อธิบายคำว่า สามี หมายถึง ผู้ให้การเลี้ยงดู ผู้คุ้มภัย ผู้เป็นที่พึ่งพาได้
อธิบายคำว่า ภรรยา หมายถึง ผู้ควรรักษา เลี้ยงดู ผู้ควรปกป้อง ผู้ให้การรับใช้ ผู้ให้การบรรเทาภาระ
คำว่า ความสงเคราะห์ หมายถึง การอุปถัมภ์เลี้ยงดู ตามหน้าที่ ด้วยพฤติกรรมที่ให้เกียรติ ยอมรับกันและกัน ด้วยความเคารพ
ข้อควรสังเกตุ องค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงใช้คำว่า สงเคราะห์แทนคำว่า บำรุงที่ใช้กับบิดามารดา
ด้วยเพราะสามีและภรรยา หาได้มีพระคุณเทียบเท่าบิดามารดาไม่ จึงทรงใช้คำว่า สงเคราะห์กับผู้เป็นสามีและผู้มีภรรยา
สามีภรรยาที่ควรแก่การสงเคราะห์ คือ ต้องเป็นบุคคลที่เลี้ยงง่าย ไม่มากเรื่อง
สามีและภรรยา ที่ไม่ควรเลี้ยงมีอยู่ ๓ ประเภท คือ
๑. สามี ภรรยา ที่มีปกติชอบ ด่าว่า ดูถูก เหยียดหยาม สาปแช่ง และมีจิตใจที่ไม่ซื่อสัตย์ มักมาก สำส่อน
๒. สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมโกง คอยแต่จะยักยอก มือไว เห็นแก่ตัว เอาเปรียบ และก่อหนี้สินไปทั่ว
๓. สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมเกียจคร้าน สันหลังยาว ไม่สนใจ การงานที่ตนมีหน้าที่ต้องทำ แต่เวลากินกลับตะกละ กินมากกว่าคู่ของตน
๔. สามีภรรยาที่มีพฤติกรรมปลิ้นปล้อน หลอกลวง ชอบโกหก ชอบนำเอาเรื่องภายในไปโพนทะนา นินทานอกบ้าน
๕. สามีภรรยา ที่อวดเบ่ง ชอบยกตนข่มคู่ครองของตน ชอบใช้วาจาทิ่มแทง ประจานคู่ครองในทางเสียหาย
สามีภรรยาที่คู่ควรแก่การสงเคราะห์
๑. สามีภรรยา ที่มีคุณธรรม และพฤติกรรมเสมอดังพ่อแม่
๒. สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมดุงดัจพี่น้องร่วมอุทร
๓. สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมเหมือนดังเป็นเพื่อนสนิทกัน
๔. สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมดุงดัจทาสรับใช้
คุณลักษณะของสามีภรรยาที่เป็นเนื้อคู่กัน จนแก่เฒ่า
๑. มีศรัทธาเสมอกัน เหมือนกัน จุดมุ่งหมายเดียวกัน เรียกว่า สมสัทธา
๒. มีศีลอันเสมอกัน มีความประพฤติสอดคล้องกลมเกลียวกัน เรียกว่า สมสีลา
๓. มีจิตใจเมตตา แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก กรุณาที่จะช่วยเหลือ และเห็นพ้องกันด้วยใจกรุณา เรียกว่า สมจาคา
๔. สติปัญญา อันเสมอกัน รู้เหตุ รู้ผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักสถานที่ รู้จักบุคคล รู้จักชุมชน เรียกว่า สมปัญญา
องค์พระบรมศาสดาทรงตรัสให้พรแก่ผู้บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรสเอาไว้สั้นๆ ความว่า สังคหะ แปลว่า การสงเคราะห์กันและกัน ซึ่งขยายความได้ถึง ๔ ประการ คือ
๑. ทาน การให้ การแบ่งปัน รวมไปจนถึง การให้อภัยแก่กัน
๒. ปิยวาจา การมีวาจาสุภาพ เสนาะไพเราะ ระรื่นหู ด้วยสัจจะวาจา
๓. อัตถจริยา การทำตนให้เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในการครองคู่
๔. สมานัตตตา การวางตนให้เหมาะสมต่อหน้าที่ของตน
สามีต้องทำหน้าที่ให้ภรรยาที่ควรสงเคราะห์เลี้ยงดูดังต่อไปนี้
๑. ยกย่องให้เกียรติ
๒. อย่าดูหมิ่น ไม่เหยียดหยาม
๓. ทำตนให้ซื่อสัตย์ต่อภรรยา
๔. มอบหน้าที่และช่วยสนับสนุนในหน้าที่แม่บ้านให้ลุล่วง
๕. ให้สิ่งจูงใจตอบแทน ในเมื่อภรรยาทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์
ภรรยาต้องทำหน้าที่ให้สามีที่ควรสงเคราะห์ ดังต่อไปนี้
๑. จักทำหน้าที่การงานที่ตนรับผิดชอบให้ดี
๒. ดูแลเอาใจใส่บิดามารดา ของสามี ดุจดังบิดามารดาของตน ทั้งยังต้องให้เกียรติ ยอมรับด้วยกิริยาสุภาพ นอบน้อม
