องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้ตั้งอยู่ด้วยอาหารฉันใด

โพชฌงค์ทั้ง ๗ จักตั้งอยู่ได้ด้วยอาหารฉันนั้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด สติสัมโพชฌงค์ ที่ยังไม่เกิด ที่เกิดแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความทำให้มาก ซึ่งความใส่ใจอันดี ใส่ใจโดยถูกทางในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งสติสัมโพชฌงค์ นี่แลคืออาหารแห่งสติสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การทำความเข้าใจให้แจ่มชัดในธรรมทั้งหลาย ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล มีโทษและไม่มีโทษ ละเอียดหรือหยาบ เลวหรือประณีต เหล่านี้เป็นอาหารของธัมมวิจยสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด วิริยสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การทำความเข้าใจให้แจ่มชัดในธาตุทั้ง ๔ ทั้งที่เป็นภายในกายและนอกกาย ด้วยความเพียร ใส่ใจต่อการก้าวออกไปจากความเพียร ความเจริญก้าวหน้าในความเพียร เหล่านี้เป็นอาหารของวิริยสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด ปิติสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การใส่ใจอย่างแจ่มชัดถูกต้องในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งปิติสัมโพชฌงค์ เป็นอาหารแห่งปิติสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การใส่ใจและทำให้มากในความสงบกายสงบใจ เป็นอาหารแห่งปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด สมาธิสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความตั้งมั่นใส่ใจในเครื่องผูกจิตที่ถูกต้อง หรือความใส่ใจในนิมิตอย่างชาญฉลาดตั้งมั่น ชื่อว่าเป็นอาหารของสมาธิสัมโพชฌงค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แล้วสิ่งใดเล่าเป็นอาหารที่ทำให้เกิด อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งเจริญมากขึ้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การทำความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างแจ่มชัดด้วยความเพียรในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งอุเบกขาสัมโพชฌงค์ เหล่านี้เป็นอาหารอุเบกขาสัมโพชฌงค์

นี่แลภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เป็นทางแห่งความเจริญของโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ

มาในคัมภีร์ สังยุตตนิกาย มหาวรรค กัณฑ์ที่ ๓๐

พุทธะอิสระ