ธรรมะบันเทิงกับองค์หลวงปู่พุทธะอิสระ วันศุกร์ 24 มิถุนายน 2554
ที่ FM 98.5 6.00 – 7.00 น.
เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชนคนดี่ที่รักทุกท่านที่รับฟังรายการธรรมะบันเทิง
วันนี้ทำไมมาสาย สายไม๊
ปกติเหรอ
หรือชั้นตื่นไฟก็ไม่รู้ ตื่นตี 3
วันนี้มีข่าวสารอะไร
เสียงคุณชักเบา
ผู้ดำเนินรายการ มีข่าวเณรแต๋ว แต่งหน้า นั่งพับเพียบ
หลวงปู่ ไม่ใช่ข่าวใหม่ ข่าวเก่าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ข่าวนี้รู้สึกมีตั้งแต่พฤหัสที่แล้ว
คุณให้ชั้นพูดเองนี้ มีประเด็นอะไร
ความเหมาะสมครับ
ชั้นมองเห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดา
นักบวชยังทำท่าประหลาดๆได้
คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เป็นธรรมดา
เท่าที่เราดู ก็ยังเป็นเด็ก ใช่ไม๊ ใครชวนให้ทำ ก็ทำ
คิดว่า ไม่ได้ทำให้ศาสนาเสียหาย
ชาวบ้านเค้าดูภาพ เค้าเข้าใจในระดับหนึ่ง
เวลาชั้นไปแสดงธรรม ก็ไม่เห็นมีใครถาม
แต่นักบวชที่มาทำท่าแปลก มีวุฒิภาวะแล้ว
ต้องพูดต้องคุย ทำให้เสีย เสื่อมศาสนาได้
เณรที่วัดชั้น ไม่มีพระพี่เลี้ยง ถ้าไม่คุม ไม่ดู ก็ฉันเย็น
คราวที่แล้ว คุณถามชั้นเรื่องปฏิจจสมุปบาท
ที่ว่าแล้ว คุณ มันต้องใช้เวลาทั้ง ชั่วโมง
เริ่มต้นจากวัฏฏะ เป็นวงล้อ กงกรรม
เริ่มจากความไม่รู้ ทำให้ทำอะไรได้เยอะแยะ
เหตุแห่งความไม่รู้ ทำให้เกิดการปรุง
ไม่เห็นตามความเป็นจริงของตัวเอง ของสภาพแวดล้อม
ที่เรียกว่า ปรุงแต่งขันธ์ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์
แล้วก็มีการปรุงแต่งในนามขันธ์ วิเคราะห์เอาเอง ปรุงเอาเอง
ปรุงแต่งว่า คนโน้น คนนี้
ความจริง ความสวยไม่มีในโลก แต่มีเหตุปัจจัยประกอบ
ถ้าไม่อาบน้ำ
นี่เรียกว่า รูปขันธ์
นามขันธ์ ก็ เค้าเดินไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย เราก็ว่าเค้าเดินกระแทกใส่เรา
พอสังขารปรากฏ ก็เกิด วิญญาณ ความรับรู้ รับรู้อารมณ์ ความรู้สึก
ไม่ใช่วิญญาณผีหลอกแบบชาวบ้าน
เณรแต่งสภาพเป็นผู้หญิง
นักการเมืองหาโอกาส แสดงให้ชาวบ้านเห็นว่า เอาของมาให้
แต่จริงๆ ก็ของชาวบ้าน ไม่ใช่ของเค้า
รู้ถูก คือรู้ว่า ไม่ใช่ของเค้า มันเป็นของเรา ที่เค้าเอามาให้เรา
เกิด นามรูป
ชีวิต กับจิต
ตัวนามก็คือ ตัวจิต
ตัวรูป ก็คือชีวิต
บางสำนัก ก็เอาขึ้นมาสอนว่า มีแต่รูป ไม่มีนาม
นามรูป ก็คือ ร่างกาย
เกิด สฬายตนะ 6 อย่าง คือ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง ลิ้นรับรส จมูกได้กลิ่น กายสัมผัส ใจ
รับรู้
เหล่านี้ มันเกิดแดนต่ออารมณ์ เรียกว่าสฬายตนะ
เกิดผัสสะ เหตุปัจจัยของผัสสะ ทำให้เกิดเวทนา
เกิดเวทนา
เกิด...
