใคร แผ่นดินใคร ไม่

สนใจ มันเป็นโลกไร้พรมแดน จนกระทั่งทำลายอัตลักษณ์
แล้วอ้ายความเป็นอัตลักษณ์ ที่มันสั่งสมมาเป็นพันๆ ปีเนี่ย พอมันโดนทำลายเนี่ย มันจะมี

ช่วงหนึ่ง ที่มันยอมรับไม่ได้ แล้วก็แสดงปฏิกิริยาต่อต้าน
พอมันแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน อ้ายคนที่คิดว่า จะให้โลกเสรีและโลกไร้พรมแดนมาอยู่รวมกัน

มันก็รวมกันไม่ได้เสียแล้ว เพราะมันต่อต้าน มันก็รวมกันไม่ได้ มึงก็คิดไปคนเดียวสิ มึง

อยาดคิด คิดไป แล้วก็แตก แล้วทีนี้ก็ อ้ายที่แตก ก็อาจจะมาจากว่า มึงเอาเปรียบกู ประเทศ

กูแข็งแรงทางเศรษฐกิจประเทศมึงอ่อนแอ อย่างอ้ายเยอรมันตะวันออก กับเยอรมันตะวัน

ตก พอเปิดเสรีใหม่ๆ เยอรมันตะวันออก นี่มันคอมมิวนิสต์ มันยากจน มันไม่มีอะไรจะกิน
แต่อ้ายเยอรมันตะวันตก มันประเทศอุตสาหกรรม มันเป็นนิกส์ทางอุตสาหกรรม มันเป็น

ประเทศอุตสาหกรรมชั้นหนึ่งของโลก สุดท้าย ต้องมารับเลี้ยงอ้ายเยอรมันคอมมิวนิสต์ สุด

ท้าย มันอยู่ไม่ได้ มันก็ เออ เจ๊ง
คุณแทนคุณ     ตอนนี้ที่เป็นปัญหา คือ กรีซ กับ เยอรมัน ว่า คนกรีซทำงานน้อยกว่าคน

เยอรมันเยอะ คือ เห็นคนเยอรมันทำงานน้อย ก็อยากทำงานน้อยด้วย แต่คนเยอรมันเค้ามี

ศักยภาพสูงกว่า เค้าทำงานน้อย แต่เค้าได้ผล
หลวงปู่     นี่ วันนี้ คุณแทนคุณ มาเนี่ย ทำให้คนแก่วัดนี้ สมองเบลอ ฝ่อเป็นเยอรมัน ไป

อังกฤษ ไปกรีซ ไปอะไร ดูสิ มันไป มันนั่งอ้างปากหวอแล้ว ไปอะไรกันวะเนี่ย
คุณแทนคุณ   ธรรมะไร้พรมแดน ผมยังมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งว่า
หลวงปู่     อ้าว ยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย
คุณแทนคุณ    แล้วแต่หลวงปู่ฮะ
หลวงปู่    จะ 3 โมงแล้ว
คุณแทนคุณ    จบ 3 โมง ไหวไม๊ฮะ
หลวงปู่     เดี๋ยว อีกตั้ง 10 นาทีเนี่ยนะ
คุณแทนคุณ    เรื่องสุดท้าย ผมกำลังมองว่า คนจะมองการพัฒนาที่เรื่องผลประโยชน์ ถ้า

ไม่มีผลประโยชน์ ถ้าเป็นอนุรักษ์ เรื่องศาสนา เรื่องสถาบัน อาจจะมองว่า เป็นประเพณีจารีต
หลวงปู่     ไม่ คุณ มันขึ้นอยู่กับว่า คนยุคปัจจุบัน เวลาพัฒนา เราเอาอะไรมาเป็นทุน เรา

เอาอะไรมาเป็นทุนในการพัฒนา
คุณแทนคุณ     ก็ทรัพยากร วัตถุดิบ หรือเปล่าฮะ
หลวงปู่        เอาเงินเป็นตัวตั้ง เออ เค้าเอาเงินเป็นตัวตั้ง เรื่องทรัพยากร กับเรื่อง วัตถุดิบน่ะ

