ความเดินตอนที่แล้ว หมู่เทพยดาทั้ง ๑๐ โลกธาตุได้มาประชุมพร้อมกัน ณ ป่ามหาวัน เพื่อเฝ้าชมบุญฤทธิ์แห่งอรหันต์ที่มีอยู่ในพระผู้มีพระภาคเจ้าและอรหันต์สาวกทั้ง ๕๐๐ รูป ที่เป็นพระญาติพระวงศ์
เมื่อเทวดามาเข้าเฝ้ากันพร้อมแล้ว เทพยดาสุทธาวาสทั้ง ๔ องค์ ได้พากันแสดงวาจาสุภาษิตสรรเสริญคุณแห่งพระอรหันต์ดังที่ได้พรรณนาไปแล้ว
วันนี้เรามารับรู้เหตุการณ์ต่อมา
องค์พระบรมศาสดาทรงส่งข่ายพระญาณเตือนบรรดาภิกษุอรหันต์สาวกทั้ง ๕๐๐ รูป ว่า
ภิกษุทั้งหลายบัดนี้หมู่เทพยดาทั้ง ๑๐ โลกธาตุมาประชุมพร้อมกันโดยมากแล้ว มาเถิดเราจักแนะนำให้เธอทั้งหลายได้รู้จักนามของหมู่เทพที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ ท่านทั้งหลายจงฟังแล้วจงจำให้ขึ้นใจ ณ บัดนี้
หมู่ภิกษุทั้งหลายจึงสำรวมจิต เข้าสู่ทิพยจักษุญาณเพื่อให้ได้เห็นอัตภาพและอัธยาศัยของเหล่าเทพยดาที่ปรากฎในทิพยจักษุอันหมดจดของท่าน ซึ่งบางรูปก็สามารถเห็นได้น้อย เห็นได้มาก ต่างกันที่บุญฤทธิ์ที่สั่งสมมา
 
องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแนะนำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายบัดนี้ ยักษ์ทั้งหลาย ๗ พันตระกูล มีหน้าที่เป็นภุมมเทวดามีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก มีรัศมี มียศ มีถิ่นอาศัยอยู่ในนครกบิลพัสดุ์ ได้มาประชุมพร้อมกันแล้ว
 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ยักษ์อีกจำพวกหนึ่งมีอยู่ ๖ พันตระกูล อาศัยอยู่ที่ภูเขาเหมวตา ผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก มีรัศมีรุ่งเรือง มียศ จิตใจดีได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ยักษ์อีกจำพวกหนึ่ง ๓ พันตระกูล อาศัยอยู่ที่ภูเขา สาตาคีรี ผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก มีรัศมีรุ่งเรือง มียศ จิตใจดีได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ยักษ์ทั้งหลายรวมกัน หนึ่งหมื่นหกพันตระกูล ผู้รุ่งเรืองด้วยเดชได้มารวมตัวกัน ณ ป่ามหาวันนี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ ยักษ์จำนวน ๕๐๐ หลากหลายตระกูล ผู้มีอานุภาพแตกต่างกัน มีรัศมีต่างกัน มียศต่างกัน ทำหน้าที่ต่างกัน ได้มารวมตัวกัน ณ ที่นี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ยักษ์นามว่า กุมภีระ มีที่อยู่ตั้งแต่กรุงราชคฤห์จรดเขาชื่อ เวปุลละ ยักษ์ทั้งหมดจำนวนแสนตนพร้อมราชายักษ์นามว่า กุมภีระ ได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ท้าวธตรฐ ผู้ปกปักรักษาสถิตอยู่ในทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) เป็นราชาของพวกคนธรรพ์ ท้าวเธอเป็นผู้มีเดชมาก มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก มีรัศมีรุ่งเรือง มียศรักษาโลกในทิศบูรพา มีบุตรเป็นอันมาก ได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ บุตรของเธอล้วนมีนามว่า อินทร์ทั้งหมด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ ท้าววิรุฬหก ผู้เป็นราชาของพวกกุมภัณฑ์ ล้วนมีนามว่า อินทร์เหมือนกันหมด ท้าวเธอและบุตร ล้วนมีกำลังมาก มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก มียศรักษาโลกและสถิตอยู่ในทิศทักษิณ (ทิศใต้)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ ท้าววิรูปักษ์ ผู้เป็นราชาของพญานาคทั้งหลาย เธอมีฤทธิ์มาก มีกำลังมาก มีอานุภาพ มีรัศมีรุ่งเรือง เป็นผู้มียศรักษาโลกในทิศปัจฉิม (ทิศตะวันตก) เธอมีบุตรเป็นอันมาก ล้วนมีนามว่า อินทร์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ท้าวกุเวร ราชาของยักษ์ทั้งหลายเป็นผู้รุ่งเรือง มีเดช มีอำนาจ มีฤทธิ์มาก มียศรักษาโลกในทิศอุดร (ทิศเหนือ) บุตรของเธอมีจำนวนมาก ล้วนมีนามว่า อินทร์ เหมือนกันหมดได้มาสู่ป่ามหาวันนี้แล้ว
 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ท้าวธตรฐ ผู้เป็นใหญ่ในทิศบูรพา
ท้าววิรุฬหก ผู้เป็นใหญ่ในทิศทักษิณ
ท้าววิรูปักษ์ ผู้เป็นใหญ่ในทิศปัจฉิม
ท้าวกุเวร ผู้เป็นใหญ่ในทิศอุดร
บัดนี้มหาราชทั้ง ๔ พร้อมบริวารได้สถิตอยู่ในทิศทั้ง ๔ ณ ป่ามหาวันแห่งนี้แล้ว
 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริวารของมหาราชทั้ง ๔ ผู้มีมายา ล่อลวง โอ้อวด เจ้าเล่ห์ เป็นฤทธิ์ ก็มาด้วย อันมีนามว่า
กุเฏณฑุ , เวเฏณฑุ , วิฏ , วิฏฏะ , จันทนะ , กามเสฏฐะ , กินนุฆัณฑุ , นิฆัณฑุ , ปนาทะ , โอป- มัญญะ , มาตลิ , จิตตเสนะ , นโฬราชะ , ชโนสภะ , ปัญจสิขะ , ติมพรู , สุริยวัจฉสา
บริวารของมหาราชทั้ง ๔ ที่คอยทำมายา ล่อลวง ยโส เย่อยิ่ง จองหอง เจ้าเล่ห์ อวดดี ครอบงำหมู่มนุษย์ก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อธิบดีของคนธรรพ์ทั้งหลาย พร้อมตัจฉกะนาคราช
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาคที่อาศัยอยู่ตามสระน้ำนามว่า นภสะ พร้อมด้วยบริวารของตัจฉกะนาคราชก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาคผู้มีนามว่า กัมพลนาค และอัสสตรนาค พร้อมด้วยบริวาร ผู้อาศัยอยู่ในป่าปายาคะก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาคสกุลธตรัฏฐ ผู้มียศ มีลาภ มีบริวารมาก ผู้อาศัยอยู่ในแม่น้ำยมุนาก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทพบุตรผู้มีนามว่า เอราวรรณ ผู้เป็นช้างใหญ่ ผู้มีกำลังมาก มีฤทธิ์มาก ก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปักษีทวิชาติ ผู้มีตาทิพย์ มีปีก มีดวงตาอันรุ่งโรจน์ บริสุทธิ์ เผ่าพันธุ์ครุฑ มีนามว่า พญาจิตรสุบรรณครุฑ ผู้มีนาคเป็นอาหาร ซึ่งบินมาโดยอากาศสู่ป่ามหาวัน
 