เกิดตัณหา ความทะยานอยาก
พอเกิดแล้วทำให้เราหวงแหน ยึดถือ สะสม ปฏิสธก็ได้ ยอมรับก็ได้
ที่ปฏิเสธ เพราะไม่ถูกใจเรา มีตัวกูเป็นใหญ่
ตัณหาทำให้เกิดอุปาทาน
ก็เกิดอาลัย
เกิดกระบวนการยึด รับ จับต้อง หยิบฉวย
เกิดภพ แดนเกิด
แล้วมันก็มีชาติ เกิดลักษณะที่เค้าเรียกว่า เกิดชาติภพ
ก็พูดแบบชาวบ้าน เอา สองมาเป็นหนึ่ง หนึ่งมาเป็นสอง
ชาติเกิดเป็นอะไร ชาตินี้เป็นมนุษย์ ชาติต่อไปเป็นเทวดา
พอชาติเกิดเป็นมนุษย์ ก็มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย
ทั้งหมดก็มาจากคำว่า ไม่รู้
สรุปก็คือ ความไม่รู้ เกิดตัณหา อุปาทาน
สรุป ปฏิจจสมุปบาท มันวนได้ 12
ถ้าตราบใดที่ยังไม่ตัดวงจรอุบาท ความโง่
นี่คือ การวนรอบ
ซึ่งมีพระพุทธเจ้าสอนว่า ถ้าเราอยากพ้นจากความทุกข์
ส่วนใหญ่เราจะอธิบายปฏิจจสมุปบาทแค่ตอนปลาย
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ช่วง ชาติภพ
แต่ไม่รู้จัก ช่วงแห่งอุปาทาน
จนถึงชั้นที่ 1 อวิชชา
เพราะเราไม่รู้ ก็ทำให้เราทำชั่ว
ที่รู้อยู่ทุกวันนี้ รู้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย สุข ทุกข์
เราก็หาวิธีทำยังไงให้สุขมาก สุขถาวร
แล้วก็จัดสรรความสุข
โดยไม่รู้ว่า มันจริงหรือปลอม
ปฏิจจสมุปบาท เป็นอาการที่ทำให้สภาพมนุษย์ เกิด
พอเกิดมาแล้ว ก็มารับผลแห่งกรรมที่ทำในอดีต และมามีผลในปัจจุบัน
เพราะฉะนั้น กระบวนการปฏิจจสมุปบาท
จึงเป็นความจริงอย่างประสริฐ ที่ใครก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
ถ้าคุณอยากจะปฏิเสธ ต้องปฏิเสธตั้งแต่อวิชชา
ที่ไม่ใช่จากตำรา แต่จากความจริงอันประเสริฐ คืออริสัจ 4
รู้ทุกข์ นี่ปลายเหตุ
สมุทัย สาเหตุ เริ่มรู้สาเหตุ
รู้นี่ รู้อะไร ไม่ใช่รู้วิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่ ....
แต่รู้เรื่องของชีวิต และความจริงของชีวิต
รู้เรื่องสรรพชีวิต เกิดขึ้นได้อย่างไร ตั้งอยู่ และดับไปอย่างไร
ชั้นให้กรรมฐาน ในการสอนกรรมฐานลูกศิษย์ชั้นที่วัด
เรียนรู้ชีวิต ศึกษาวิชชา ลุถึงปัญญา นำพาชีวิต
นี่คือ กระบวนการในการเรียนรู้ปฏิจจสมุปบาท
นี่คือ หลักของปฏิจจสมุปบาท และการเข้าถึง
วิเคราะห์ได้คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ต้องรู้อริยสัจ 4
รวมปฏิจจสมุปบาท กับอริยสัจ 4 ในหัวข้อที่ว่า
เรียนรู้ชีวิต ศึกษาวิชชา ลุถึงปัญญา นำพาชีวิต
ศึกษา ชั้นไม่ปฏิเสธวิชาประกอบอาชีพ
แต่จงอย่าลืมอีกวิชา คือวิชาชีวิต ที่เรียกว่า วิชชาและจารณะสัมปันโน
คือวิชาและความประพฤติอันประเสริฐ ดีเลิศ งามพร้อม
วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ความรู้อันประเสริฐ
แต่ความรู้ที่อยู่ที่ชีวิตของเรา
เรียนรู้ชีวิตตัวเองให้อย่างถ่องแท้
ว่า เกิดขึ้นอย่างไร
ตั้งอยู่ได้อย่างไร
และจบลงแบบไหน
ที่จริง ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นวิชาชีวิตทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์
คือ รู้การดับทุกข์เป็นวิธี แล้วต้องลงมือปฏิบัติ
ทีนี้ หลักปฏิจจสมุปบาท เป็นรายละเอียดในการปฏิบัติ
แต่จะเรียกว่า วงจรอุบาทก็ได้
ธรรมะของพระพุทธเจ้า มีทั้งเป็นบวก เป็นกุศล
เป็นบาปก็ได้
แต่ปฏิจจสมุปบาท หลุดจากบุญและบาป
เป็นการชี้เหตุปัจจัยแห่งบุญและบาป
หลายคนแยกว่า
เป็นวิมุตติธรรมที่นอกเหนือบุญและบาป
ที่จริงนี่อย่างย่อแล้ว
อย่างละเอียดต้อง
อวิชชามีองค์ประกอบอะไร
เหตุปัจจัยของอวิชชา
จะดับไปได้อย่างไร....