มาเป็นรอง แต่คนโบราณ เค้าไม่เอาเงินเป็นตัวตั้งในการพัฒนา เค้าเอาทรัพยากรเป็นตัวตั้ง

เอาทรัพยากรเป็นทุน งั้น เมื่อมีทรัพยากรเป็นทุน เค้าก็จะมองว่า ความยั่งยืนของมันมีแค่

ไหน
แต่คนสมัยนี้ มันเอาเงินเป็นตัวตั้ง แล้วมันก็ไม่ได้เก็บเงินเอง มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เงินใน

ธนาคารมันเหลือเท่าไหร่ แต่มันก็อยากจะพัฒนา จนสุดท้าย ต้องไปกู้เงินเค้ามาพัฒนา
เพราะงั้น มันก็คิดว่า เงินเมื่อมันได้มาง่าย ไม่ต้องลงมือปลูก คนสมัยโบราณนี่ ถ้าจะพัฒนา

ต้องปลูกนะ เช่น อยากกินน้ำ ก็ต้องขุดบ่อ, อยากกินข้าว ก็ต้องปลูกข้าว, อยากกินปลา

ก็ต้องเลี้ยงปลา หรือ ต้องออกไปหา แต่คนสมัยนี้ จะเอาเงินเป็นตัวตั้ง แม้ที่สุด เวลาใช้เงิน

ก็ยังไม่รู้ว่า เงินจริงๆ ของตัวเองน่ะ มีหรือไม่ แม้ไม่มี ก็ยังใช้ได้ เพราะรูดปื๊ดๆ
มันก็เลยกลายเป็น กระบวนการพัฒนาที่ยืนอยู่บนปุยเมฆไง เอ้า เมื่อพัฒนาไม่ยืนอยู่บน

พื้นฐานของความเป็นจริง มันยืนอยู่บนปุยเมฆ สุดท้าย มันก็ต้องมาเบียดเบียนเอาอ้ายต้น

ทุนเดิมทางสังคม ต้นทุนเดิมทางทรัพยากร ต้นทุนเดิมทางเศรษฐกิจของครอบครัว แม่ขาย

นา พ่อขายควาย เออ ลูกขายตัว อะไรก็ว่าไป เพื่อให้เกิดกระบวนการพัฒนา
นี่คือ สังคม สังคมที่มันเป็นอยู่อย่างนี้ เลยคิดว่า การพัฒนา แทนที่มันจะทำให้เจริญ กลาย

เป็นมันเสื่อมลง ยิ่งพัฒนา มันยิ่งเสื่อมลง คือ พัฒนาไปข้างหน้า แต่ข้างหลังมันเน่า, ไป

ข้างหน้า แล้วข้างหลังมันเน่า
คนโบราณเค้าไปข้างหน้า แล้วข้างหลังงาม ข้างหลังเจริญ
วิธีคิด มันคนละอย่าง ชั้นอยู่เบอร์ 500 นะ สมัยหน้าถ้าจะเลือกล่ะ เรียก อ้าย 500
วิธีคิดเหล่านี้ มันมาจาก 2 พวกใหญ่ คือ
1. พวกเสรีนิยม ก็ได้มาจากพวก นักวิชาการ นักศึกษา นักเรียนนอก
2. ก็คือ พวก นักการเมือง เพราะ นักการเมืองคิดว่า อ้ายที่กูมีอยู่นี่ มันไม่มี

จะกินแล้ว ถ้ามันเปิดเสรีออกไปมากๆ กูจะได้ไปกินฝั่งนู้นฝั่งนี้ได้เยอะขึ้นไง เพราะวิธีคิด

ของนักการเมืองก็จะคิดว่า ยิ่งกูใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ กระบวนการจะทำให้กูใหญ่มากเท่ไหร่

กูจะต้องเปิดพื้นที่ตัวเองให้มากขึ้นเท่านั้น แสดงอัตลักษณ์ แสดงทัศนวิสัย แสดงอะไรก็

แล้วแต่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในวงกว้างมากขึ้น นั่น วิธีคิดของนักการเมือง แล้วก็มา

