๑๗. อยากขึ้นสวรรค์ ต้องภาวนา
อธิบายว่า การภาวนามีอานิสงส์ส่งให้ชีวิตหลังความตายจะไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงยิ่ง ยิ่งกว่าการทำบุญกุศลใดๆ
การภาวนามีอานิสงส์มาก มีผลมาก จนสามารถส่งผลให้ลุถึงความดับและเย็นได้ในที่สุด
ซึ่งประเสริฐสุดกว่าสวรรค์และพรหม
๑๘. อยากบรรลุนิพพาน ต้องไม่มีตัวกูเป็นผู้ภาวนา
อธิบายว่า แม้เคยวิสัชนาว่า การภาวนาจะสามารถส่งให้ชีวิตหลังความตายจะได้ภพภูมิที่สูงยิ่งกว่าสวรรค์และพรหม นั่นคือนิพพาน
แต่หากว่าโดยกระบวนการปฏิบัติภาวนาที่ละเอียดขึ้น จะต้องทำทุกวิธีรวมทั้งการภาวนาเพื่อละวางตัวกู ให้ถึงความว่างอย่างหมดจด
เมื่อไม่มีตัวกู ภพแดนเกิด ชาติการเกิด จะมีมาจากไหน
การที่ยังมีภพแดนเกิด ชาติการเกิดได้เพราะมีตัวกู มีจิตกู มีอุปทานในตัวกู อันประกอบไปด้วยรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ท่านทั้งหลายควรเข้าใจว่า ตัวกูนี่แหละเป็นผู้สร้างภพ
ไม่ว่าจะเป็นสุขคติภพหรือทุกข์คติภพ กูก็เป็นคนสร้าง
เมื่อมีกูเป็นผู้สร้างภพ ชาติการเกิดซึ่งเป็นผลจากการมีภพก็เกิดขึ้น
ชรา มรณะ พยาธิ ทุกขโทมนัส จึงหลั่งไหล พรั่งพร้อม ถาโถมกันเข้ามาอย่างที่มิอาจปฏิเสธได้
ด้วยเหตุเช่นนี้แหละ ผลที่ไม่พึงปรารถนาจึงต้องทรมานจนสุดจะบรรยาย
หากสามารถโยนตัวกูทิ้งเสียได้ ในชั้นของภาวนาความสงบ สะอาด ฉลาด สว่าง ว่าง ดับเย็น ก็จักมิอาจปฏิเสธได้เช่นกัน
พุทธะอิสระ