นี่ก็ย่อให้กระชับ รวดเร็ว ทันต่อเวลา
ช่วงที่ 2
ชั้นอยากชวนคุณคุยเรื่อง วีรกรรมของคุณสุวิทย์
ที่ไปปกป้องดินแดนไทยที่ประชุมมรดกโลก
เพราะวันพฤหัสที่ผ่านมา แม่ของคนที่ติดตามชั้น โทรฯจากพันธมิตรว่า
คุณสุวิทย์ได้ไปเซ็นต์ยกพื้นที่รอบๆประสาทยกให้เขมรแล้ว
ข่าวตอนตี 3 เช้านี้ เค้าไม่ได้ไปเซ็นต์ ชั้นไม่ได้เชียร์เค้า
เค้าเสียสละ ช่วงนี้หาเสียงเลือกตั้ง แทนที่จะไปหาเสียง
คนที่มีวิชาหนาเตอะ ของพันธมิตร
ใครก็ว่าชั้นเป็นพระพันธมิตร
ออกมาขอโทษเค้าหน่อย
ไม่งั้น วันข้างหน้า จะมีใครกล้าทำ เพราะว่า ทำแล้วโดนด่า
อยากให้แยกแยะว่า เรื่องส่วนตัว กับส่วนรวม
เอาประโยชน์ส่วนรวมก่อนได้ไม๊
เค้าไม่มีอะไรดีเลยเหรอ
หรือ สื่อบางประเภท ก็ด่าแต่รัฐบาล
ถ้าชั่วมากกว่าดี ควรตำหนิ
แต่ถ้าดีมากกว่าชั่ว ก็อย่าไปด่าเค้า ต้องให้กำลังใจ
ชั้นไม่ได้มาถือหาง
เพราะว่า ชั้นก็ไม่ได้เลือกตั้งอยู่แล้ว
โดยสามัญสำนึก ชั้นคิดว่า ไม่มีคนไทยทำอย่างนั้น
คุณเชื่อหรือว่า คุณทักษิณรักประเทศไทยจริงๆ
ถ้ารัก ทำไมเอาประเทศไทยไปด่าทั่วโลก
ทำไมไปเป็นที่ปรึกษาให้เขมร
ไปปรามาส และเข้าข้างเขมร
ต้องหาวิธีปกป้อง
อาทิตย์นี้ มูลนิธิฯ มีประชุมที่วัด
ชั้นมองว่า เค้าเสียสละต่อประเทศชาติ
ชั้นจะสั่งให้เอาดอกไม้ไปให้คุณสุวิทย์เค้าหน่อย
...ตาชั่ง ถ้าดีมากกว่า ชมเค้าหน่อยไม่ได้เหรอ
อ้ายคนที่ด่า น่าอัปรีย์
ต้องยกขึ้นมา..
เหมือนทหารที่ไปปกป้องชายแดน
ลูกศิษย์ชั้นเป็น... บอกทหารตายเป็นเบือ ไม่มาพูด กลัวเสียภาพ..