อ้างว่า กระบวนการพัฒนา การศึกษาไร้พรมแดน เศรษฐกิจไร้พรมแดน การเมืองไร้

พรมแดน แล้วผลประโยชน์ มันตกอยู่กับใคร
คุณแทนคุณ    เฉพาะกลุ่ม
หลวงปู่       เออ นั่นแหละ สำคัญที่สุด ผลประโยชน์มันตกอยู่แบบไร้พรมแดน คือ มัน

กระจายไปทั่ว ไม่กระจุกอยู่เฉพาะบุคคล
คุณแทนคุณ    ก็ดี
หลวงปู่    มันก็จะต้องมีวิธีคิดใหม่ว่า เราจะหาการศึกษาไร้พรมแดน จะสร้างเศรษฐกิจไร้

พรมแดนได้ ก็ต่อเมื่อ อ้ายกระบวนการเศรษฐกิจในรากหญ้าของเรา มันต้องแข็งแรง ต้อง

พร้อมที่จะเปิดรับทุนนิยม หรือว่า อ้ายทุนไร้พรมแดนที่จะเข้ามาลงทุน และต่อสู้กับเรา
แต่ทุกวันนี้ เราไม่แข็งแรงจริงๆ ไง ชาวนาทำอะไรได้เวลานี้ ไปถามว่า อ้ายหมื่นห้า คุณไม่

ชวนคุย ชั้นชวนคุณคุย, อ้ายหมื่นห้าที่จำนำ อ้ายชาวนาคนไหนที่ได้บ้าง
คุณแทนคุณ    มีไม่ถึง 30% ที่ได้เต็มหมื่นห้า
หลวงปู๋       ไม่มี๊ ใครบ้างที่ได้ครบหมื่นห้า ลองยกมาให้ดูหน่อย ความชื้น ค่าขนส่ง หัก

อะไรต่ออะไรสารพัดหัก แค่ไปลงทะเบียน มันก็เก็บตังค์แล้ว เอาที่ไหนมา หมื่นห้า
ดีไม่ดี ก็ไปถึงโรงสี โรงสี บอกว่า ไม่มีโกดังเก็บ, อ้าว แล้วทำไง ข้าวมาแล้ว, อ้าว ไม่

เป็นไร ผมพอจะหาโกดังให้ แต่ว่าต้องเสียค่าเช่า เออ ต้องจ่าย
คุณแทนคุณ    สุดท้ายนะฮะ ผมอ่านหนังสือเต๋าว่า สรรพสิ่งจะรวมตัว แล้วแตกออก..

ขึ้นไปสู่สูงสุด แล้วก็จะกลับสู่สามัญ ถ้ามองใน 30-50 ปีข้างหน้า หลวงปู่คิดว่า ตอนนี้

เราอยู่ในจุดที่ขึ้นแล้วกำลังจะลง หรือว่า ลงแล้วกำลังจะขึ้น
หลวงปู่    ชั้นได้มีโอกาสได้คุยกับกงสุลของลาวนะ ลาวเค้าเปิดเสรี แต่เค้าบอกไว้ชัดเลย

อะไรที่เสรี กับอะไรที่ไม่เสรี, ทรัพยากรของเค้า ไม่เสรี, ไม่เสรี คุณอย่ามายุ่งกับ

ทรัพยากรของชั้น ห้ามมาแตะ การค้าคุณจะเสรี คุณทำไป, ทรัพยากรอะไรบ้าง มี

เหมืองแร่ มีป่าไม้ มีต้นน้ำลำธาร ไม่เสรี
ถามว่า ต้นน้ำลำธารไม่เสรี เค้าเฉพาะรัฐบาลกลางที่จะอนุมัติ, แล้วอนุมัติ ก็ต้องเป็นรายๆ

และต้องระหว่างประเทศ ถ้าจะติดต่อระหว่างบริษัท เค้าไม่อนุมัติ ต้องให้ประเทศกับประเทศ