๓. ซื่อสัตย์ต่อสามี และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
๔. รู้จักใช้จ่ายทรัพย์และสิ่งของ ของสามีอย่างรู้คุณค่า ไม่สุรุ่ยสุร่าย และรู้จักเก็บออม
๕. ขยันหมั่นเพียร ทำหน้าที่ของภรรยาและแม่บ้านที่ดีของสามี
คนโบราณท่านอบรมสั่งสอนลูกหลานของท่าน เมื่อจะแต่งงาน มีเหย้ามีเรือน มีครอบครัวว่า
๑. ไฟในอย่านำออก หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหา ความร้อนใจต่างๆ ในครอบครัวไปเปิดเผยแก่คนทั่วไปภายนอก
๒. ไฟนอกอย่านำเข้า หมายถึง ไม่นำเรื่องราวปัญหาต่างๆ ภายนอกที่ร้อนใจเข้ามาในครอบครัว
๓. ให้แก่ผู้ควรให้ หมายถึง ผู้ใดที่เราให้ความช่วยเหลือ ให้หยิบยืมสิ่งของแล้ว เมื่อถึงกำหนดก็นำมาส่งคืนตามเวลา เมื่อเรามีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ หากไม่เกินความสามารถของเขา เขาก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจ บุคคลเช่นนี้ภายหลังถ้ามาขอความช่วยเหลือเราอีก ก็ให้ช่วย
๔. ไม่ให้แก่ผู้ที่ไม่ควรให้ หมายถึง ผู้ใดที่เราให้ความช่วยเหลือให้หยิบยืมสิ่งของแล้ว ไม่ส่งคืนตามกำหนดเวลา เมื่อเรามีเรื่องขอความช่วยเหลือ แม้ไม่เกินความสามารถของเขา และเป็นเรื่องถูกศีลธรรมเขาก็ไม่ยอมช่วย คนอย่างนี้ ภายหลังถ้ามาขอความช่วยเหลือเราอีก อย่าช่วย
๕. ให้ไม่ให้ก็ต้องให้ หมายถึง ถ้าญาติพี่น้องเราที่ตกระกำลำบากอยู่มา ขอความช่วยเหลือ แม้บางครั้งไม่ส่งของที่หยิบยืมตามเวลา ภายหลังเขามาขอความช่วยเหลืออีกก็ให้ช่วย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน
๖. กินให้เป็นสุข หมายถึง ให้จัดการเรื่องอาหารการกินในครอบครัวให้ดี ปรนนิบัติพ่อแม่ของสามีในเรื่องอาหารอย่าให้บกพร่อง ถ้าทำได้อย่างนี้ ตัวเราเองเวลากินก็จะกินอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวล
๗. นั่งให้เป็นสุข หมายถึง รู้จักที่สูงที่ต่ำ เวลานั่งก็ไม่นั่งสูงกว่าพ่อแม่ ของสามี จะได้นั่งอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวล ไม่ถูกตำหนิ
๘. นอนให้เป็นสุข หมายถึง ดูแลเรื่องที่หลับที่นอนให้ดี และยึดหลักตื่นก่อนนอนทีหลัง ก่อนนอนก็จัดการธุระการงานให้เรียบร้อยเสียก่อน จะได้นอนอย่างมีความสุข
๙. บูชาไฟ หมายถึง เวลาที่พ่อแม่ของสามีหรือตัวสามีเองกำลังโกรธ เปรียบเสมือนไฟกำลังลุก ถ้าดุด่าอะไรเรา ก็ให้นิ่งเสียอย่าไปต่อล้อต่อเถียงด้วย เพราะในช่วงเวลานั้น ถ้าเราไปเถียงเข้าเรื่องราวก็จะยิ่งลุกลามใหญ่โต ไม่มีประโยชน์ คอยหาโอกาสเมื่อท่านหายโกรธ แล้วจึงค่อยชี้แจงเหตุผลให้ฟังอย่างนุ่มนวลจะดีกว่า
๑๐. บูชาเทวดา หมายถึง เวลาที่พ่อแม่ของสามี หรือตัวสามีเองทำความดีก็พยายามส่งเสริมสนับสนุน พูดให้กำลังใจให้ทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
คำสอนทั้ง ๑๐ ประการนี้เป็นของท่าน ธนัญชัยเศรษฐี อบรมสั่งสอนแก่นางวิสาขา ผู้เป็นบุตรสาว เมื่อคราวที่แต่งงาน
เมื่อประพฤติตนในหน้าที่ของภรรยาสามีที่ดีต่อกันแล้ว จักได้รับผลอันดี ๕ ประการ คือ
๑. ทำให้ความรักยืนยง
๒. ทำให้สมานสามัคคีกัน
๓. ทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข
๔. ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
๕. เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง
พุทธะอิสระ
Supporting one’s spouse
June 14, 2021
Husband means someone who supports, protects, and is dependable.