เดี๋ยวนี้สื่อทุกสำนัก เหมือนเชียร์พรรคเพื่อไทยกลายๆ
เพราะไปตามกระแส
เอากระแสมาเป็นข่าว
แล้วถามว่า อีก 30 กว่าพรรค ไม่มีสิทธิ์มาลงหน้า 1 เหรอ
อย่างนี้ ชั้นมีตังค์ ก็ไปทำโพล
มีวัดบางวัดในนครปฐม เค้ารู้กันว่า สมภารวัดนี้ ..
แต่เชียร์ เพราะวัดนี้มีห้องนอน สำหรับนักข่าวอยู่
วัดอะไรที่นักร้องดังๆ ตาย
คุณรู้ไม๊ เพราะอะไร ตังค์ไง
ทุกอย่างเป็นข่าวหมด หมาขี้ยังเป็นข่าว
ที่พูดนี่ ไม่ใช่บ่อยทำลายศาสนา
สื่อมวลชนปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่
นักข่าวที่ไม่ดีทั้งหลาย จะทำข่าวต้องจ้าง
ไทยรัฐ เดลินิวส์ มาถามชั้นว่า จะจ่ายเท่าไหร่
นี่เป็นความจริง
ชั้นไม่แปลกใจ ประเทศไทยมีแค่ 2 พรรค
เมื่อเช้ามีข่าว คุณสุวิทย์ไปทำประโยชน์ให้แผ่นดิน
นิดเดียว แล้วอะไรก็ไม่รู้ ข่าวอื่นไล่ยิงกัน
ผู้ดำเนินรายการ มีข่าวออกมาว่า 2 พรรคจะรวมกัน
ชั้นพูดแบบชนิดไม่เข้าใครออกใคร
ถ้าทำได้เป็นบุญของแผ่นดิน แต่อย่าทำเพื่อใครนะ
ชั้นพูดมาก่อนมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง
ขอร้องเถอะ ลองมาจับมือกันซิ
พูดอย่างนี้ ชั้นขนลุกเลยนะ
พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยเค้าจับมือกับใครก็ได้อยู่แล้ว
แต่ประชาธิปัตย์ เค้าอีโก้มากหน่อย
ไม่ใช่รักษาอุดมการณ์
ประชาธิปัตย์เค้าจะมีข้อเสียประมาณนี้
ต้องตัดเอาความหมั่นไส้ออก เอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่
เป็นไปได้ไม๊
ชั้นก็อยากให้เป็นนะ ภาวนา
เป็นแล้ว ในหลวงเป็นสุข
ประเทศจะได้พัฒนา ชั้นเสียดายนะ
5 ประเทศ ไทยเป็นใหญ่ทางเศรษฐกิจ มัวแต่ทะเลาะกัน เสียโอกาส
ช่วยจับมือกันหน่อย ก็วิงวอน
ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดชั้นอยู่ประชาธิปัตย์ก็มาก ที่ฟังอยู่รายการนี้
พรรคใหญ่ 2 พรรค
งูเห่า ปลาไหล มันจะได้เตรียมเนื้อเตรียมใจ
แต่ชั้นว่า เจ้าของพรรคเพื่อไทยเค้าไม่ยอม
เพราะว่า เค้าไม่ได้อะไร
และประชาธิปัตย์จะยอมเหรอ
คือ ทุกพรรคต้องก้าวล่วงตรงนี้ไปให้ได้
นักวิเคราะห์ช่วยไปวิเคราะห์ให้ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยฟังหน่อยเถอะ
จริงๆ ชั้นก็อยากให้เป็นอย่างนั้น ตอนที่เค้ามีปัญหา
เพื่อประเทศไทย แผ่นดินไทย
อย่าเอาประโยชน์ของครอบครัวใครมา
เพื่อไทยจะยอมไม๊
ประชาธิปัตย์จะยอมลดลงมา
อยากบอกพวก โหวตโนทั้งหลายว่า
คนเค้าจะไปเลือก
เค้ามีคะแนนจัดตั้ง
ถึงคุณไม่เลือก เค้าก็เข้ามา
ชั้นไม่ได้เชียร์คุณสุวิทย์
แต่สิ่งที่ไปด่าเค้า ควรจะออกมาขอโทษ
ธรรมะรักษา ให้ทุกคนมีสติปัญญาตั้งมั่น คิดหวังสิ่งใด ได้สมปรารถนา
เจริญธรรม