มาติดต่อโดยมีร่างทรง คือ บริษัทอะไรก็ว่าไป อันนั้นน่ะ เค้ายอม
แต่ไทยเรา มีอะไรเหลือ
คุณแทนคุณ     ที่นายังเช่า
หลวงปู่      เออ แถวสุพรรณฯ มีซักกี่แปลงที่เหลือเป็นของชาวนา
คุณแทนคุณ     ภูเก็ตแทบจะไม่มีกี่ % ที่เป็นของคนไทยจริงๆ นะฮะ
หลวงปู่    อย่าว่าแต่ภูเก็ตเลย อ้ายชลบุรี พัทยา บางแสน ฝรั่งหัวแดง นั่งขายกาแฟเฉยเลย

เออ ขายชาเย็น นมเย็น โอวัลตีน อะไรของมัน ฝรั่งบ้าง เขมรบ้าง อะไรไม่รู้
คือ บ้านเรา ไม่มีใครรักประเทศ รัก แบบน้ำลายหยด 3 ติ๋ง
พอแล้วๆ เค้าจะปฏิบัติธรรมแล้ว
คุณแทนคุณ    ครับๆ ขอประชาสัมพันธ์ในช่วงท้าย กำหนดการงานบวช.......
หลวงปู่    เค้าบวชฟรีนะ ไม่เสียตังค์ บวชถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อย่างน้อย ก็ให้ขวัญกำลังใจทั้งสองพระองค์ ให้มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน พระพลานามัย

แข็งแรง แล้วก็แสดงความกตัญญู กตเวทิตา เป็นประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน เพราะการ

บวช เรามีวิธีคิด มีหลักการ มีกระบวนการคิดว่า เรามีองค์พระประมุขของชาติเป็นที่ตั้ง

แล้วก็จะทำเพื่ออุทิศถวายพระราชกุศล ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ท่าน ส่วนประโยชน์ตน ก็คือ

เราได้สั่งสมบารมีธรรมในการบวชเนกขัมมะ แล้วก็เป็นปัญญาบารมี เนกขัมมะบารมี

อธิษฐานบารมี สัจจะบารมี อุเบกขา เมตตา ปัญญา ทาน พร้อมเสร็จน่ะทั้ง 10 ประการ

อยู่ในตัวเรา ก็เป็นการสั่งสมบารมีธรรม
คุณแทนคุณ     ..............
หลวงปู่       เค้ามีแจกมหาทาน 3,000 ครอบครัว ช่วงเย็น วันที่ 5, เจริญพระพุทธ

มนต์ตอน 6 โมงเย็น
คุณแทนคุณ        ............
หลวงปู่        ขอให้ทุกท่านที่รับชมรายการอาทิตย์สดใสทุกท่าน จงรุ่งเรืองเจริญด้วยสติ

ปัญญาของพระผู้มีพระภาคเจ้า คิดและหวังสิ่งใด สมความปรารถนา ให้มีสุขภาพแข็งแรง

อายุยืนยาว แล้วก็มีกำลังวังชา จิตใจที่แข็งแรง รุ่งเรืองเจริญ ทำในสิ่งที่งดงาม และเป็น

ประโยชน์ต่อตน และคนรอบข้าง เจริญธรรม
(สาธุ)
คุณแทนคุณ   ขอเชิญทุกท่านน้อมใจกันกราบลาหลวงปู่ ขอกราบอนุโมทนาบุญของหลวง

ปู่นะครับ กรรมใดล่วงเกินไป ขอกราบอโหสิกรรมหลวงปู่ นะครับ
(กราบ)
ไปพัก เข้าห้องน้ำห้องท่า
เอ้า ตีมือให้เกียรติ คุณ
เข้าห้องน้ำห้องท่า แล้วเดี๋ยวมาปฏิบัติธรรม ลูก ซักชั่วโมงหนึ่ง
เจริญธรรม
หัวหน้าพรรค จะรอดไม๊เนี่ย
เออ เมื่อกี้ คุยกับทหารที่มาจากใต้ เค้าก็ว่า ลำบาก มันไม่มีคนรับผิดชอบโดยตรง มีแต่งบ

ประมาณลงไป แต่ไม่ค่อยมีคนทำ อันไหนหน่วยที่ไม่ได้ เดี๋ยวก็ตูม พอตูมแล้ว เดี๋ยวงบ

ประมาณก็ไหลบ่า ผลประโยชน์