ความเดิมตอนที่แล้วจบลงตรงที่ท่านพระควัมปติเถระ ได้ปลีกวิเวกไปพักอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ณ วิมานที่ท่านได้เคยอยู่เคยอาศัย มาแต่อดีตชาติที่ชื่อว่า เสรีสกวิมาน
แล้วก็ได้พบเทพบุตรองค์หนึ่งซึ่งในอดีตได้เกิดเป็นราชาปายาสิ ผู้ต้องการอานิสงส์ของทาน แต่ไม่เคยให้ทานด้วยตนเองเลย เอาแต่สั่งให้บริวารเป็นผู้บริจาคทานแทนตน
ชื่อว่า เป็นผู้ไม่เคารพในทาน
ทั้งที่สิ่งของที่บริวารนามว่า อุตตรมานพนำมาบริจาคนั้น เป็นสิ่งของๆ ราชาปายาสิแท้ๆ แต่อานิสงส์แห่งการให้ทานนั้น อุตตรมานพกลับได้มากกว่า ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงเทวโลก มีวิมานอันงดงามพรั้งพร้อมไปด้วยเทพอัปสร บริวารคอยรับใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีสารพัด สุขสบายกว่าราชาปายาสิ เจ้าของทานนั้นๆ เสียอีก
เทพบุตรราชาปายาสิ จึงได้ฝากสั่งแก่ท่านพระควัมปติเถระมาว่า หากพระคุณท่านกลับไปยังมนุษย์โลกแล้ว ก็ขอให้ช่วยบอกแก่มหาชนทั้งหลายว่า จงให้ทานด้วยความเคารพ จักได้รับผลที่สมควรแก่ทานนั้นๆ
มิใช่ให้มากได้น้อยอย่างข้าพเจ้าที่เป็นอยู่
ขยายความคำว่า ให้ทานด้วยความเคารพ หมายถึง
- เคารพในวัตถุทานที่จะให้ ควรต้องเป็นสิ่งของที่ประณีต เหมาะสมแก่ผู้รับ ใช้ประโยชน์ได้จริง
- เคารพในบุคคลผู้รับ ได้แก่ ให้ทานด้วยกิริยาอ่อนน้อม มีจิตอันประกอบไปด้วยเมตตา กรุณา ที่ต้องการเสียสละบริจาคเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับนั้นอย่างจริงใจ มิได้หวังสิ่งใดตอบแทนจากผู้รับทานนั้น
- เคารพเชื่อมั่นในผลของทานนั้นๆ ว่ามีผลดีจริง และอนาคตส่งผลให้ได้รับแต่ในสิ่งที่ดีๆ แท้จริง ทั้งปัจจุบันและอนาคต
- ก่อนทำตั้งใจ ขณะทำเต็มใจ ทำแล้วสบายใจ แม้ทานนั้นมิได้ให้ด้วยมือตนเอง ผลอันเลิศก็จักเกิดขึ้นแก่ตน
พระควัมปติเถระรับอาสาว่า หากท่านกลับมาโลกมนุษย์แล้ว ก็จักช่วยบอกถึงวิธีการให้ทานที่ให้ผลอันวิเลิศนั้นต้องประกอบด้วยความเคารพดังที่กล่าวมา
มหาชนในเวลานั้นต่างพากันให้ทาน บริจาคทานด้วยความเคารพอันมีองค์ประกอบทั้งสามประการ จนบังเกิดอานิสงส์ผลอันเลิศทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
ทำให้ชีวิตของผู้ให้ทานด้วยความเคารพกลับรุ่งเรืองเจริญ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ สุข รุ่งเรืองเจริญ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
เช่นนี้หละกระมัง จึงเป็นเหตุให้ผู้คนในยุคต่อๆ มาเชื่อถือกันว่าหากทำรูปปฏิมาของพระควัมปติเถระที่มีลักษณะปิดหู ปิดตา ปิดทวารไว้บูชา จักทำให้ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข รุ่งเรืองเจริญ
ทั้งที่แท้จริงแล้วท่านพระควัมปติ ท่านมีปกติไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พอท่านมีเวลาว่าง จากศาสนกิจ ท่านก็จะปลีกตัวไปอยู่ในเสรีสกวิมานที่ท่านคุ้นเคย
แต่ด้วยคำสอนของท่านที่สอนว่า จงให้ท่านด้วยความเคารพอันประกอบด้วยลักษณะ ๓ ประการ ดังกล่างนี้แหละจึงส่งผลให้ผู้ให้ทานได้รับผลทันตาเห็น
เลยเป็นเหตุให้ผู้คนหลงเชื่อไปว่า พกพระปิดตาหรือพระควัมปติเถระแล้วจักทำให้เกิดลาภ ยศ สุข สรรเสริญ รุ่งเรืองเจริญ