Wife means some who preserves, takes care of, protects, provides services, and relieves burdens.
Support means patronizing, in alignment with one’s duties, with respect and recognition.
It is noticeable that Lord Buddha used the word “support” instead of the word “taking care of”, which is for using with parents.
That is because spouse is not as benevolent as parents. Therefore, Lord Buddha used the word support with husbands and wives.
Husbands and wives who deserve support are those who are easy-going and not picky.
There are five types of inappropriate spouses.
1. Spouses who keep insulting, looking down upon, and cursing their mates, as well as spouses who are unfaithful, insatiable, and promiscuous.
2. Spouses who cheat, embezzle, and steal money. They are selfish and opportunistic, and they may cause lot of debts.
3. Spouses who are lazy and irresponsible of their own duties. When it is time for meals, they voraciously eat more than their spouses.
4. Spouses who are slick, deceiving, and are liars. They like to gossip with other people about their family matters.
5. Spouses who oppress their mates by verbally hurting and criticizing their mates.
Spouses who deserve support.
1. Spouses whose morality and behaviors are similar to parents.
2. Spouses whose behaviors are like siblings.
3. Spouses whose behaviors are like close friends.
4. Spouses whose behaviors are like servants.
Characteristics of spouses who are good match and live together till old age.
1. Similar faith and life objectives
2. Similar moral precepts and behaviors
3. Similar kindness for the disadvantaged
4. Similar wisdom which means knowing causes, effects, oneself, one’s ability, place, people, and society
Lord Buddha gave blessings to grooms and brides in wedding ceremonies on how to support in following four aspects.
1. Giving, sharing, including forgiveness
2. Polite, sweet, honest speech
3. Doing good and helping each other while living together
4. Behaving properly according to one’s duties
Husbands must perform following duties towards wives who deserve support.
1. Praise and respect
2. Refraining from insult or contempt
3. Faithfulness
4. Allocating duties to wives and supporting their duties as housewives
5. Giving rewards after their wives completely fulfill their duties
Wives must perform following duties towards husbands who deserve support.
1. Taking care of one’s duties well
2. Taking care of their husbands’ parents similarly to their own parents. They must courteously respect and accept their parents-in-law.
3. Being faithful towards their husbands and their duties
4. Carefully spending money of their husbands and saving money
5. Diligently fulfilling their duties as good wives and house wives
Ancient people taught their children and grandchildren who were getting married that.
1. Do not talk about family issues with outsiders.
2. Do not bring issues from outside into the family
3. Give to people who deserve it. Whoever borrowed and returned it in due time. Whenever we needed help, they were willing to help when they could. If they later need help, we should help them.
4. Do not give to people who don’t deserve it. Whoever borrowed but did not return it in due time. When we needed help, they did not want to help even though they could. If they later need help, we should not help them.
5. If relatives are in difficulty and come to ask for help, although sometimes they did not return what they had borrowed, we should help them.
6. Please take care well of cooking for the family and perfectly take care of parents-in-law food. If one can do that we can eat happily without any worry.
7. Sit properly means knowing your place. For example, do not sit higher than parents-in-law so that you will sit happily without worry. No one can blame you.
8. Take a good care of bedding. Wake up early before husband and take a good care of works before going to sleep so that you can sleep happily.
9. When parents-in-law or husband are angry like flame of fire. No matter what they scold you, please be silent and don’t argue with them. Because if you argue with them at that moment, it will be even worse and useless. Please wait and seek opportunity when they are soothed. Then, you gently explain them with reasons.
10. When your parents-in-law or your husband do good things, please encourage them to do more and more good deeds.
A millionaire named Thanunchai taught these ten teachings to his daughter, Visakha, when she got married. He told her that after behaving properly as spouse, one will receive following five good outcomes.
1. Their love will be long-lasting.
2. Spouses will be harmonious.
3. Family life will be peaceful.
4. They will be admirable and praiseworthy.
5. They are good role model for their descendants.
This is the most auspicious factor in one’s life.
Buddha Isara