Print
Hits: 946

 

วันนี้เสนอคำว่า ผลของความชั่วบาป จักไม่มีแก่ผู้ไม่กระทำ

คำว่าผลของความชั่วบาป หมายถึง ผลแห่งความทุจริต ๓ อย่าง ได้แก่

ทุจริตทางกาย คือ

การฆ่าสัตว์จักส่งผลให้เป็นผู้มีอายุสั้น ขี้โรค สติปัญญาไม่ตั้งมั่น เป็นที่รังเกียจของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อถึงเวลาตายจิตไม่สงบ ไปเกิดในทุคติภพ

ลักทรัพย์ จักส่งผลให้ทรัพย์ที่มีอยู่วินาศได้ง่าย ไม่เป็นที่เชื่อถือ มีฐานะฝืดเคือง กว่าจะได้ทรัพย์ใดๆ มาต้องทุกข์ยากลำบากทั้งกายใจ เมื่อได้ทรัพย์นั้นมาแล้ว จักใช้หมดไปอย่างไร้คุณค่า เป็นผู้ที่ถูกอัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย และโจรภัยรุมทำลายทรัพย์ที่สะสมไว้ และสุดท้ายเป็นผู้ตั้งอยู่ในความฝืดเคืองแร้นแค้นจนตาย ตายแล้วไปเกิดในที่ชั่ว

ประพฤติผิดในกาม ส่งผลให้มีโรคมาก มีร่างกายทรุดโทรมไม่เป็นที่รักของคนในครอบครัว ไม่มีเกียรติคุณในหมู่เพื่อนมนุษย์อายุสั้น สิ้นเปลืองทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ เสื่อมปัญญา ตายแล้วมีทุคติเป็นที่ไป

ทุจริตทางวาจา

พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ พูดคำหยาบ มีผลคล้ายกันคือ

ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ

ไม่ประเทืองปัญญา

ไม่มีสาระ

จิตไม่สงบ

ตายแล้วไปนรก

ทุจริตทางใจ

โลภอยากได้ของเขา ถือเป็นมโนกรรมทางใจ ส่งผลให้นั่งนอนไม่เป็นสุข ยิ่งถ้าหากลงมือลักขโมย หยิบฉวยเอาของเขามาทั้งต่อหน้าหรือลับหลัง จัดเป็นกายกรรมชั่วทางกาย เป็นพฤติกรรมของโจร

เป็นทุรชนที่แม้มีทรัพย์ ได้ทรัพย์นั้นมาด้วยวิธีสุจริต ก็มิอาจรักษาทรัพย์นั้นได้ ทรัพย์นั้นต้องมีอันวินาศฉิบหายไป ด้วยอำนาจกรรมชั่วที่ตนได้เคยกระทำ ตายไปแล้วที่ไปคือตกนรก
พยาบาทคิดแต่จะปองร้ายเขา ถือเป็นพฤติกรรมของทุรชนคนพาลสันดานหยาบ ผลกรรมที่จักได้รับคือ นั่งนอนไม่สงบสุข เป็นที่หวาดกลัวของคนทั้งหลาย มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก หวาดระแวง กายใจไม่สงบ มีโรคมาก ธาตุในกายขาดสมดุล เป็นเหตุให้อายุสั้น ก่อนตายจะทุกข์ทรมานแสนสาหัส ตายไปเกิดในนรก

เห็นผิดจากหลักธรรม ส่งผลให้เป็นคนงมงาย ไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว 
ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นผล

ไม่รู้กาลเทศะ

ไม่รู้บุญ ไม่รู้บาป

ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสัจธรรม อะไรเป็นอสัจธรรม

เป็นผู้มีความหลงในเวลาตาย

ตายแล้วไปเกิดในนรก

ผลดังกล่าวมานี้หากเกิดขึ้นแก่ผู้ใด ล้วนมาจากเหตุที่ตนกระทำเองทั้งนั้นหาได้มีผู้อื่นทำให้ไม่

ผลเหล่านี้จักไม่เกิดขึ้นเลยกับผู้มีสติปัญญาตั้งมั่นอยู่ในจิต จนสามารถละความชั่วทางกาย วาจา ใจ ได้

พุทธะอิสระ