ขณะนั้นเราตถาคตได้กระทำจิตของพญาจิตรสุบรรณครุฑให้เกิดอภัยทานแก่หมู่นาคทั้งปวง ณ ที่นี้
องค์พระตถาคตเจ้าได้ทรงทำให้พญานาคราชและบริวารทุกตระกูลให้มีจิตเมตตาอภัยธรรม แก่พญาจิตรสุบรรณครุฑ
 
หมู่นาคและฝูงครุฑต่างเจรจากันและกันด้วยอัธยาศัยอันดี มีไมตรีต่อกัน โดยนาคและครุฑทั้งสองตระกูลต่างมีพระตถาคตเจ้าเป็นสรณะ ที่พึ่งองค์เดียวกัน
 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกอสูรที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทร อันพระอินทร์ได้รบชนะแล้ว พร้อมนาคและครุฑ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ได้พร้อมเพียงกันมา ณ ที่นี้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกกาลกัญชอสูร ผู้มีร่างกายใหญ่โต มีอานุภาพ มีเดชมาก ก็มาพร้อมกับ ทานเวฆสอสูร เวปจิตติอสูร สุจิตติอสูร ปหาราทอสูร และนมุจีพระยามาร ก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตรของพลิอสูรจำนวน ๑๐๐ มีนามว่า ไพโรจน์ทั้งหมดได้เข้าไปชักชวนอสุรินทราหู โดยกล่าวว่า
 
ท่านผู้เจริญ บัดนี้เป็นเวลาอันอุดมมงคลที่เทพยดาทั้ง ๑๐ โลกธาตุมาประชุมพร้อมกัน ณ ป่ามหาวัน เพื่อเฝ้าพระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์สาวกพระอรหันต์ทั้ง ๕๐๐
มาเถิดท่านผู้เจริญ เราทั้งหลายไปแสวงหาท่านผู้เป็นอุดมมงคลด้วยกัน
 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หมู่เทพยดามีนามว่า อาโป วาโย เตโช ปฐวี ก็มาพร้อมกันด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทพยดาผู้มีนามว่า วรุณะ วารุณะ โสมะ ยสสะ ผู้มีญาณพิเศษ คือ เมตตา กรุณา และเจริญยศเป็นฤทธิ์เป็นเดชของเทพยดาเหล่านั้นก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทพยดาทั้ง ๔ แบ่งออกเป็นสองพวกผู้มีนามว่าเวณฑู สหลี พวกหนึ่ง เทพยดานามว่า อสมา ยมะ พวกหนึ่ง ต่างชักชวนกันมา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทพยดาผู้ถือดวงจันทร์เป็นสรณะ อาศัยดวงจันทร์บำเพ็ญตบะ มีนามว่า จันทรา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทพยดาผู้ถือดวงอาทิตย์เป็นสรณะ อาศัยดวงอาทิตย์บำเพ็ญตบะ มีนามว่า สุริยะ
เทพยดา คือ ปีนักษัตรทั้ง ๑๒ ถือปีนักษัตรเป็นสรณะ ยึดถือนักษัตรเป็นเครื่องบำเพ็ญตบะก็มาพร้อมกับสัตว์พาหนะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ท้าวสักกปุรินททวาสวะ ผู้มีเดชอานุภาพประเสริฐกว่าอสูรและเทพยดาทั้งหลายก็มาด้วย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หมู่เทพยดาทั้งหลายที่มีชื่อเหมือนกันหมดเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ ดุจดังเปลวไฟที่ลุกโชติอันมีนามว่า อริฏฐกะ และโรชะ ก็มา
อีกทั้งยังมีเทพวรุณะ เทพสหธรรม เทพอัจจุตะ เทพอเนชกะ เทพสุเลยยะ เทพรุจิระ เทพวาสวเนสี เทพเหล่านี้มีเดชา ศักดา อานุภาพ เป็นผู้มีรัศมีรุ่งเรือง ดุจดังสีแห่งดอกผักตบ มียศมาก ก็ร่วมกันมาด้วย
 
วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ นั่งเขียนจนระบมไปหมดแล้ว
พุทธะอิสระ