เมื่อพอทราบที่มาที่ไปของพระปิดตาหรือพระควัมปติกันพอเข้าใจแล้ว ทีนี้เราก็มาตามดูอดีตชาติของท่านบ้างว่า มีความเป็นมาอย่างไร
ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ ท่านเกิดเป็นพรานเนื้อเที่ยวอยู่ในป่า
ต่อมาท่านได้เห็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า สิขี แล้วบังเกิดจิตเลื่อมใส ศรัทธา จึงได้ทำการบูชาพระบรมศาสดาพระองค์นั้นด้วยดอกอัญชันเขียว ด้วยบุญกรรมนั้น เมื่อท่านสิ้นชีวิตแล้วก็ไปบังเกิดในเทวโลก
กาลต่อมาเวลาล่วงเลยมาจนถึงสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า โกนาคมนะ ท่านพระควัมปติได้มาเกิดเป็นเศรษฐีอยู่แคว้นโกศล ไม่มีโอกาสได้พบพระพุทธเจ้า แต่ก็ได้ฟังธรรมจากพระเถระสาวกของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ
จึงบังเกิดศรัทธาเลื่อมใสได้ตั้งโรงทาน บริจาคอาหารคาวหวาน และน้ำดื่มไว้ในทิศทั้ง ๔ เพื่อถวายให้แก่สมณะ ชี พราหมณ์ ที่ผ่านไปมา ทั้งยังได้สร้างฉัตร และไพรที ไว้บนเจดีย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระโกนาคมนะ
เมื่อถึงกาลกิริยาท่านได้ไปเกิดในเทวโลกจวบจนถึงกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า กัสสปะ ท่านก็บังเกิดในเรือนมีตระกูลผู้มั่งคั่งแห่งหนึ่ง ตระกูลนั้นได้มีฝูงโคเป็นอันมาก จึงต้องมีพวกนายโคบาลคอยเฝ้ารักษาฝูงโคนั้น มาณพผู้มั่งคั่งเป็นนายผู้นี้ก็ต้องเที่ยวตรวจดูการทำงานที่พวกนายโคบายทั้งหลายทำอยู่
วันหนึ่งขณะที่ออกตรวจงานอยู่นั้น ท่านก็ได้เห็นพระเถระขีณาสพรูปหนึ่ง กำลังเที่ยวบิณฑบาตในหมู่บ้าน แล้วทำภัตกิจอยู่นอกหมู่บ้าน ณ บริเวณริมน้ำอันร่มรื่นแห่งหนึ่งทุก ๆ วัน มานพหนุ่มนั้นท่านเกรงว่า พระคุณเจ้าคงจะลำบากเพราะความร้อนของแดด จึงให้สร้างมณฑปด้วยไม้ซึกถวายแก่ท่านพระขีณาสพรูปนั้น พระเถระจึงนั่งในมณฑปนั้นทุกๆ วันเพื่อจะ อนุเคราะห์แก่เขา
ด้วยบุญกุศลแห่งทานนั้น เขาจุติจากมนุษยโลกนั้นแล้ว บังเกิดในวิมานชั้น จาตุมหาราชิกะ ใกล้ประตูวิมานก็บังเกิดป่าไม้ซึกใหญ่อันระบุถึงกรรมเก่าของเขา และมีดอกไม้หลากหลายประเภทที่เต็มไปด้วยสีและกลิ่น เข้าไปช่วยเสริมความงามทุกฤดูกาล ด้วยเหตุนั้น วิมานนั้นจึงปรากฏนามว่า "เสรีสกวิมาน" เทวบุตรนั้นท่องเที่ยว ไปในเทวดาและมนุษย์โลกทั้งหลาย ตลอดพุทธันดรหนึ่ง
กาลต่อมา ท่านเกิดเป็นบุตรของสกุลเศรษฐีสืบๆ มา ในพระนครพาราณสี มีชื่อว่า ควัมปติ เป็นหนึ่งในบรรดาสหายผู้เป็นคฤหัสถ์ทั้ง ๔ ของ ยสกุลบุตร แล้วได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักขององค์พระบรมศาสดาจนบรรลุพระอรหันต์
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ระบุว่าท่านดับขันธปรินิพพานที่ใด แต่ท่านคงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงปรินิพพาน
การที่ยกเอาประวัติท่านพระควัมปติเถระมาเล่าสู่กันฟังนี้ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้รู้ที่มาของพระมหาเถระ ๑ ในพระอรหันต์ประจำทิศพายัพ นั้นก็คือพระควัมปติ
อีกทั้งยังเป็นตำนานความเชื่อของผู้คนรุ่นต่อๆ มาว่า หากใครมีพระรูปพระปฏิมาควัมปติที่มีลักษณะปิดหู ปิดตา ปิดทวาร เอาไว้บูชา ก็จักทำให้เกิดลาภสักการะมาก
ดังที่ปรากฏอยู่ในประวัติของท่าน
 
เจริญธรรม
 
พุทธะอิสระ