ลูกตระหนักสำนึกถึงสิ่งที่พ่อทรงพร่ำสอนเสมอๆ คือการทำหน้าที่ของตนว่า

“ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว
โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกันจะต้องเกี่ยวโยงกัน 
ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ”

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓

แม้สิ่งที่ลูกๆ ไทยได้ช่วยกันตั้งโรงทานผลิตอาหารเลี้ยงดูแขกของพ่อ จักไม่อาจเรียกว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ตามฐานานุรูปของตนๆ ก็ตามที

แต่ลูกๆ ทุกคนก็ตั้งใจทำหน้าที่ของลูกไทยที่ดีตามที่คิดวิธีได้ และตามคำสอนของพ่อที่ให้ลูกๆ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น ซึ่งอีกหลายร้อยหลายล้านคนอาจจะแสดงความกตัญญูกตเวทีด้วยการทำหน้าที่ที่ตนถนัด เพื่อทดแทนพระคุณต่อพ่อด้วยกรรมวิธีอันหลากหลาย

โดยเฉพาะตัวลูกเอง แม้การเข้ามาทำอาหารเลี้ยงแขกของพ่อจักดูขัดแย้งขัดตาต่อผู้พบเห็น แต่ด้วยความสำนึกในภาระหน้าที่ของลูกไทย ไม่ว่าจักอยู่ในฐานานุรูปใด ก็มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

ครั้นเมื่อหมดสิ้นภารกิจเร่งด่วนแล้ว ลูกไทยคนนี้คงต้องกลับไปทำหน้าที่ของผู้สงเคราะห์โลก สงเคราะห์ตนเอง ตามสัจจะวาจาที่ได้อธิษฐานเอาไว้สืบไป

พ่อจ๋า มีคนถามลูกหลายครั้ง ว่าลูกได้ไปร่วมถวายดอกไม้จันทน์เพื่อเผาพระสรีระสังขารของพ่อด้วยหรือเปล่า

ลูกตอบพวกเขาไปว่า ลูกไม่คิดจะพรากจะเผาพ่อ ให้จากไปจากอารมณ์ ความรู้สึกของลูก

ด้วยเพราะยังมีเรื่องดีๆ อีกมากมายที่พ่อทำไว้ แต่ลูกยังไม่มีโอกาสได้คิด ได้ระลึก ได้ทำจนครบตามคำสอนของพ่อ

ลูกจึงมิอาจไปร่วมเผาพ่อด้วยเพราะลูกกลัวว่า สิ่งดีๆ ของพ่อจักถูกเผาสิ้นไปจากความทรงจำของลูก

ลูกอยากเก็บความทรงจำที่ล้ำค่าเหล่านั้นไว้กับหัวใจลูกตราบชีวิตจะหาไม่

งานออกพระเมรุ ถวายพระเพลิงในครั้งนี้ พวกลูกๆ ในเต็นท์หมายเลข ๙ จึงไม่ได้ไปร่วมถวายดอกไม้เพลิงเผาพ่อ

พวกเรากลับช่วยกันทำอาหารเลี้ยงแขกของพ่อ แขกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ กันทั้งวันทั้งคืน

โดยตั้งใจว่าจะเลี้ยงอาหารไปจนถึงวันที่อัญเชิญพระสรีระสังขารของพ่อไปบรรจุในสุสานหลวง

รุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันจันทร์ที่ ๓๐ ลูกๆ ในเต็นท์หมายเลข ๙ จะร่วมกันบำเพ็ญกุศลถวายแด่พ่อ

ด้วยการนิมนต์พระ ๑๙ รูปมาสวดมาติกาบังสุกุล และเจริญมนต์พระปริตร ถวายสังฆทาน ถวายภัตตาหารเพล เพื่อน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อ พร้อมทั้งเจริญมนต์พระปริตรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อแผ่นดินไทย

หลังจากนั้นพวกเราจักช่วยกันสวดมาติกาบังสุกุลถวายพ่อเป็นครั้งสุดท้าย

จึงเชิญลูกไทยทั้งหลาย หากว่างวันจันทร์ที่ ๓๐ ต.ค. นี้ เชิญมาร่วมกันบำเพ็ญกุศล สวดมาติกาบังสุกุล เลี้ยงภัตรตาหารเพลพระ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง

ส่วนของที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาล เส้นหมี่ เราจักช่วยกันนำไปบรรจุถุงนำไปแจกให้แก่พี่น้องไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป ขอท่านทั้งหลายโปรดอนุโมทนา และถ้ามีเวลาก็มาช่วยกันนะจ๊ะ

พุทธะอิสระ