ขออภัยบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย

หลายวันมานี้ บรรดาแฟนคลับที่ติดตามรายการ หยิบมาเล่า ทางเฟสบุ๊คหรือทางโลกโซเชียล ตอนบ่าย ๒ โมงเศษ ๆ คงจะผิดหวังตาม ๆ กัน ที่ไม่ได้รับชมรายการ

เหตุเพราะช่วงเข้าพรรษามา ฉันต้องลงสอนกรรมฐานพระเณรตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงจนถึง ๕-๖ โมงเย็น

ตามที่องค์พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเอาไว้ว่า คนหลับและคนขาดสติไม่ชื่อว่าเป็นสมณศากยบุตรของพระธรรมวินัยนี้

ฉันจึงแจ้งแก่พระหนุ่มเณรน้อยทั้งหลายว่า ท่านทั้งหลายจะต้องเพียรพยายาม ระมัดระวัง รักษาสติ ให้ดำรงตั้งมั่นอยู่ภายในกาย เพื่อจักได้ทำ พูด คิด ไม่ผิดพลาด สมดังพระพุทธสุภาษิตที่ว่า

ผู้มีสติในกาย กายไม่ลำบาก
ผู้มีสติในวาจา วาจาไม่ลำบาก
ผู้มีสติในใจ ใจนี้ก็ไม่ลำบากเลย

สรุปรวมความว่า ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ จักเป็นสมณศากยบุตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ ต้องมีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา

ต้องเป็นผู้ตื่นรู้เท่าทันอยู่ในทุกขณะจิต ที่อารมณ์หรือเจตสิก เครื่องปรุงจิต จะเข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย

จักได้ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจการครอบงำของอารมณ์หรือเจตสิกนั้น ๆ

เหล่านี้คือหน้าที่ที่ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ จักต้องเพียรพยายามรักษาจิตนี้ให้มีสัมมาสติอยู่ในทุกขณะจิต

และสัมมาสติตามวิถีแห่งอริยมรรคมีองค์ ๘ คือ ความระลึกรู้ พิจารณาเห็นกายในกายอยู่

มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌา คือ ความยินดี (โลภะ) และโทมนัส คือ ความยินร้าย (โทสะ) ในโลกเสียได้

พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ฯลฯ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯลฯ

มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌา คือ ความยินดี (โลภะ) และโทมนัส คือ ความยินร้าย (โมหะ) ในโลกเสียได้ อันนี้เรียกว่า สัมมาสติ ฯ

คุณธรรมเหล่านี้ เป็นเครื่องบ่งบอกว่า ท่านทั้งหลายจักเป็นสมณศากยบุตรสาวกขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้าได้หรือไม่

หากท่านทั้งหลาย มีความเพียรพยายาม ที่จักเจริญสติสัมปชัญญะให้ตั้งมั่นอยู่ภายในกาย ในจิตนี้ได้

ท่านก็ชื่อว่า เป็นลูกหลานพระพุทธเจ้า

พุทธะอิสระ